[RE: ใครสายธุรกิจวัสดุก่อสร้าง เชิญทางนี้หน่อยครับ]
"มุมมองธุรกิจ retail ถ้า มาร์จิ้นของสินค้าบางตัวน้อยมากจริงๆ ก็เน้น volume ในการขายใช่มั้ยครับ ยกตัวอย่างเช่น ลูกค้าโครงการ ราคาช่าง ในกลุ่มธุรกิจประเภทนี้ ส่วนต้นทุนถ้าเปิดร้านใหญ่ ก็ต้องแบบรับค่าใช้จ่ายที่ต้องมีพนักงานขายคอยแนะนำสินค้าในร้านซึ่งผมมองว่าตรงนี้มันเปลือง cost มากๆ บางร้านเข้าไปพนักงานนั่งเล่นโทรศัพท์ ถ้ากะจะเปิดร้านขายอย่างเดียวแต่หายอด volume ที่จะขายไม่ได้เนื่องจากเจอเจ้าถิ่นที่คุมผู้รับเหมาอยู่ คงจะยากใช่มั้ยครับ
มุมมองผมจากสาย ie ออกมาทำสายการผลิต เน้นเรื่อง output ลดต้นทุน ลดแรงงาน กำไรต่อหน่วยต้อง 20-30% ขึ้นไป ถ้าเจอกดราคาก็ต้องลงราคาสู้เพื่อรักษา output ส่วนการบริหาร fix cost จะทำยังไงก็ไปซ่อมหลังบ้าน
ผมไม่ค่อยมีมุมมองเรื่องการบริหารธุรกิจแนวนี้เลยดูแล้วน่าจะไม่เวิค 555555 ยังไงต้องขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์ดีดีนะคับ เปิดโลกเลย"
ไม่ได้แปลว่าจะไม่เวิร์คนะครับ แต่แค่ต้องมีแผนธุรกิจที่เป็นไปได้ก่อนอะครับ ในมุมมองส่วนตัวนะ
"เจ้าถิ่นที่คุมผู้รับเหมา" ประเด็นนี้ ผมแนะนำว่า ต้องลองศึกษาธุรกิจปูนดูครับ
เมื่อก่อน(นานระดับนึงแล้วนะ) มี2เจ้าคุมตลาด แล้วเกิดเจ้า3ขึ้นมา พยายามชิงเจ้าถิ่นเดิม
สุดท้ายเป็นไงก็ต้องไปศึกษาดูครับ
ซึ่งในระยะสั้นๆซึ่งคือหลายๆปี มันไม่ใช่แค่3จะลำบาก แต่1กับ2ก็ดิ้นหนักไม่แพ้กัน
กลยุทธแต่ละคนคืออะไร ไปอ่านเล่นๆ ถ้าสนใจธุรกิจ ผมว่าก็สนุกดีนะ
แต่นั้นมันสเกลระดับประเทศ ถ้าเป็นสเกลที่เล็กลงมา โอกาสก็มีเป็นร้อยเป็นพันที่สำเร็จได้ครับ
เพราะหลายสาเหตุ กลยุทธ ทำเล คอนเนคชั่น ต่างๆนาๆ ก็สร้างข้อแตกต่างได้เยอะ ถ้าคมจริงๆ
เช่นทำเล มันส่งผลต่อcostโดยตรงได้เลย ค่าขนส่งต่างกันได้เป็นหลักเป็นสิบเป็นร้อยเท่า พันเท่าก็ได้
แต่บ้านเรา ทีเด็ดทีขาด คอนเนคชั่นถ้าถึงจริง มันก็ชนะได้หมดแน่นอน 55
อีกอย่างโมเดลของการผลิต กับ รีเทล มันต่างกันเยอะครับ
รีเทลไม่ต้องมีไรมาก ซื้อมา มีที่เก็บ ขายไป จบ
แต่การผลิตต้องลงทุนซื้อเครื่อง ต้องมีCAPEX มีค่าบำรุงรักษาโรงงาน ไลน์การผลิตบลาๆๆ
จะให้ขายราคาเท่ากัน เป็นไปไม่ได้ครับ
เหมือนผมขายหมูสดในตลาด กับท่านทำกระเพราหมูสับขาย จะให้ขายได้เท่ากันเทียบปริมาณหมู มันไม่ได้สิคับ
ถ้าอยากทำจริงๆ ท่านก็ไปศึกษาทำเล ไปศึกษาลูกค้า ไปศึกษาค่าขนส่ง ไปศึกษาพนักงาน ต่างๆนาๆสิครับ
แล้วมานั่งคิดดูว่า ไอ่คนที่ท่านอยากชนะ มันเก่งตรงไหน มันอ่อนตรงไหน
ถ้ามองออก มองขาดและถูกต้อง ท่านก็แทรกตัวไปได้ จะมากขนาดไหนมันจะยาวไปอะ
แต่ยกตัวอย่างคำถามคือ
- ลูกค้าโครงการ ราคาช่าง ในกลุ่มธุรกิจประเภทนี้ pain point ของเค้าคืออะไร
(อย่าเล็กสุดก็ในที่ที่ท่านอยากทำอะ)
เช่น ส่งของช้า เซลห่วย บริการไม่ดี ไม่เป็นมิตร ไม่เป็นเพื่อน ค่าส่งแพง ... ก็ว่าไป
ละท่านแก้ไรได้บ้าง ถ้าแก้ได้ ก็ได้คะแนนไป
- พนักงานนั่งเล่นโทรศัพท์ ชิลๆอยู่ที่ร้าน ท่านแก้ไรได้บ้างหละ
ปรับได้ไหม ให้เป็นเชิง active เช่น
-- โทรหาคนที่มีโอกาสเป็นลูกค้าแทนที่จะให้นั่งเล่นโทรศัพท์ เช่นว่าวันนึงต้องโทรกี่สายก็ว่าไป 30 50สาย
แค่นี้มันก็เล่นโทรศัพท์น้อยลง และทำงานมากขึ้นแล้ว
-- ให้ออกไซท์ ไปเสนอขาย แนะนำตัวกับบริษัทต่างๆนาๆ เพื่อหาข้อมูลและนำเสนอตัวเองได้พร้อมๆกัน
หรือไปหาไรทำที่อาจจะมีสาระอะ ในขณะเดียวกัน ก็ต้องมีคนพอจะเมเนจหน้าร้านได้
-- หลักบ้านว่างท่านไม่มีอะไรให้ทำ ท่านแก้ไรได้บ้างหละ
เคยมีบริษัทใหญ่เคยมีแคมเปญเปลี่ยนพนักงานให้เป็นเซล ไม่ว่าตำแหน่งไหน จะบัญชี จะธุรการหรืออะไร
ถ้าขายของได้ก็ให้ค่าคอม หาเรื่องสร้างวัฒนธรรมองค์กรใหม่ๆ แต่งานหลักก็ไม่ทิ้ง มันก็เป็นไปได้
คอนเซปก็คงจะประมาณนั้นแหละครับ อยากเป็นเจ้าของ ท่านก็หาทางแก้ปัญหาให้หมด ให้เหนือกว่าคนอื่น
คอนเซปคิดๆไปมันก็ไม่ยาก แต่ทำจริงก็ไม่ง่ายแน่ ถ้าเอาจริง ขยันจริง พร้อมสู้ มีความรู้ ผมว่ามันก็เวิร์คได้ครับ