เซอร์จิม แร็ตคลิฟฟ์ เจ้าของร่วม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับสโมสรกลายเป็นทีมระดับกลาง ไม่ใช่ยักษ์ใหญ่แบบในอดีต พร้อมชี้จุดที่ยังต้องปรับปรุงหนัก คือการฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อจัดหาบุคลากรของสโมสร

ก่อนหน้า "ปีศาจแดง" ลงเตะแพ้ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ คาบ้าน 3-2 ไม่นาน บทสัมภาษณ์ของ แร็ตคลิฟฟ์ ถูกเผยแพร่พูดถึงสถานการณ์สโมสร:

"สโมสรหลุดจากเส้นทางมายาวนาน อาจจะประมาณ 10 ปีได้" มหาเศรษฐีอังกฤษวัย 72 ปีเริ่มกล่าว

"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลายเป็นทีมระดับปานกลาง เราไม่ใช่ทีมใหญ่ เราควรเป็นหนึ่งในสโมสรที่ดีที่สุดในโลกแบบยุค เซอร์ อเล็กซ์"

"เราต้องเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เพื่อกลับสู่สถานะสโมสรยักษ์ใหญ่ เราจะต้องมีการตัดสินใจที่ยากและไม่ถูกใจหลายคน แต่หากทำแบบนั้นจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง"

เรื่องใหญ่ที่ แร็ตคลิฟฟ์ ยังไม่ประทับใจคือฝ่ายข้อมูลของสโมสร: "มันยังไม่ดีพอ จนกว่าเราดีเทียบเท่าทุกสโมสรในโลก เราต้องมีฝ่ายจัดหาบุคลากรที่ดีที่สุดในโลก"

"นั่นมาพร้อมกับการวิเคราะห์ข้อมูล ตอนนี้สโมสรไม่มีทีมงานด้านนี้อย่างแท้จริง เรายังอยู่ในศตวรรษที่แล้วเมื่อเป็นเรื่องวิเคราะห์ข้อมูล"

"เราสามารถใช้ประโยชน์มหาศาลจากการวิเคราะห์ข้อมูล แต่เรายังทำแบบนั้นในระดับที่ย่ำแย่ และสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงในชั่วข้ามคืน"

"คุณไม่สามารถเพียงแค่สับสวิชท์ และแก้ไขปัญหาเรื่องการจัดหาบุคลากร มันเป็นเรื่องของผู้คน และเราต้องหาผู้คนที่เหมาะสม"

แร็ตคลิฟฟ์ ผู้เข้าซื้อหุ้นสโมสรมาตั้งแต่ต้นปี โดนแฟนท้องถิ่นบางส่วนวิจารณ์เรื่องขึ้นค่าตั๋ว และเขาก็ชี้แจงเพิ่มเติม: "ผมเข้าใจเรื่องนี้ คุณไม่สามารถเป็นคนโปรดไปตลอด เราจำเป็นต้องหาจุดสมดุล"

"ผมไม่ต้องการอยู่ในตำแหน่งที่แฟนท้องถิ่นไม่สามารถจ่ายค่าตํ่ว แต่ผมต้องการปรับการเก็บราคา เรากำลังพูดถึงจำนวน 3 เปอร์เซนต์ ผมคิดว่ามันไม่สมเหตุสมผลที่การดู แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสียเงินน้อยกว่า ฟูแล่ม"

ดีแล้ว ยอมรัความจริง

ขอให้แก้ได้ไวๆ

ทีมกลางๆ ที่มีฐานะ ลูกจ้างรายได้ดีใช้ชีวิตสบายๆ แฮปปี้ แฮปปี้

ย้อนแย้งนะ

ถูกต้องแล้วครับ

ถ้ามองแบบความจริง เรากลางมาหลายปี หลายฤดูกาลแล้วด้วยซ้ำ

ถ้าแฟนบอลยอมรับความจริงได้ ก็จะเข้าใจได้เอง แต่ด้วยความที่เป็นเมนสตรีมแหละ เลยคิดว่ายังเป็นทีมใหญ่ เป็นทีมลุ้นแชมป์กัน ทั้งๆที่จริงๆเราตกต่ำลงมามาก มาตราฐานยังแทบไม่มีเลยด้วยซ้ำ หานักเตะมาเสริมทัพก็มั่วซั่วมั่วตำแหน่ง คิดดูว่าแค่ตามหาปีกขวาแค่ตำแหน่งเดียว สโมสรใช้เวลาตามหามากี่ปีกัน

นี่ยังไม่นับที่เราแพ้ทีมที่ดีกว่ามากๆแบบสู้ไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นแมนฯซิตี้ ลิเวอร์พูล อาร์เซน่อลแบบสู้ไม่ได้ไม่รู้กี่นัด เจอทีมระดับกลางๆก็เก็บแต้มไม่ได้ ยิงก็ไม่ได้ เสียประตูก็ง่าย รูปเกมก็เป็นรอง ทุกอย่างมันบ่งชี้ว่าเราเป็นทีมกลางๆ ไม่ใช่ทีมที่ยอดเยี่ยมเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว

ไอ้เรื่องใช้เงินไม่รู้กี่พันล้านปอนด์อีก มีเงินแต่ใช้มั่วซั่ว สุรุ่ยสุร่าย ไม่ระมัดระวัง ไม่มีรูปแบบ ไม่มีแผนการณ์ ไม่นึกถึงอนาคต ไม่ต้องสโมสรฟุตบอลหรอกครับ ชีวิตมนุษย์ที่รวยระดับเจ้าสัวก็พังพินาศได้

มันถึงต้องมานั่งปลดพนง ต้องมายอมโดนด่าเพราะการตัดงบเรื่องไม่จำเป็นหลายๆอันแล้วไง

แต่อย่างน้อยตอนนี้สโมสรก็กำลังไปในทิศทางใหม่ คือเราก็ไม่รู้หรอกว่ามันจะดีขึ้นมั้ยหรือมันจะยังอยู่ที่เดิมหรือแม้แต่จะแย่กว่าเดิมก็เกิดขึ้นได้อะ แต่อย่างน้อยองค์กรมันยังมีกำลัง ยังพอเลี้ยงดูตัวเองได้อยู่ ถ้าบริหารพากันไปให้ถูกจุดได้ มันก็คงจะกลับไปถูกจุดได้สักวันแหละ

Rebuilt อย่างเดียวไม่ได้ สำหรับผมมันต้อง Redesign ด้วย ไม่งั้นก็จะเป็นทีมกลางตารางต่อไปเรื่อยๆนั่นแหละ

ถึงประโยคที่บอกว่าไม่ควรเสียเงินดูยูไนเต็ดน้อยกว่าฟูแล่มจะทำให้รู้สึก"เอ๊ะ"ก็เถอะ คือจะไปยุ่งด้วยการยกตัวอย่างทีมอื่นทำไม แต่เรื่องๆอื่นๆก็ยอมรับว่าเห็นด้วยในระดับนึง

ควรเก็บค่าตั๋วอัตราก้าวหน้า อยู่กลางตารางจะเก็บราคาพรีเมี่ยมได้ไง

ทุกวันนี้มันไม่เหลืออะไรให้สนุกละ มีแข่งก็เพื่อให้เด็กหงส์มาล้อไปวันๆ นักเตะก็พร้อมจะผิดพลาดทุกๆ 3 นาที ซื้อตัวก็เอาเงินไปถมกับไอ้พวกไม่มีอนาคต

เลิกดูแล้ว จนกว่าจะกลับมาเล่นดี เสียทั้งเวลาและเงินเพื่อมานั่งดูไอ้พวกห่านี้ส่งบอลไม่ตรงเพื่อน

ถ้าคิดว่าทีมลดเกรดลงมาอยู่ระดับกลางๆ ทำไมขึ้นค่าตั๋วล่ะ? ให้แฟนบอลจ่ายแพงขึ้นเพื่อดูทีมระดับกลางเตะ?

จะว่าเป็นทีมกลางตารางก็ยังไม่เต็มปากเลย

จิตปล่อยวาง นักเตะดีกว่าทีมอื่นเยอะ

3 ปีลงทุนไป 600 ล้าน สิ่งที่ได้กลับมา

ดูทีมกลางตารางเตะในราคาพรีเมียม

ประชดแหล่ะดูจากดาวอังคารก็รู้

ค่าตั๋วค่อยไปขึ้นตอนทีมกลับมาเป็นทีมใหญ่เหอะ
ไปพาดพิงฟูแล่ม ดูตารางด้วย เค้าอยู่อันดับ 9 จ่ะ
เล่นสุนัขไม่รับประมานยังมาขึ้นค่าตั๋ว
เลือกเวลาในการประกาศได้บัดซบมาก