ทั้งท่านสมาชิกที่เป็นมนุษย์เงินเดือนและเจ้าของกิจการเล็ก-ใหญ่

ไม่ได้ปรับตัวอะไรมากมาย ปกติซื้อของเฉพาะที่จำเป็นอยู่แล้ว

ก็ต้องหารายได้ให้มากขึ้นกว่าเดิม

ไม่ปรับอะไร แค่กินมาม่าข้าวไข่เจียวให้มากขึ้น กินเบียร์เที่ยวริมสระเหมือนเดิม

ปรับยังไงเงินเดือนขึ้น 3%

คงต้องรีบซื้อมาม่าตุนไว้ก่อน

ถ้าขึ้น vat 15% นี่พวกอาชีพอิสระที่รายได้เกิน 1.8 ล้านต่อปีนี่โดนหนักเลยนะ
ตัวแทนประกัน นายหน้าต่างๆ พวกรายได้จากลิขสิทธิ์ รับจ้างทำงานเป็นจ๊อบๆ ฟรีแลนซ์นี่ต้องจดเสีย vat กันทั้งนั้น

เลิกกิน buffet ++

จ่ายของแพงขึ้น รายได้เท่าเดิม กำลีงซื้อก็ลดลง เดี๋ยวเศรษฐกิจ ก็ ย้อนไปถีบหน้่าคนคิดเองแหละ สุดท้าย ลด ปีต่อปี

จะหากินอย่างเดียวทุกวันนี้เงินเฟ้อก็มากกว่ารายได้ปกติแล้ว นี่ยังต้องจ่าย Vat เพิ่ม ประเทศก็ไม่มีอะไรจะพัฒนาได้เป็นรูปธรรมเลย

ผม คนที่โดนฐานภาษีเยอะ กลับแฮปปี้ ถ้าลดฐาน และ เก็บ vat
และรู้สึกว่าคนที่หนีภาษี จะกระทบมั่ง เพราะรู้สึกไม่แฟร์

แต่ก็แอบสงสารคนที่อยู่ในระบบภาษีและเงินเดือนไม่เยอะมากเหมือนกัน

Vat ขึ้น ลดภาษีเงินได้ ไม่กระทบกับคนเสียภาษีอยู่แล้ว

ตัวผมนี้ อยากจ่าย 35% ต่อปีมากๆ

ไม่รู้เมื่อไหร่ จะได้จ่ายเรทนี้กะคนอื่นเค้าบ้าง เห้ออออ

น้ำมันขึ้นราคาทันที ลิตรละ สามบาท

ค่าใช้จ่ายด้านการเดินทางผมเพิ่มทันที 360 บาท

มันพูดยากอ่ะนะ มันต้องดูว่าของราคาขึ้นเท่าไหร่

สมมติลองคิดเลขของผมเอง มองว่าภาษีเหลือ 15% ด้วย

ผมเสียอยู่ฐาน 30% ในช่วงต้น ไม่ถึงครึ่งทาง

ผมจำปีก่อนไม่ได้ เอาคร่าวๆ effective เสียที่ 22% แล้วกัน

ถ้ากลับมาเสีย 15% แสดงว่าผมได้เงินเพิ่มกลับมา 7% เทียบดู 7/78 ประมาณ 9% ที่ผมจะมีเงินเพิ่ม

ในส่วนของราคาของ ถ้ามองว่าผู้ประกอบการต้องการเงินที่เท่าเดิม แสดงว่าราคาของจะต้องเป็น 115/107 = 1.075

หรือก็คือราคาของต้องขึ้นมาประมาณ 7.5%

ต้องมาดูกันต่อ อย่างของกิน ของสดมันไม่คิด vat ผมไม่แน่ใจว่าต้นทุนของสดมันเป็นกี่ % แต่ภาพรวมไม่น่าขึ้นเกิน 9% มั้ง

แต่ของอื่นๆ ถ้าเป็นของที่มีการคิด vat หลายขั้น อันนี้ดูน่ากังวล มีโอกาสขึ้นไป 15-20% ได้มั้ง(เดานะ)

สรุปคือต้องหาเงินเพิ่มอย่างเดียว

ในมุมมองคนที่จ่ายภาษี30%มาหลายปี

เอาเลย ดี

ผมได้เงินคืนมาจากที่จ่ายภาษีทุกเดือนเป็นหมื่นอะ

ที่ผ่านมาเป็นเดอะแบกจ่ายภาษีให้พวกนอกระบบมาเป็น10ปี

ต่อไปคือ จ่ายเท่ากันหมด