BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ดาวเตะกัลโช่
Status: ชีวิต..ติดแกลบ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 May 2020
ตอบ: 6951
ที่อยู่: ดาวโลก
โพสเมื่อ: Mon Dec 02, 2024 18:20
[โลกร้อน] น้ำแข็งขั้วโลกละลายไวกว่าที่คาด
การเก็บภาษีพลาสติกใหม่จะช่วยลดขยะได้ หากรวมอยู่ในสนธิสัญญาว่าด้วยพลาสติกระดับโลก


คนงานในโรงงานรีไซเคิลวัสดุเหลือใช้ในประเทศตุรกี พลาสติกส่วนใหญ่ที่เคยผลิตมาถูกฝังหรือเผา © Cemal Yurttas/Anadolu via Getty Images

การเก็บภาษีจากพลาสติกใหม่ (virgin plastic) ได้รับการเสนอว่าเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดปริมาณขยะพลาสติกทั่วโลก หากถูกรวมอยู่ในสนธิสัญญาระดับโลกที่กำลังพิจารณาอยู่

มาตรการทางภาษีที่คล้ายกันได้ถูกนำมาใช้ในบางภูมิภาคแล้ว เช่น ในปี 2021 สหภาพยุโรปได้แนะนำการเก็บภาษีจากขยะบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ไม่ได้ถูกรีไซเคิล โดยกำหนดอัตราไว้ที่ €0.80 (ประมาณ 1.30 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ 29.07 บาท) ต่อกิโลกรัม ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้ประมาณ 11.3 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลียต่อปีเมื่อดำเนินการเต็มรูปแบบ (ประมาณ 252.67 พันล้านบาท)

อย่างไรก็ตาม การรีไซเคิลและการจัดการขยะเพียงอย่างเดียวคาดว่าจะลดมลพิษจากพลาสติกได้เพียง 7% ในระยะยาว ดังนั้น การเก็บภาษีจากพลาสติกใหม่จึงถูกมองว่าเป็นเครื่องมือเพิ่มเติมที่จำเป็นในการลดการผลิตและการใช้พลาสติก



การเจรจาเกี่ยวกับสนธิสัญญาระดับโลกเพื่อลดมลพิษจากพลาสติกกำลังดำเนินอยู่ โดยมีการหารือเกี่ยวกับมาตรการต่าง ๆ รวมถึงการเก็บภาษีจากพลาสติกใหม่ อย่างไรก็ตาม ประเทศต่าง ๆ ยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับวิธีการที่ดีที่สุดในการจัดการกับปัญหานี้

ในขณะที่บางประเทศได้ดำเนินการเก็บภาษีหรือห้ามใช้ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวแล้ว เช่น สวีเดนที่เคยมีการเก็บภาษีถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว แต่ได้ยกเลิกภาษีดังกล่าวในปี 2024 แม้ว่าจะมีประสิทธิภาพในการลดการใช้ถุงพลาสติกก็ตาม

การเก็บภาษีจากพลาสติกใหม่จึงเป็นหนึ่งในหลาย ๆ มาตรการที่ถูกพิจารณาเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษจากพลาสติกในระดับโลก โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการผลิตและการใช้พลาสติก และส่งเสริมการใช้วัสดุที่ยั่งยืนมากขึ้น

ที่มา: https://www.ft.com/content/7f9b3b55-0090-4d71-a78e-853d30c176fe, https://phys.org/news/2024-11-tax-plastic-slash-built-global.html

#############################################################

เหตุใดสนธิสัญญาโลกเกี่ยวกับมลภาวะพลาสติกจึงสร้างความแตกแยกให้กับโลก?


© Unsplash/CC0 Public Domain

การเจรจาเพื่อจัดทำสนธิสัญญาระดับโลกว่าด้วยมลพิษพลาสติกกำลังเผชิญกับความเห็นที่แตกต่างระหว่างประเทศสมาชิก โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับการลดการผลิตพลาสติกและการปรับปรุงระบบรีไซเคิล ในขณะที่บางประเทศสนับสนุนการลดการผลิตพลาสติกเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษ ประเทศอื่น ๆ มุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงการจัดการขยะและการรีไซเคิลเป็นหลัก

ประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในการเจรจานี้ โดยภาคประชาสังคมกว่า 160 องค์กรได้เรียกร้องให้รัฐบาลไทยสนับสนุนสนธิสัญญาที่มีความทะเยอทะยาน มุ่งเน้นการยุติมลพิษพลาสติกตลอดวงจรชีวิต และคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สิทธิ และสุขภาพของมนุษย์เป็นหลัก

การเจรจา “สนธิสัญญาพลาสติกโลก” ครั้งที่ 5 ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 24 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคมนี้ เป็นรอบสุดท้ายก่อนการสรุปสนธิสัญญา โดยมีความคาดหวังว่าจะได้ข้อตกลงที่มีผลผูกพันทางกฎหมาย เพื่อแก้ไขปัญหามลพิษพลาสติกทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ความเห็นที่แตกต่างระหว่างประเทศสมาชิกยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญต่อความสำเร็จของการเจรจา

สำหรับประเทศไทย การเข้าร่วมและสนับสนุนสนธิสัญญานี้อย่างเต็มที่ จะเป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหามลพิษพลาสติก และส่งเสริมความยั่งยืนทั้งในระดับประเทศและระดับโลก โดยการลดการผลิตและการใช้พลาสติกที่ไม่จำเป็น ส่งเสริมการใช้ซ้ำและการรีไซเคิล รวมถึงการจัดการขยะพลาสติกอย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน

ที่มา: https://phys.org/news/2024-11-global-treaty-plastic-pollution-world.html, https://www.greenpeace.org/thailand/press/53951/joint-statement-from-thai-civil-society-organisations-on-the-negotiations-of-the-global-plastic-treaty

#############################################################

แบบจำลองมหาสมุทรสามมิติแสดงให้เห็นกรดในมหาสมุทรเคลื่อนตัวลึกลงไปมากขึ้นเนื่องจากการปล่อยมลพิษในชั้นบรรยากาศเพิ่มขึ้น


ส่วนเฉลี่ยทั่วโลกของสถานะสัมบูรณ์ของระบบ CO₂ ในทะเลในปี 2014 และการเปลี่ยนแปลงจากปี 1800 ถึงปี 2014 แถวของแผงแสดงสถานะความอิ่มตัวของอะราโกไนต์ (Ωarag) © Science Advances (2024) DOI: 10.1126/sciadv.ado3103

การศึกษาล่าสุดโดยนักฟิสิกส์สิ่งแวดล้อมจากสถาบัน ETH Zurich ได้พัฒนาแบบจำลองสามมิติของมหาสมุทรโลก เพื่อวิเคราะห์ความลึกที่การเพิ่มขึ้นของกรดในมหาสมุทร (ocean acidification) ได้แทรกซึมลงไป อันเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) ในบรรยากาศ

การค้นพบหลัก
ความลึกของการเป็นกรด ในปี 2014 การเป็นกรดของมหาสมุทรได้แทรกซึมลงไปถึงความลึกเฉลี่ยประมาณ 1,000 เมตร
ความแตกต่างตามภูมิภาค ในบางพื้นที่ เช่น กระแสน้ำ Atlantic Meridional Overturning Current การเป็นกรดได้แทรกซึมลึกถึง 1,500 เมตร เนื่องจากการหมุนเวียนของน้ำ

ผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตทางทะเล
การเพิ่มขึ้นของความเป็นกรดในมหาสมุทรส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตหลายชนิด โดยเฉพาะสิ่งมีชีวิตที่มีเปลือกทำจากแคลเซียมคาร์บอเนต เช่น ปลาหมึกแก้ว (pteropods) ซึ่งเปลือกของพวกมันอาจละลายในน้ำที่มีความเป็นกรดสูงขึ้น

ความสำคัญของการศึกษา
การวิจัยนี้ช่วยให้เราเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงทางเคมีในมหาสมุทรและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อระบบนิเวศทางทะเล การตระหนักถึงความลึกและขอบเขตของการเป็นกรดในมหาสมุทรเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนามาตรการป้องกันและบรรเทาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในทะเล

การเพิ่มขึ้นของ CO₂ ในบรรยากาศไม่เพียงส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อเคมีของมหาสมุทร การศึกษานี้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อป้องกันผลกระทบที่รุนแรงต่อระบบนิเวศทางทะเล

ที่มา: https://phys.org/news/2024-11-3d-ocean-acidification-deeper-atmospheric.html

#############################################################

แบบจำลองเชิงแนวคิดแสดงให้เห็นบทบาทของแผ่นน้ำแข็งขั้วโลกในจุดเปลี่ยนของสภาพภูมิอากาศ นักวิทยาศาสตร์เตือนน้ำแข็งขั้วโลกละลายไวกว่าที่คาด


พบจุดเปลี่ยนน้ำแข็งในแอนตาร์กติกาแห่งใหม่ ขณะที่การศึกษาระบุว่าเราประเมินการละลายต่ำเกินไป © David Merron Photography/Getty Images

การศึกษาล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature Communications Earth & Environment เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 ได้เน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของแผ่นน้ำแข็งขั้วโลกในการคาดการณ์จุดเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (climate tipping points) การทำความเข้าใจพฤติกรรมของแผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์และแอนตาร์กติกามีความจำเป็นอย่างยิ่งในการลดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับจุดเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ และเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการคาดการณ์สภาพภูมิอากาศในอนาคตที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

จุดเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศคืออะไร?
จุดเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหมายถึงเกณฑ์ในระบบของโลกที่เมื่อถูกข้ามผ่าน จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมครั้งใหญ่และมักไม่สามารถย้อนกลับได้ ตัวอย่างเช่น การละลายของแผ่นน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่อาจส่งผลให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก

บทบาทของแผ่นน้ำแข็งขั้วโลก
แผ่นน้ำแข็งขั้วโลก เช่น กรีนแลนด์และแอนตาร์กติกา ถือกุญแจสำคัญในการทำความเข้าใจจุดเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เนื่องจากมีเกณฑ์อุณหภูมิที่ต่ำมาก ซึ่งเมื่อเกินกว่านั้น สภาพของพวกมันจะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อมโยงอย่างมากกับจุดเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ ในระบบภูมิอากาศ อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมของแผ่นน้ำแข็งเหล่านี้ยังไม่เป็นที่เข้าใจอย่างถ่องแท้ และจำเป็นต้องมีความก้าวหน้าเพิ่มเติมในการสร้างแบบจำลองและการสังเกต

ผลการวิจัย
นักวิทยาศาสตร์ได้ใช้แบบจำลองแนวคิดเกี่ยวกับจุดเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อศึกษาว่าส่วนประกอบหลักในระบบภูมิอากาศของเรามีปฏิสัมพันธ์กันอย่างไร และจะได้รับผลกระทบอย่างไรจากภาวะโลกร้อนที่ระดับ 1.5°C และ 4.0°C พวกเขาพบว่าแผ่นน้ำแข็งขั้วโลกมีส่วนรับผิดชอบต่อความไม่แน่นอนอย่างมากในการคาดการณ์จุดเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ


การวิเคราะห์ความแปรปรวนของโซโบลที่ 1.5°C © Communications Earth & Environment (2024) DOI: 10.1038/s43247-024-01799-5

ความสำคัญของการวิจัยนี้
การวิจัยนี้ช่วยให้เราเข้าใจถึงความเสี่ยงที่สำคัญต่อสังคมมนุษย์ในศตวรรษหน้า และเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการมุ่งเน้นการวิจัยไปยังพื้นที่ที่มีส่วนร่วมมากที่สุดต่อความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตของเรา การลดความไม่แน่นอนในพฤติกรรมของแผ่นน้ำแข็งขั้วโลกผ่านการสร้างแบบจำลอง การสังเกต และความเข้าใจทางทฤษฎีเป็นสิ่งสำคัญ

ผลกระทบต่อประเทศไทย
แม้ประเทศไทยจะอยู่ห่างไกลจากขั้วโลก แต่การละลายของแผ่นน้ำแข็งขั้วโลกส่งผลให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชายฝั่งของประเทศไทย เช่น การกัดเซาะชายฝั่งและน้ำท่วม นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังส่งผลต่อรูปแบบสภาพอากาศทั่วโลก ซึ่งอาจนำไปสู่สภาพอากาศสุดขั้วที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งขึ้นในประเทศไทย

ดังนั้น การทำความเข้าใจและติดตามการเปลี่ยนแปลงของแผ่นน้ำแข็งขั้วโลกจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเตรียมความพร้อมและปรับตัวต่อผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ที่มา: https://www.tcijthai.com/news/2022/9/current/12532, https://phys.org/news/2024-11-illuminates-role-polar-ice-sheets.html

#############################################################

การศึกษาวิจัยใหม่ยืนยันว่า แร่ธาตุในน้ำพุร้อนมีส่วนสำคัญต่อการเกิดสิ่งมีชีวิตในยุคแรกบนโลก


© Pixabay/CC0 Public Domain

การศึกษาล่าสุดยืนยันว่าแร่ธาตุในน้ำพุร้อนมีบทบาทสำคัญในการเกิดปฏิกิริยาเคมีที่นำไปสู่การกำเนิดชีวิตบนโลก ก่อนหน้านี้ นักวิทยาศาสตร์มุ่งเน้นการศึกษาแร่ไอรอนซัลไฟด์ (iron sulfides) ที่พบในปล่องไฮโดรเทอร์มอลใต้ทะเลลึก ซึ่งเชื่อว่าช่วยกระตุ้นปฏิกิริยาทางเคมีที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม การวิจัยใหม่ชี้ให้เห็นว่าแร่ชนิดเดียวกันนี้ในน้ำพุร้อนบนบกก็มีศักยภาพในการส่งเสริมปฏิกิริยาการตรึงคาร์บอน (carbon fixation) ซึ่งเป็นกระบวนการที่สิ่งมีชีวิตเปลี่ยนคาร์บอนไดออกไซด์เป็นสารอินทรีย์

นักวิจัยได้สร้างห้องทดลองจำลองสภาวะของน้ำพุร้อนในยุคแรกของโลก โดยใช้แร่ไอรอนซัลไฟด์สังเคราะห์และฉายแสงที่เลียนแบบแสงอาทิตย์ในยุคนั้น พร้อมทั้งปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และไฮโดรเจนผ่านห้องทดลอง ผลการทดลองพบว่าแร่เหล่านี้สามารถผลิตเมทานอล ซึ่งเป็นผลผลิตจากการตรึงคาร์บอน แสดงให้เห็นว่าแร่ไอรอนซัลไฟด์ในน้ำพุร้อนบนบกอาจมีบทบาทสำคัญในการเกิดปฏิกิริยาทางเคมีที่นำไปสู่การกำเนิดชีวิต

การค้นพบนี้ช่วยเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับสถานที่และกระบวนการที่ชีวิตอาจเริ่มต้นบนโลก โดยชี้ให้เห็นว่าน้ำพุร้อนบนบกอาจมีบทบาทสำคัญไม่แพ้ปล่องไฮโดรเทอร์มอลใต้ทะเลลึก นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสใหม่ในการศึกษาเกี่ยวกับการกำเนิดชีวิตและปฏิกิริยาเคมีที่เกี่ยวข้องในสภาวะแวดล้อมที่หลากหลาย



ที่มา: https://phys.org/news/2024-11-minerals-hot-key-chemical-reaction.html

#############################################################

การเจรจาเรื่องการกลายเป็นทะเลทรายเริ่มขึ้นในซาอุดิอาระเบีย ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเตือนเรื่องไฟไหม้


ซาอุดีอาระเบียเป็นที่ตั้งของทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก © via phys.org

การประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการแปรสภาพเป็นทะเลทราย (UNCCD COP16) ได้เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2567 ณ กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหยุดยั้งการเสื่อมโทรมและการแปรสภาพเป็นทะเลทรายของพื้นที่ขนาดใหญ่ทั่วโลก การประชุมครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากปัญหาการเสื่อมโทรมของที่ดินส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหาร ความหลากหลายทางชีวภาพ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ


เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์หิมะตกในทะเลทรายซาอุดิอาระเบียเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เปลี่ยนพื้นที่แห้งแล้ง เป็นภูเขาหิมะขาวโพลนสุดลูกหูลูกตา ผลพวงจากโลกเดือด Cr. Saudi press Agency (SPA)

สถานการณ์ปัจจุบัน

การเสื่อมโทรมของที่ดิน ปัจจุบัน พื้นที่กว่า 40% ของที่ดินทั่วโลกประสบปัญหาการเสื่อมโทรม ซึ่งส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหารและความหลากหลายทางชีวภาพ

เป้าหมายการฟื้นฟู ในการประชุมครั้งก่อนที่ประเทศไอวอรีโคสต์ในปี 2565 มีการตั้งเป้าหมายฟื้นฟูพื้นที่เสื่อมโทรม 1 พันล้านเฮกตาร์ภายในปี 2573 อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีความจำเป็นต้องเพิ่มเป้าหมายเป็น 1.5 พันล้านเฮกตาร์ เพื่อรับมือกับวิกฤตที่ทวีความรุนแรงขึ้น

ความพยายามของซาอุดีอาระเบีย
การฟื้นฟูที่ดิน ซาอุดีอาระเบียตั้งเป้าหมายฟื้นฟูพื้นที่เสื่อมโทรม 40 ล้านเฮกตาร์ โดยคาดว่าจะฟื้นฟูได้หลายล้านเฮกตาร์ภายในปี 2573 จนถึงปัจจุบัน ได้ฟื้นฟูแล้ว 240,000 เฮกตาร์ ผ่านมาตรการต่าง ๆ เช่น การห้ามตัดไม้ผิดกฎหมาย และการขยายจำนวนอุทยานแห่งชาติจาก 19 แห่งในปี 2559 เป็นมากกว่า 500 แห่งในปัจจุบัน

ความสำคัญของการประชุม
การประชุม UNCCD COP16 มีผู้เข้าร่วมหลายพันคน รวมถึงรัฐมนตรีจากหลายประเทศ โดยมุ่งหวังที่จะเร่งฟื้นฟูที่ดินและพัฒนามาตรการเชิงรุกในการรับมือกับภัยแล้ง นายอิบราฮิม เทียว เลขาธิการบริหารของ UNCCD กล่าวว่า "ความมั่นคงทั่วโลกกำลังตกอยู่ในความเสี่ยง ไม่ใช่แค่ในแอฟริกาหรือตะวันออกกลางเท่านั้น"


ประเทศไทย มีพื้นที่ที่มีความเสี่ยงรุนแรงต่อภาวะการเป็นทะเลทรายกว่า 6.9 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 2.2 ของพื้นที่ ทั้งประเทศ แบ่งออกเป็นพื้นที่ราบ 2.4 ล้านไร่ และพื้นที่สูง 4.5 ล้านไร่ ดังนั้นประเทศไทยจะต้องเข้าใจเพื่อนำไปสู่การป้องกันไว้ล่วงหน้า และการเผยแพร่ข้อมูลเชิงพื้นที่มาใช้เพื่อเตือนภัยจะสามารถ ลดระดับความรุนแรงของพื้นที่เสี่ยงภัยต่อภาวะการเป็นทะเลทรายลงได้ โดยเฉพาะการบุกรุกพื้นที่ป่าหรือพื้นที่แหล่งน้ำธรรมชาติเพื่อทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อปลูกพืชเกษตรเชิงเดี่ยว การเผาป่า เป็นต้น © via thairath.co.th

ผลกระทบต่อประเทศไทย
ประเทศไทยมีความเสี่ยงต่อการเสื่อมโทรมของที่ดินและการแปรสภาพเป็นทะเลทราย การเข้าร่วมและสนับสนุนการประชุม UNCCD COP16 จะช่วยเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศในการแก้ไขปัญหานี้ นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสในการแลกเปลี่ยนความรู้และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นฟูที่ดินและการจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน

การดำเนินมาตรการที่เหมาะสมและการร่วมมือระหว่างประเทศจะช่วยลดผลกระทบจากการเสื่อมโทรมของที่ดินและการแปรสภาพเป็นทะเลทราย ซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและความเป็นอยู่ของประชาชนทั่วโลก

ที่มา: https://phys.org/news/2024-12-desertification-saudi-arabia-experts.html, https://www.thairath.co.th/futureperfect/articles/2790774
แก้ไขล่าสุดโดย SureShot เมื่อ Mon Dec 02, 2024 19:55, ทั้งหมด 4 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status: No pain no gain.
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jan 2011
ตอบ: 3725
ที่อยู่: หมู่เกาะราฟเทล โลกใหม่
โพสเมื่อ: Mon Dec 02, 2024 18:27
[RE: [โลกร้อน] น้ำแข็งขั้วโลกละลายไวกว่าที่คาด]
เมื่อวานนี่เอง ผมนั่งดูสารคดีของ Doxzilla เรื่องที่นักวิทยาศาสตร์กำลังคิดค้นวิธีดูดกลืนคาร์บอนด้วยวิธีต่างๆ เพื่อลดโลกร้อน ภาวะเรือนกระจก
แก้ไขล่าสุดโดย พอเพียงll2 เมื่อ Mon Dec 02, 2024 18:28, ทั้งหมด 1 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: เซ็ง
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Jan 2006
ตอบ: 25938
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Dec 02, 2024 18:33
[RE: [โลกร้อน] น้ำแข็งขั้วโลกละลายไวกว่าที่คาด]
เราสามารถสร้างเครื่องแบบหนัง geostrom ได้ไหม
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
คอมเมนเตเตอร์
Status:
: 1 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Oct 2009
ตอบ: 71013
ที่อยู่: Juventus Stadium
โพสเมื่อ: Mon Dec 02, 2024 19:28
[RE: [โลกร้อน] น้ำแข็งขั้วโลกละลายไวกว่าที่คาด]
อยากให้เท๕โนโลยีในหนังเรื่องจีโอสตอร์ม เกิดขึ้นจริง สร้างแค่ปกคลุมบริเวณขั้วโลกก็พอควบคุมไม่ให้น้ำแข็งละลาย
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะกัลโช่
Status: ชีวิต..ติดแกลบ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 May 2020
ตอบ: 6951
ที่อยู่: ดาวโลก
โพสเมื่อ: Mon Dec 02, 2024 19:29
[RE: [โลกร้อน] น้ำแข็งขั้วโลกละลายไวกว่าที่คาด]
cybernet พิมพ์ว่า:
เราสามารถสร้างเครื่องแบบหนัง geostrom ได้ไหม  


ผมลองถามเอไอนะครับ

หน้าตาของ Dutch Boy ในโลกจริง

1. ดาวเทียมแต่ละดวง

ขนาด
คล้ายกับดาวเทียมขนาดใหญ่ เช่น ดาวเทียมสื่อสารหรือดาวเทียมสังเกตการณ์โลก (ประมาณ 10–20 เมตร)

โครงสร้าง
ตัวรับพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Panels) สำหรับพลังงาน
ตัวปล่อยเลเซอร์หรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสำหรับควบคุมสภาพอากาศ
กล้องและเซนเซอร์ความละเอียดสูงสำหรับตรวจจับสภาพอากาศ

การเคลื่อนไหว
ติดตั้งระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า (ion thrusters) เพื่อปรับตำแหน่ง

2. สถานีควบคุม

ที่ตั้ง
บนโลก (เช่น ศูนย์ควบคุมของ NASA หรือ ESA) และสถานีอวกาศระหว่างประเทศ (ISS) รุ่นปรับปรุง

ระบบในสถานี
ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลสภาพอากาศจากดาวเทียมนับพันในแบบเรียลไทม์
ระบบ AI สำหรับประเมินผลกระทบและการควบคุมดาวเทียม
ระบบสื่อสารความเร็วสูง เช่น เครือข่ายเลเซอร์ระหว่างดาวเทียม

จำนวนดาวเทียมที่ต้องใช้

ครอบคลุมทั่วโลก
ดาวเทียมแต่ละดวงสามารถครอบคลุมพื้นที่ได้ประมาณ 1,000–5,000 กิโลเมตร
หากครอบคลุมโลกทั้งใบ (พื้นที่ประมาณ 510 ล้านตารางกิโลเมตร) อาจต้องใช้ 5,000–10,000 ดวง โดยขึ้นอยู่กับความหนาแน่นที่ต้องการ

พื้นที่เฉพาะ
หากมุ่งเน้นพื้นที่ที่เกิดภัยพิบัติบ่อย เช่น มหาสมุทรแปซิฟิกและอินเดีย (พื้นที่พายุไซโคลน) หรือขั้วโลก (พื้นที่น้ำแข็งละลาย) อาจลดจำนวนเหลือ 500–1,000 ดวง

การใช้งานในโลกจริง

1. ควบคุมพายุ
ใช้เลเซอร์หรือลำแสงไมโครเวฟเพื่อทำให้อุณหภูมิของอากาศหรือผิวน้ำทะเลเย็นลง
ลดการก่อตัวของพายุไซโคลน

2. ปรับสมดุลภูมิอากาศ
กระจายเมฆหรือฝุ่นเพื่อสะท้อนแสงอาทิตย์ในพื้นที่ร้อน
เพิ่มความชื้นในพื้นที่แห้งแล้ง

3. ตรวจจับและเตือนภัยล่วงหน้า
ดาวเทียมทำหน้าที่ตรวจจับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น พายุหรือคลื่นความร้อน เพื่อเตือนภัยล่วงหน้า

ข้อจำกัด

ค่าใช้จ่าย
การปล่อยดาวเทียม 1 ดวงอาจมีค่าใช้จ่ายประมาณ 100–200 ล้านดอลลาร์
เครือข่ายดาวเทียมนับพันดวงอาจใช้เงินหลายล้านล้านดอลลาร์

ความซับซ้อนทางเทคนิค
การประสานงานระหว่างดาวเทียมนับพันดวงเพื่อควบคุมสภาพอากาศต้องใช้ระบบ AI และการวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อนมาก

ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศในพื้นที่หนึ่งอาจมีผลกระทบต่อพื้นที่อื่นที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้

ความปลอดภัย
หากระบบถูกแฮ็กหรือใช้งานในทางที่ผิด อาจกลายเป็นอาวุธที่ทำลายล้าง

สรุป

Dutch Boy จะเป็นดาวเทียมขนาดใหญ่ พร้อมอุปกรณ์เลเซอร์ กล้องตรวจจับ และระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า มีจำนวนประมาณ 5,000–10,000 ดวงสำหรับการครอบคลุมทั่วโลก หรือ 500–1,000 ดวงสำหรับพื้นที่เป้าหมาย

การสร้างระบบแบบนี้ในโลกจริงอาจเป็นไปได้ในอีก 50–100 ปีข้างหน้า แต่ต้องพิจารณาทั้งเทคนิค การเมือง และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างรอบคอบ
แก้ไขล่าสุดโดย SureShot เมื่อ Mon Dec 02, 2024 19:32, ทั้งหมด 2 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ค.
Status: I am the RED & I hate Scousers
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 21 Feb 2021
ตอบ: 4963
ที่อยู่: ที่เฉอะแฉะน้ำขัง
โพสเมื่อ: Mon Dec 02, 2024 20:16
[RE: [โลกร้อน] น้ำแข็งขั้วโลกละลายไวกว่าที่คาด]
พอน้ำแข็งละลาย ผมกลัวเชื้อโรคหรือพวกจุลินทรีย์โบราณ ที่อยู่ในนั้น หลุดออกมา แล้วสร้างความบรรลัย จริงๆ แต่อาจจะไม่มีอะไรก็ได้ เพราะพวกนั้นไม่ชินกับสภาพแวดล้อมใหม่ อาจจะตายไปเอง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status: พูดความจริงไม่ใช่เขาเล่าว่า เขียมว์ เหมือนฉลาดอะ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 May 2020
ตอบ: 3785
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Dec 02, 2024 20:25
[RE: [โลกร้อน] น้ำแข็งขั้วโลกละลายไวกว่าที่คาด]
คุ้นๆว่าทรัมป์ไม่เชื่อว่าโลกร้อนมีจริง และจะออกจากสัญญาปารีส
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status: จิ้งจกเสพความเหงา
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 18 Feb 2021
ตอบ: 10173
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Dec 02, 2024 21:28
[RE: [โลกร้อน] น้ำแข็งขั้วโลกละลายไวกว่าที่คาด]
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel