เห็นด้วยกับประโยคนี้ไหมครับ

เพราะคนเราเปลี่ยนไปทุกวัน ยิ่งโตขึ้น ยิ่งเป็นคอนเซอร์เวทีฟ ?

ส่วนตัวผมค่อนข้างเห็นด้วยเลย ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกันจริง ๆ นะอยากจะหาคำตอบ

เพราะสมัยวัยรุ่น สมัยเรียนมหาลัย ชีวิต แนวคิด รสนิยม นอกกรอบมาก ต้องแตกต่าง ฝันถึงโลกอุดมคติ

และดีงาม ใช้เหตุผลและตรรกะในการตัดสินใจอะไรหลาย ๆ อย่าง ละทิ้งวัฒนธรรมที่ล้าหลังไป

แต่พอโตขึ้นเข้าสู่ช่วงวัยนึง กลับรู้สึกว่า ศิลปะ วัฒนธรรม และประเพณีมันก็เป็นสิ่งที่สวยงามนี่

แสดงให้เห็นถึง "ราก" ที่เรามีอยู่ และกลับรู้สึกหวงแหนวัฒนธรรมหลาย ๆ อย่างที่ตอนวัยรุ่นไม่เคยคิดสนใจ

.

วันนี้เลยอยากหารือ ถกกับเพื่อน ๆ ที่ก้าวผ่านวัยรุ่นมาแล้ว รู้สึกแบบนี้กันไหม

แม้ว่าในช่วงวัยรุ่น เราอาจเคยมีแนวคิดแบบเสรีนิยม (liberalism) แต่เมื่อโตขึ้น คนเรามีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนไปและกลายเป็นอนุรักษ์นิยม (conservative) ในที่สุด

ยิ่งโตขึ้น สำหรับผมมีแต่ความเจ็บปวด

ต้องทำใจยอมรับ คนที่รักจากไป ความผิดหวังต่าง ๆ นา ๆ

ไม่สดใสบันเทิงเหมือนสมัยเป็นเด็กอีกแล้ว

เห็นด้วย มีอีกคำคือ ชีวิตคนเราส่วนใหญ่แล้วคือความทุกข์ อันนี้เห็นด้วยมาก ๆ

พยายามท่องกับตัวเองว่า แก่ไปไม่เป็นไดโนเสาร์แบบที่คนรุ่นก่อนเป็น ก็พอละครับ

ผมว่าคนเรามันพยายามหาจุดลงตัวของชีวิตอะ แล้วพอเจอจุดที่คิดว่าลงตัวแล้ว มันก็ไม่อยากเปลี่ยน เพราะฉะนั้นไม่แปลกหรอก ที่คนส่วนใหญ่แก่ไปกลายเป็นไดโนเสาร์

คอมเม้นนอกเรื่อง แต่ผมอ่านแล้วโคตรอินเลย

ตอบกระทู้ ส่วนตัวผม ไม่จริงครับ ผมเป็นเด็กขวา โตมาซ้ายกว่าเดิมเยอะเลย แต่อนาคตก็มีสิทธิ์จะลดความซ้ายลงหน่อยตามกระแสเบื่อ Woke

ในโลกที่ยาก

ตอนเด็กผมอินสถาบัน ประเพณี วัฒนธรรมต่างๆ นะ แต่โตมาไม่เอาเลย

อันไหนมีประโยชน์ต่อคนส่วนรวมก็ยอมรับ แต่ไม่เข้าร่วม

ไม่รู้ซ้ายหรือขวาแหละ แต่เน้นให้มันมีประโยชน์กับคนส่วนใหญ่

โดนกลืนกินไปพอสมควร ถ้าให้เห็นชัดคือเจนนี่ จาก Forest Gump ตอนวัยรุ่นเป็น Hippy ต่อต้านทุนนิยม พอมีลูกก็กลับเข้าระบบเสียเอง

ยิ่งโตยิ่งขี้ขลาดขึ้นครับ ยิ่งแก่ยิ่งอ่อนแรง ย


ยิ่งโตเลยยิ่งเลือกทางที่เซฟกว่า


เพียงแต่ว่า conservative มันครองโลกอยู่


ถ้า liberal ครองโลก

คนที่ conservative ยิ่งแก่ก็ยิ่งค่อนไปทาง liberal เหมือนกัร

มันก็เป็นไปตามวัยมั่งครับ เอาคำที่ในเวปบอร์ดนี้ใช้กันก็ได้

พวก Gen X, Babyboom คือพวกหัวโบราณ ..... ลองย้อนกลับไปยุคสมัยที่เค้าเป็ยวัยรุ่นจริงๆ เค้าอาจจะเสรีนิยมกว่าที่เราคิดก็ได้นะครับ --> Hippy ต่อต้านทุนนิยม โน้นนี่นั้น แถวๆ 1970 ไหมน่ะ ซึ่งถ้าเป็นตอนนี้คนเหล่านี้ก็ 65+ กันหมดแล้ว (สมมุติให้เค้าเกิด 196x ละกัน ก็เป็นวัยรุ่นแถวๆ 1970 นิด)

ส่วนตัวคิดว่าคนเหล่านั้น เค้าตกผลึกทางความคิดมาแล้วว่า อะไรเป็นอะไรจากประสบการณ์ที่เค้าได้ผ่านมากันแน่ และอะไรที่ทำให้เค้าอยู่ได้อย่างไม่เดือดร้อนมากนัก

ก็เหมือนผมตอนวัยรุ่น งง ว่าพ่อแม่จะปวดหลังอะไรเยอะแยะ ตอนนี้มาเจอกับตัวเองก็เข้าใจอะว่ามันกระทบกับการใช้ชีวิตยังไง ซึ่งตอนเด็กมันก็ไม่เข้าใจหรอก (ก็แค่ปวดหลังเองป่ะวะ) ฮ่าๆๆ

ปล. ส่วนตัวคิดว่า ออกไปท่องเที่ยวเท่าที่ทำได้ครับ เพราะมันจะทำให้เราตัวเล็กลง เข้าใจอะไรง่ายขึ้น จากการเจอความหลากหลาย และ เราจะเจอว่า เฮ้ย แม่งมีวิธีคิดแบบนี้จริงๆหรอ แล้วเค้าก็อยู่กับโลจิคตรรกะกันแบบนั้นก็ได้นี่หว่า

พวกนี้ให้เปรียบเทียบก็เหมือนกับรสนิยมการฟังเพลง
พอโตขึ้นเราก็ไม่ค่อยได้ฟังเพลงใหม่ๆแล้วครับ ฟังแต่เพลงเก่าๆ เพลงที่ฟังสมัยวัยรุ่น
เพราะว่าสมัยวัยรุ่น เป็นวัยที่เราตื่นเต้นกับโลกกว้าง เจอเพลงใหม่ๆ แนวคิดใหม่ๆก็พร้อมจะลอง (ฟัง)
แต่พอโตขึ้น เราเลือกที่จะกลับไปฟังเพลงเก่าๆแทนที่จะฟังเพลงใหม่ เพราะมันให้ความรู้สึกเซฟโซน เพลงนี้เมื่อก่อนชอบ ตอนนี้ก็ยังชอบ มันเซฟที่จะฟัง
แนวคิดทางการเมืองก็ไปตามครรลองนี้เหมือนกันครับ

ส่วนผมนี่ตรงกันข้าม แต่ก่อน conservative เพราะที่บ้านเป็นคนจีน

พอเจอโตขึ้นสังคมหลากหลาย เจอเพื่อนหลายศาสนา เจอผู้คนหลายวัฒนธรรม

ผมกลายเป็นแทบไม่ยึดติดกับอะไรเลย ผมเชื่อว่าทุกอย่างมัน evolution ได้หมด

มองย้อนกลับไป จนมาถึงตอนนี้ วัฒนธรรมมันถูก blend ไปโดยเราไม่รู้ตัว

เรื่องบางเรื่องมันควรอนุรักษ์อยู่แล้วครับ แต่ปัญหาคือคนที่เอาเรื่องพวกนี้ไปโหนไปกดนั่นแหละ และใช่ครับขั้นตรงข้ามที่ปากบอกเสรีๆ แต่ก็ไม่เคยยอมรับความคิดเห็นด้านทำไมต้องอนุรักษ์เช่นก้น

เพราะฉะนั้นเรื่องพวกนี้อยู่ที่ “คน” ที่เอาไปคิดเอาไปใช้ครับ

เพราะมันไม่ใช่ทุกเรื่องทุกความคิดที่ต้องคิดแบบเสรี และ บางเรื่องก็ใช่ว่าต้องคิดแบบอนุรักษ์ เสมอไป

นี่คือสิ่งที่ผมโตมาและได้เรียนรู้ไปกับสังคมครับ

กลับกันกับผม สมัยวัยรุ่นไม่ชอบทักษิณที่ทำตัวหัวก้าวหน้าเกินไป
ตอนนี้โตขึ้นมา ไม่ชอบทักษิณที่ไปจูบปากกับพวกอำนาจเก่าอนุรักษ์นิยม