ไม่ได้หมายถึง พวกเครื่องยนต์ โครงสร้าง ช่วงล่าง หรืออะไรนะ
พวกนั้นรับแรงรับความเค้นความเครียด

พวกกรอบประตู ฝากระโปรงหน้าหลัง กรอบข้าง ประตู หลังคา
ไอ้พวกชิ้นรอบๆ ที่ปิดให้รถดูเป็นรถน่ะ
เหมือนพวกที่เปลี่ยนฝากระโปรงเป็นเคฟล่าร์(ป่ะ?)
หรือฝาท้ายรถบางรุ่นที่เริ่มทำเป็นพลาสติกคอมโพสิท

พอดีผมล้างรถ แล้วหงุดหงิดชิ้นโลหะพอสมควร
ฝุ่นจับง่าย ล้างให้สะอาดก็ยาก น้ำหนักก็เยอะ
พอเปรียบเทียบกับชิ้นกันสาด ขอบล้อพลาสติก ดูแลง่ายกว่ากันเยอะ

ทำไมไม่เปลี่ยนเป็นพลาสติกให้หมด
น้ำหนักก็เบากว่า จะทำให้ซับแรงพอสมควรก็ทำได้
ดูแลก็ง่ายกว่า เวลาขูดขีด รอยก็ดูน่าเกลียดน้อยกว่าโลหะเคลือบ
เวลาชนหรืออะไร ก็เปลี่ยนยกชิ้นอยู่ดี พอเป็นพลาสติก ก็ไม่ต้องไปรอพ่นสีด้วย
เวลาอุบัติเหตุก็น่าจะถูกกว่า
น่าจะผลิตได้เร็วกว่า ลดต้นทุนอีกเยอะด้วย
ขึ้นรูปได้หลากหลายออกแบบได้เยอะด้วย

จะเสียก็แค่ ความทนทาน ใช้ไปนานๆ จะกรอบ
แต่ก็พูดกันหลัก 8-10 ปีละ

ความปลอดภัยละ

ไวไฟ

ถ้าพลาสติกเยอะ ไปเทสชนไม่น่าจะผ่าน

ความปลอดภัย ความร้อน

การยืดหดตัวของพลาสติกเวลาขึ้นโมล

ยกตัวอย่างเคส 3D print ได้ไหม

บางแมท แข็งแต่หักง่าย บางแมทหักยาก แต่คงรูปไม่ได้

ที่สำคัญทนอุณภูมิกัดกร่อน จากสารสภาพแวดได้ไม่เยอะ

รับแรงการชนใช่ไหมครับ?

รถสมัยใหม่ มีชิ้นรับแรงแยกออกไปหลายชิ้น
พวกกรอบๆ มีไว้ช่วยยุบ ซับแรงกระแทกแค่นั้นเอง

ก็กรอบพลาสติกช่วยยุบ แต่รับแรงก็โลหะ เหมือนเดิม
ทำได้ พลาสติกไปไกลแล้ว

ความปลอดภัยต่ำเตี้ยเเละไม่ดูดซับเเรงกระเเทก

เสื่อมต่อสภาพเเวดล้อมได้ง่ายเเละไม่ทนต่ออุณหภูมิอย่างรุนเเรง

ซ่อมไม่ได้เพราะพลาสติกมันได้ยืดหยุ่นเหมือนโลหะที่เคาะขึ้นรูปได้ ดัดงอได้ พลาสติกนี่มันจะไม่ใช่เเค่บุบเเต่จะฉีกหรือเเตกเลย ที่มีใช้บ้างคือวัสดุคอมโพสิทเช่นไฟเบอร์หรือเคฟลาร์ เเต่ต้นทุนสูงหนักกว่าเดิมอีก

นี่ยังไม่นับเรื่องปริมาณการผลิตกับ cost balance อีกนะ

ยังไม่นับเหตุผลอีกล้านแปดอีกนะ เชื่อผมเพราะผมจบอุตสาหการเเละจบโทสายวัสดุมา

ถ้าคิดว่าสิ่งที่ท่านคิดมาแล้ว ดีจริงๆ

ผมเอาใจช่วยทำแบรนด์รถเลยครับ รอซื้อ

หรือไปขายไอเดียให้ค่ายรถยักษ์ใหญ่ก็ได้ น่าจะรวยไม่รู้ตัว

รถซุปเปอร์คาร์ หรือรถแข่ง ก็มีใช้วัสดุคล้ายๆพลาสติก เช่นไฟเบอร์กลาส กับคาร์บอนไฟเบอร์

ส่วนพวกพลาสติกเลย นี่น่าจะไม่ทนและไม่แข็งแรงพอมั้งนะ

มีก็มีหลายยี่ห้ออยุ่ไม่ใช่หรอครับที่เป็นไฟเบอร์อ่ะ

เออๆ...คล้ายๆ อย่างงั้นอ่ะครับ
ทำไมไม่ทำกัน

หรือมันแพงกว่าโลหะ?

จริงๆชิ้นส่วน exterior หลายๆชิ้นก็เป็นพลาสติกมานานแล้วเช่น bumper (กันชน) หน้า-หลัง..รวมทั้งแก้มข้างในบางโมเดล

แต่ใดๆถึงใช้พลาสติก ตัวรับแรงด้านในก็ยังต้องใช้เหล็กอยู่ดี..ดังนั้นพวกโครงรถ + บานประตูจึงยังจำเป็นต้องเป็นเหล็กอยู่

ในแง่ของการซ่อม(หลังอุบัติเหตุ) ก็เช่นกัน ถ้าโครงสร้างเหล็กมันยังเคาะ,ปะ,ทำสี ฯลฯ เฉพาะจุดได้ ไม่ต้องเปลี่ยนทั้งอัน

แต่ถ้าเป็นพลาสติกถ้าแตกแล้วโอกาสเปลี่ยนทั้งอันสูงกว่า = เปลืองกว่า และในมุมการทำสีพลาสติกก็ยังต้องพ่นสีเช่นเดียวกับเหล็กฮะ

(อย่างเช่น bumper มันยังไม่สามารถใช้เทคโนโลยีทำสีใส่เม็ดพลาสติกแล้วขึ้นรูปออกมาติดตั้งได้เลย ต้องพ่นสีพ่นเคลียร์อีกรอบอยู่ดี)

นอกเหนือจากนั้น(อันนี้ในมุม คหสต.) car maker หลายๆเจ้าเป้นหุ้นส่วนในบริษัททำตัวถังด้วยอ่ะฮะ คงยังไม่อยากจะเปลี่ยนทันที

เพราะมันเป้น business ที่มีผลประโยชน์เอี่ยวกัน ในอนาคตถึงพลาสติกจะแทนที่ได้ก็ต้องใช้เวลาทยอยเปลี่ยนตาม supply chain

อีกส่วนคือความเชื่อมั่นของตลาดผู้บริโภค ยังงัยส่วนใหญ่ก็ยังไว้ใจที่จะซื้อรถเหล็กมากกว่ารถพลาสติกด้วยแหละ..ต้องใช้เวลา

ความแข็งแรงและราคา
ถ้าพลาสติกจะให้แข็งแรงเท่าเหล็กราคาจะแพงกว่าใช้เหล็กครับ เพราะเหล็กมีคุณสมบัติเหนียวรับแรง ส่วนพลาสติกต้องมาดูชนิดอีกว่าเหนียวเท่าเหล็กราคาจะเท่าไหร่ ซึ่งอาจจะแพงกว่าเมื่อเทียบกับความบางเท่ากัน
ส่วนพวกรถใช้คาร์บอนไฟเบอร์ก็ราคาแพงเพราะต้องคอสต้อมเมดและเลือกชนิดของเรซิ่นให้เหมาะสม รวมถึงค่าทดสอบที่ต้องไปสอบให้ได้มาตรฐาน ISO
คหสต

อายุการใช้งาน

มีทำไมจะไม่มีแต่พลาสติกพวกนั้นมันเป็นพวก ไฟเบอร์พลาสติก หรือ ไฟเบอร์กลาส ไม่งั้นก็คาร์บอนไฟเบอร์ แต่มันอยู่ในรถซูเปอร์คาร์ เพราะ ราคามันแพง ไม่คุ้มมาใช้กับรถบ้าน ใครจะมีตังซื้อ