ผ่อนจ่ายพ่อตาแม่ยายยาวๆแบบไม่คืนให้

พ่อตาแม่ยายต้องใจดำขั้นไหนนิ นึกเล่นๆถ้าเราเป็นพ่อแม่แล้วลูกเขยต้องมาผ่อนลำบากเพราะเรื่องแบบนี้ รู้สึกแย่เลย

ผมอาจจะไม่ใช่คำตอบที่ จขม ต้องการนะครับ เพราะยังไม่ได้แต่ง

แต่มุมมองผม ถ้าแต่งงานแล้วเราต้องผ่อนค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าสินสอด ค่าจัดงาน ค่าชุด ฯลฯ (ไม่นับบ้านรถละกันครับ)

ผมมองว่าการเริ่มต้นชีวิตคู่ก็เหนื่อยละนะครับ โอเคแหละ เราอาจจะรักและอยากใช้ชีวิตกับ ผญ คนนี้จริงๆ แต่ท้ายสุดเราต้องไปกู้ยืมมาเพื่อสนอง need คนอื่น (แขกรับเชิญ)

ผมว่าไม่เวิร์คเท่าไหร่ครับ แต่เคส จขม คงหมายถึงผ่อนกับพ่อตาแม่ยาย อันนี้ก็คงแล้วแต่คุยกันแหละครับ มุมนึงสินสอดของคนเก่าคนแก่ อาจจะมองว่าเป็นหลักประกันคุณภาพชีวิตลูกสาว

แต่ปัจจุบัน mindset หลายครอบครัว ก็เปลี่ยนไป ถ้ารักกันจริง ก็สินสอดพอเป็นพิธี หลังจบงานให้บ่าวสาวไปตั้งตัว ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันด้วยครับ

ถ้าสรุป คงไม่เห็นด้วย ถ้าต้องกู้หรือยืม มาจัดงานครับ แต่ถ้าครอบครัวนั้นตกลงกันในมุมอื่นๆ ก็คงแล้วแต่ละครอบครัวไปครับ

ม่ายอะ ให้สินสอดไปเยอะนะ ในความคิดผมที่ใช้เงินตัวเอง แต่แม่ภรรยาให้คืนหมด แถมให้เงินมาเพิ่มด้วย บอกให้เอาไปตั้งตัว

ยังงง ตั้งอะไร บ้านก็ให้ภรรยามาอยู๋ที่บ้าน รถเมียก็มีแล้ว เอามาจอดที่บ้าน ก็เลยเมียเก็บไว้นั้นแหละ

อันนี้ยังไม่ลำบากมากครับ มีแบบกู้มาแต่งมาจ่ายสินสอดแล้วผ่อนคืน

และก็ส่งตังค่ากินรายเดือนให้พ่อแม่ฝ่ายญด้วย เป็นเรื่องปกติ ผมก็งง

ทำไมเค้าแต่งกัน คือเป็นเรื่องปกติเลย แล้วมาบ่นว่าไม่มีจะแดก

แถวบ้านผมมีนะ...สุดท้ายบ้านแตก ผู้ชายเงินใช้จ่ายไม่คล่องมือ แม่ผู้หญิงก็มาทวงทุกเดือน สุดท้ายพอ ขาดส่งสัก 4-5 พ่อแม่ผู้หญิงก็มาพาลูกกลับบ้าน บังคับให้เลิกกัน

แบบนี้เข้าข่ายค้ามนุษย์ปะครับ

ส่วนมากที่ได้ยินมาคือกู้หรือกดเงินสดบัตรเครดิตมาให้แล้วไปผ่อนในบัตรเอา

ลูกน้องผมไปกดบัตรเงินสดมา ผ่อนยังไม่หมดเลย หย่าแล้ว ผู้หญิงไปมีผัวใหม่ หนีตามกันไป หัวเราะทั้งน้ำตาเลย

เลยพาไปรีเจนซี สองสามแบน ค่อย move on ได้

ไม่รู้เหมือนกันครับ เรื่องคนรู้จัก โดยส่วนตัวผมไม่

เอาญที่พ่อแม่ไม่มีเงินเกษียนและเรียกสินสอดอยู่ละ จัดอยู่ในกลุ่มทัศนคติป่วย วางแผนการเงินห่วย