ชวนคุยครับ เรื่องฟอร์มนี่แล้วแต่ยุคสมัย แต่เรื่องทีมในฝัน ความยิ่งใหญ่ ทำไมดูยังไงก็เหมือนจะสู้ไม่ได้

มันจะมีนักเตะสักคนมั้ยที่ไปเป็นตัวแบกของมาดริด/บาซ่าซัก 3-4 ปี แล้วขอย้ายไปทีมในฝันแบบแมนยู ซิตี้ หงส์ น่อล เชลซี ฯลฯ ขนาดนักเตะอังกฤษอย่างจู๊ด ผมเดาว่าก็มองว่ามาดริดยิ่งใหญ่กว่าทุกทีมอังกฤษอยู่ดี

หรืออย่างเทรนท์ ถึงเจ้าตัวจะยังไม่ได้พูดอะไร แต่แฟนหงส์ก็ดูแบบว่า "นายคว้าทุกแชมป์กับเราแล้ว ถ้าจะไปก็ไม่ว่ากัน" คือมันไม่มีมุมมองไหนจะมองได้เลยหรอว่า เทรนท์อยู่ในทีมที่ดีที่สุดในโลกอยู่แล้ว การย้ายไปมาดริดก็คือก้าวถอยหลัง อะไรแบบนั้น

ว่าก็ว่า ในความรู้สึกผม แม้แต่บาเยิร์นยังดูบารมีสูงกว่าทีมในอังกฤษทุกทีมเลย

อากาศไม่ค่อยดีครับอังกฤษ ไม่มีสายลม แสงแดด อาหารอร่อย

ได้ UCL เยอะๆ ครับ

ความแตกต่างนั้นคือประวัติศาสตร์ การแข่งขัน ภาพลักษณ์ความสำเร็จ หากเราจะย้อนไปซัก15-20ปี คนมองมิลานยิ่งใหญ่กว่าหลายทีมในพรีเมียร์ลีกตอนนี้ด้วยซ้ำแต่พอทีมตกต่ำไม่ประสบความสำเร็จภาพลักษณ์ก็ดรอปลง

ลีคอิตาลียังร่วงลงมาได้ฉันใด ลีคอื่นก็ลุ้นแซงลาลีก้าได้ฉันนั้น แต่ต้องยอมรับว่ารีลมาดริดกับบาร์เซโลน่า เค้ามีแรงดึงดูดมหาศาลต่ออเมริกาใต้ แล้วซุปเปอร์สตาร์ทั่วยุโรปยุคนี้จริงๆ

ทีมอังกฤษ มันได้ ucl น้อยไป มีแค่ ลิเวอร์ ทีมเดียว ซึ่งตกต่ำไปนานมากๆ เพิ่งกลับมาได้ ถ้ารักษาระดับลุ้นแชมป์ทุกปี เจ้าของทุ่มโหดๆ มันก็ระดับเดียวกับ บาเยิร์น บาซ่า อยู่แล้วอะ ส่วน มาดริด ยกไปอีกระดับเยล

สำหรับนักบอลอเมริกาใต้ แค่เรื่องภาษาก็จบแล้วครับ EPL ไม่มีทางเทียบได้เลย

อเมริกาใต้ใช้ภาษาสเปน/โปรตุเกสเป็นหลัก
ฉะนั้นฟุตบอลยุโรปที่เด็กอเมริกาใต้ได้ดูบ่อยสุดย่อมเป็นลาลีก้า

เหมือนบ้านเราดู EPL กันมาแต่เด็ก ฐานแฟนก็เลยเป็น EPL เป็นส่วนใหญ่นั่นแหละ

หงส์เคยมีนะบารมี แต่ไม่ค่อยสูงเท่าไหร่

ทีมบอลอังกฤษ มีอิทธิพล บารมีไม่สูงเท่า เรอัล บาซ่า เพราะไม่ได้ยึดโยงสถาบันการเมืองชัดเจนเท่า

แคว้นกาตาลุญญ่า และ แคว้นมาดริด จริงไหม


Chat GPT ตอบ

ข้อสังเกตของคุณมีความน่าสนใจ และอาจกล่าวได้ว่ามีส่วนจริงในแง่ของประวัติศาสตร์และบริบททางการเมืองที่แตกต่างกันระหว่างทีมฟุตบอลของอังกฤษและสเปน โดยเฉพาะสองทีมใหญ่ในลาลีกาอย่าง เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลนา ที่มีความเชื่อมโยงกับบริบททางการเมืองในระดับที่โดดเด่น

ความแตกต่างด้านอิทธิพลและความเชื่อมโยงทางการเมือง

1. เรอัล มาดริด:
• เรอัล มาดริดถูกมองว่าเป็น “สัญลักษณ์ของอำนาจส่วนกลาง” ในสเปน โดยเฉพาะในยุคเผด็จการของฟรานซิสโก ฟรังโก ซึ่งรัฐบาลสนับสนุนทีมเพื่อแสดงถึงเอกภาพและความเป็นชาตินิยม
• การที่มาดริดเป็นเมืองหลวงของสเปนยิ่งทำให้เรอัล มาดริดกลายเป็นสัญลักษณ์ของการเมืองส่วนกลางอย่างชัดเจน
2. บาร์เซโลนา:
• บาร์เซโลนาแทน “ความเป็นอิสระของแคว้นกาตาลุญญา” ซึ่งมีอัตลักษณ์ ภาษา และวัฒนธรรมที่แตกต่างจากส่วนกลาง
• ในช่วงที่กาตาลุญญาถูกกดขี่ทางวัฒนธรรมและภาษาในยุคฟรังโก สโมสรบาร์เซโลนาถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้านการปกครองแบบเผด็จการ

ทีมเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงสโมสรฟุตบอล แต่เป็นตัวแทนของความคิดทางการเมืองและสังคมในพื้นที่ของพวกเขา

ทีมอังกฤษและความแตกต่าง

• ทีมฟุตบอลอังกฤษ แม้จะมีประวัติศาสตร์ยาวนาน แต่ไม่มีทีมใดที่เชื่อมโยงกับบริบททางการเมืองในลักษณะที่ชัดเจนเหมือนกับเรอัล มาดริดหรือบาร์เซโลนา
• ตัวอย่างเช่น ทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือ ลิเวอร์พูล อาจมีบทบาทสำคัญในระดับวัฒนธรรมและเศรษฐกิจของเมือง แต่ไม่ได้มีความสัมพันธ์เชิงสัญลักษณ์กับการเมืองในระดับชาติหรือภูมิภาคอย่างชัดเจน
• ความเป็น “ชุมชนแฟนบอล” ของทีมอังกฤษมักมุ่งเน้นไปที่การแข่งขันและความรักในกีฬา มากกว่าการเป็นตัวแทนทางการเมือง

ปัจจัยอื่นที่มีผล

1. ระบบโครงสร้างฟุตบอล:
ฟุตบอลอังกฤษเน้นระบบสโมสรที่แยกจากการเมือง และมีลีกที่พัฒนาขึ้นในเชิงพาณิชย์เป็นหลัก
2. ประวัติศาสตร์และบริบทของประเทศ:
สหราชอาณาจักรไม่มีบริบทของความขัดแย้งทางภูมิภาคที่แหลมคมเท่าสเปน การรวมศูนย์อำนาจในอังกฤษดำเนินมาอย่างมั่นคงกว่าเมื่อเทียบกับสเปนที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและภาษา

ดังนั้น อาจกล่าวได้ว่า อิทธิพลทางการเมืองและประวัติศาสตร์ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทีมในอังกฤษไม่ได้มีบทบาททางการเมืองหรือเป็นสัญลักษณ์ของอัตลักษณ์ระดับชาติหรือภูมิภาคในแบบที่เรอัล มาดริดหรือบาร์เซโลนามีในสเปน

เพราะมาดริดมีเปเรส

UcL ไม่ใช่ปัจจัยทั้งหมดไรขนาดนั้น

บาซ่า ก็ไม่ได้ได้ UCL เยอะไปกว่าทีมอังกฤษขนาดนั้นชื่อเสียงยังยิ่งใหญ่กว่า

นั้นเบลามี่

อีกส่วนหนึ่งที่มาดริด บาร์ซ่า บาเยิร์น บารมีสูง คือการผูกขาดแชมป์ลีกครับ คือทีมเหล่านี้ถ้าวืดแชมป์ก็ไม่ได้วืดนาน อย่างมากก็ 3-5 ปี มันเลยมีความสำเร็จต่อเนื่องมาตลอด

ลองดูจำนวนแชมป์ลีกที่ได้สิ มาดริด 36 สมัย บาร์ซ่า 29 สมัย บาเยิร์น 32 สมัย ทิ้งห่างทีมอื่นเป็นทุ่ง

แต่อังกฤษแชมป์มันกระจายมากกว่า สูงสุดคือ แมนยู 20 สมัยเอง รองลงมาคือลิเวอร์พูล 19 สมัย แถมมีช่วงที่ทีมเหล่านั้นวืดแชมป์ยาวๆ ด้วย หงส์ 30 ปี ผีเคยสูงสุด 26 ปี นั่นหมายความว่า ทีมใหญ่ของอังกฤษจะไม่ได้ครองลีกยาวนานตลอด บารมีก็เลยมีขึ้นมีลง ไม่ได้เสถียรแบบทีมเหล่านั้น

พัฒนาทีมต่อเนื่องให้ได้อีกซัก 20 ปีในทางความเป็นไปได้ครับ มันต้องค่อยๆกลืนภาพจำไปเรื่อยๆโดยอาศัยระยะเวลา

มาดริดยิ่งใหญ่เพราะ UCL แฟนบอลทั่วโลกก็รู้สึกเหมือนกันว่ามาดริดใน UCL เหมือนมีพลังเพิ่ม พอได้แชมป์ UCL นักเตะที่เป็นคีย์แมน เป็นสตาร์ก็ได้รางวัลส่วนตัว สร้างแรงบันดาลใจต่อไปอีกเรื่อยๆ

ไม่รวมแรงดึงดูดโดยปัจจัยพื้นฐานทางด้านภาษาและอากาศในประเทศ อังกฤษเนี่ยสภาพอากาศแย่จริงๆ บางคนก็ปรับตัวกับชีวิตในอังกฤษไม่ได้

5555555555555555555555555+