รูเบน อโมริม กุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับว่าการออกไปของ แดน แอชเวิร์ธ ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬา นั้นไม่ใช่สถานการณ์ที่ดีที่สุด แต่เขาเชื่อว่าวิสัยทัศน์ของสโมสรยังคงชัดเจนและไม่ได้รับผลกระทบ

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แมนฯ ยูไนเต็ด ประกาศข่าวช็อกว่า แอชเวิร์ธ ได้แยกทางกับสโมสร หลังจากอยู่ทำหน้าที่ ผอ.กีฬา เพียง 5 เดือน

อโมริม สัมภาษณ์กับสื่อเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ แอชเวิร์ธ ออกจากตำแหน่งกะทันหันก่อนเกมยูโรป้า ลีก รอบลีกเฟส พบกับ วิคตอเรีย พัลเซ่น คืนวันพฤหัสบดีนี้

"สิ่งแรกที่ผมอยากจะพูดคือตั้งแต่วันแรก ผมรู้สึกได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากเจ้าของสโมสร" อโมริม กล่าว

"จากโอมาร์ (เบร์ราด้า ซีอีโอ) จากแดนด้วย จากเจสัน (วิลค็อกซ์ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค)"

"แดนเป็นส่วนหนึ่งของสโมสร และผมรู้สึกถึงการสนับสนุนจากแดนจริง ๆ เช่นกัน แต่นี่คือวงการฟุตบอล และบางครั้งสิ่งเหล่านี้ก็เกิดขึ้นได้ มันเกิดขึ้นได้ทั้งกับนักเตะ กับโค้ช"

"ผมรู้ว่ามันไม่ใช่สถานการณ์ที่ดีที่สุด แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องเดินหน้าต่อไป เส้นทางชัดเจนสำหรับทุกคน และผมคิดว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นได้ในวงการฟุตบอล"

เมื่อถูกถามว่าเขากังวลหรือไม่ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่มั่นคงเหมือนตอนที่เขาเข้ามาเมื่อเดือนที่แล้ว อโมริม กล่าวว่า "ผมไม่คิดอย่างนั้น"

"อย่างที่ผมบอก ผมรู้สึกถึงการสนับสนุนจากทุกคนตั้งแต่วันแรก ดังนั้นการที่คนคนหนึ่งออกไปไม่ได้ทำให้สิ่งใดเปลี่ยนแปลงไป"

"แน่นอนว่ามันเป็นสถานการณ์ที่เลวร้าย อย่างที่ผมบอก เพราะเรากำลังพูดถึงมนุษย์คนหนึ่ง มืออาชีพที่สนับสนุนเราในฐานะทีม"

"แต่ผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือวิสัยทัศน์ของคุณชัดเจนมาก ๆ และวิสัยทัศน์นั้นจะไม่เปลี่ยนแปลงหากมีเพียงคนเดียวที่ออกไป"

แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ติดต่อกันให้กับ อาร์เซนอล และ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ทำให้นำไปสู่ข่าวลือว่าพวกเขาอาจเสริมทัพเพิ่มในตลาดซื้อขายเดือนมกราคม

เมื่อถูกถามว่าเขาจำเป็นต้องขายนักเตะเพื่อซื้อเพิ่มเข้ามาหรือไม่ อโมริม กล่าวเสริมว่า "ไม่ ผมโฟกัสไปที่การดูและทำความเข้าใจผู้เล่นของผมมากกว่า ผมคิดว่านั่นคือปัญหาอย่างหนึ่งของสโมสร"

"เราต้องโฟกัสไปที่สิ่งที่มี เราต้องโฟกัสที่อะคาเดมี่และต้องมีโปรไฟล์ที่ชัดเจนเมื่อคุณได้ผู้เล่นมา"

"ดังนั้นจึงมีรายละเอียดมากมายที่คุณต้องจัดการ คุณเห็นได้จากลูกตั้งเตะ บางครั้งเมื่อคุณมองไปที่ทีมของเราและพบว่าเราเป็นทีมขนาดเล็กเมื่อเทียบกับทีมอื่น ๆ"

"ทุกรายละเอียดมีความสำคัญ และเราต้องชัดเจนในโปรไฟล์ก่อน จัดการกระบวนการทั้งหมด จากนั้นจึงเข้าสู่ขั้นตอนการซื้อและขายนักเตะ"

"แต่เรามีนักเตะอย่าง ไท (มาลาเซีย), นักเตะระดับทีมชาติ, นักเตะที่ดี และเราต้องการเวลาในการสอนไอเดียของเราให้พวกเขา แล้วเราก็จะได้รู้ เพราะนี่คือสโมสรที่ยิ่งใหญ่ ถ้าเราไม่ชนะ โค้ชก็ต้องออกไป นักเตะก็ต้องออกไป คุณต้องเข้าใจเรื่องนี้"

"เราต้องปรับปรุงในฐานะทีม เราต้องจัดการหลาย ๆ อย่างในสโมสร ก่อนที่จะคิดแค่เรื่องการซื้อหรือขายนักเตะ"

"ยังมีอีกมากที่ต้องทำ ดังนั้นเรามาโฟกัสที่การปรับปรุงนักเตะ ปรับปรุงอะคาเดมี่ของเรา แล้วมาดูกันต่อไป"

แล้วกูไม่อยู่ดีๆ วันดีคืนดีปลดกูนะ

การเมืองภายในวุ่นวายไม่เลิก ใครมันจะมีสมาธิทำทีม ดูทรงแล้วรอไปอีกนาน เผลอๆอโมริมจะไขก๊อกหนีก่อน ถ้าภายในยังแบบนี้

มันทำให้สื่อถึงข้างในยังปั่นป่วนอยู่ระดับหนึ่ง ยังไม่นิ่ง แต่ผมว่า เซอร์จิมเขาก็คงพยายามปรับอยู่แหล่ะ แต่มันคงใช้เวลาอีกซักพักใหญ่ๆ กว่าจะนิ่ง ระหว่างนี้ผลงานในสนามก็คงขึ้นๆ ลงๆ ไปแบบนี้ หลังบ้านไม่นิ่งมันส่งผลให้เห็นที่หน้าบ้าน

อโมริม ต้อง Focus ที่ทีมฟุตบอล หากไปปวดหัวกับเกมส์การเมืองหลังบ้าน ผมกลัวใจพี่จะอยู่ไม่นานจริงๆ เชื่อว่ามีดีอยู่ทำทีให้กลับมาให้ได้ ผมว่าเป้าหมายของผี ปีนี้นะ อันดับ 5-6 ก็น่าพอใจแล้ว ค่อยๆ ฟื้นๆ

ภายในเน่าเฟะเกิน การเมืองเข้มข้นจัด ขอให้พี่เจ๋งโฟกัสแค่การทำทีมก็พอ

ถ้าเอาตัวเองไปในวังวนนั้น เผลอ ๆ จะชิ่งลาเก้าอี้ก่อน

แยกทางแบบนี้ ก็ต้องจ่ายค่าชดเชยให้ไหมครับ

เอาไปเอามาพรี่ท็อดของสิงห์ดูเบาไปเลยทันถ้าเทียบกับบอร์ดผี ณ เวลานี้

หวังว่าจะได้คนเก่งๆ มาแทน ไม่ใช่โปรวิลค็อกซ์ขึ้นมาแทน ทั้งที่ยังไม่เคยมีผลงานระดับนี้มาก่อน