ก็ตามความเสี่ยงด้วยแหละครับ

ผบห รายได้มั้งคง ทำงานกันไปได้ยาวๆ ย้ายบริษัทได้สบายๆ

ส่วนดาราความเสี่ยงเยอะกว่าเยอะ ไม่ต่างกะทำธุรกิจ แต่เป็นการขายตัวเองกิน(ในแง่ดีนะ)

พวกที่หากินได้ระดับสูงๆ ยืนระยะยาวๆนี่แทบจะนับคนได้ ลิสท์มาผมว่าเกิน100ก็น่าจะแทบคิดกันไม่ออกละ

ผมว่าได้น่ะ เพราะแกคงถ่ายโอนทรัพย์สินไปบางส่วนก่อนแล้ว อย่างแย่สุดคือโดนฟ้องล้มละลาย แต่ก็มีกินมีใช้ไม่ลำบากอยู่ดี

เคสนี้ไม่ควรว่าใครเลย

เพราะรายละเอียดเชิงลึกจริงๆ ไม่มีใครรู้

ช่วงนั้นแทบจะอาณาจักรสาระแนเลย
ช่องทีวี รายการ ค่ายเพลง แมคกาซีน คลื่นวิทยุ หนัง
ช่องสาระแน จัดออนทัวร์ออกต่างจังหวัดแล้วคนเยอะด้วย
เป็นวิลลี่ก็คงสงสารพนักงานประมาณนึง

4ปี เคลียร์หนี้106ล้าน ตกปีละ26ล้าน = 13ล้าน/คน/ปี

คิดง่ายๆ หาเงินใช้หนี้เดือนละ 1.1ล้าน

ดาราระดับนี้ค่าตัวเฉลี่ย20,000-30,000/เทป รับเชิญก็10,000/เทป อันนี้ผมเทียบกับดาราตลกที่มีชื่อเสียงพอประมาณคนนึงที่รู้จัก

วันนึงรับ2งาน และคงรับเงินแล้วโปะหนี้รัวๆ แล้วเงินใช้กินอยู่ก็เอามาจากธุรกิจปลาคาร์ฟ/สวนผัก/วิตามินเอา

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมต้องกินข้าวกอง

ไม่ใช่ทุกคนจะหาได้แบบนี้ครับ พวกคนบันเทิงที่ชีวิตตกอับก็มีเยอะมาก
แต่ผมว่าเป็นเพราะ 2คนนี้เป็นที่รักของคนในวงการ เขาจึงป้อนงานให้เรื่อย ๆ
แต่ถ้าคนไม่เอาใครเลยอย่างอีกท่านหนึ่ง ก็แทบไม่มีงาน

ถ้าล้มบนฟูกในกรณีนี้คือต่อให้หมดตูดแบบจริงๆก็ยังสามารถหาเงินมาใช้ได้แบบที่ไม่ใช่ทำตลอดชีวิตก็ไม่หมด
ผมว่ามันก็เรียกล้มบนฟูกได้ ถามจริง 106 ล้าน ตีหยาบๆคนทำงาน 35 ปีชดใช้ ต้องใช้เงินปีละ 3 ล้าน
ตกเดือนละ 250k อันนี้คิดแบบเด็กอนุบาลเลย ยังไม่รวมค่ากินค่าอยู่ค่านู่นนี่นั่นนะ เอาแบบสังเคราะห์แสงได้

มีกี่ % ในประเทศไทยที่จะรอด ต่อให้หารคนละครึ่ง 125k ก็ขยับมาไม่น่าเกิน 20% ของประชากรเลยมั้งที่หาได้ขนาดนั้น

4ปีใช้หนี้ร้อยล้านหมด ขอถามทำเดียว เสียภาษีมั้ย

เอาตามตรงเรื่องนี้จะเป็นหอยที่ออกมาให้ข้อมูลเป็นส่วนมาก วิลลี่แทบจะไม่พูดเลยมั้ง ส่วนเปิ้ลเคยแฉลบๆบ้างบางครั้ง แต่ก็ไม่มาก เลยหาข้อสรุปยาก

แต่เห็นหลายเมนต์บอก 2 คน 4 ปี ปิด 106 ล้านได้เพราะทำงานหน้าฉากวงการบันเทิง ซึ่งมันจริงครึ่งเดียว ใช่ครับวงการบันเทิงเบื้องหน้ามันหาเงินง่าย แต่ก็ต้องเป็นตัวท็อปจริงๆที่จะมีรายได้เยอะแบบต่อเนื่องได้ แต่ในเคสของวิลลี่กับหอยผู้ใหญ่ในวงการบันเทิงรู้ไทม์ไลน์เหตุการณ์ทั้งหมดครับว่าเกิดอะไรขึ้น และพอวิลลี่-หอยตัดสินใจไม่ยอมล้มละลาย ขอสู้ใช้หนี้ ทีนี้งานมาเพียบครับ เลยจะสื่อว่าไม่ใช่ว่าใครๆก็ทำได้ มันมีปัจจัยมีตัวแปรเยอะ เพราะต่อให้ผู้ใหญ่ให้โอกาส แต่คุณไม่มีฝีมือ ไม่มีสตอรี่ที่มันเห็นภาพ หรือเป็นที่รักของคนในวงการมาก่อน กับอีกหลายปัจจัยประกอบกันทั้งหมด ฉากจบก็คงไม่ใช่แบบนี้

และผมเชื่ออย่างนึง การที่ผู้ใหญ่ในวงการตอนนี้เลือกสนับสนุนพี่น้องคู่นี้ มันก็ทำให้ได้คำตอบหลายๆอย่างแล้วนะ

มีหนี้ 100 ล้าน จากมีแทบไม่เหลือ ผมไม่กล้าเรียกว่าล้มบนฟูก ดูด้อยค่าเค้าเกินไป แต่ก็ความเข้าใจผมแหละนะ อาจจะเข้าใจผิด สผมนึกไปถึงล้มแบบยังมีคนให้เงินจ่าย เหมือนลูกคนรวยทำนองนั้น

ตัวเลขหนี้ร้อยล้าน มีลูกมีเมีย มีหนี้ต้องใช้เดิมอยู่แล้ว พอพูดว่าล้มบนฟูกนี่ผมรู้วึกเบาหวิวเลยกับสิ่งที่เค้าทำมา ไม่รู้เหมือนกัน แล้วแต่มุมมอง

ใช้หนี้จนหมดมันล้มบนฟูกยังไง?

ดีใจกับหุ้นส่วนทุกท่านนะ ทั้งอดีตและปัจจุบัน ที่ผ่านมาและมีความสุขต่อไปได้


สาระแนโชว์นี่ ที่สุดอยู่ช่วงหนึ่งของรายการทีวีไทยเลย

ช่วงพีคนี่จะจะช่วงสาระแนห้าวเป้งมั้ง สุดจริงช่วงนั้น

เคสนี้นะ ถ้าในกรณีผมเป็นเปิ้ลนะ

แล้วก่อนจะทำอะไร ผมพูดแล้วพูดอีกว่ามันเสี่ยงอาจเป็นหนีบลาๆ ถ้าไม่ฟังผมก็ถอนหุ้นอะ

แต่ถ้ากลับกันคือตัดสินใจจะทำด้วยกันแล้ว ไอเดียนี้มันเกิดพลาดแล้วเป็นหนี้ ผมก็ใช้ด้วยกัน

ส่วนล้มบนฟูกไหม ผมว่าล้มบนดงกระบองเพชรแล้วกัน คือเจ็บปวดทุกวันแต่ยังมีอะไรมาพยุง

(เชื่องเสียง งาน คอนเนคชั่น)