พูดแทรก ห ไรนักหนาในรายการ น่าตบชห

เชื่อยากอะ ตอนนี้ผิดอะผิดแน่อยู่ละ บางอันศาลชั้นต้นก็ตัดสินไปแล้วด้วย
เหลือแค่พิสูจน์เจตนามากกว่าแล้วมั้งตอนนี้

ว่าเจตนาโกงหรือไม่? หรือเหตุมันพาไป เช่นธุรกิจมันแย่จริงๆมีปัญหาจริงๆ เลยจำเป็นต้องเลือกทางนี้
แต่ให้มองบวก ยังไงให้มองตอนนี้บางอันมันก็ต้องมองว่าแปลก และบางอันมันก็ฟังไม่ขึ้นจริงๆ

- ถ้าสินค้ามีปัญหาจริง แล้วของยังอยู่ครบ แล้วจะเก็บไว้ทำไม
ไม่คืนของไปตั้งนานแล้วหละ คุยกะผู้เสียหายสิ เคลียตังส่วนต่างกันหลังบ้านก็น่าจะจบได้
หรือของไม่ดีจริง มันก็เคลมได้ เป็นกระบวนการที่โคตรจะปกติเลยนะสำหรับธุรกิจทั่วๆไป
ทำไมเลือกที่จะเงียบ โทรไม่รับ ไลน์ไม่ตอบ ชิ่งหนีไปเป็นปีปี จนของมันหมดอายุ แบบนี้มันก็ผิดวิสัย

- ผู้เสียหายบอกว่าเคยไปสั่ง สินค้าตัวที่ตัวเองเป็นคนนำเข้ามานี้จากบริษัท และขายถูกกว่าที่เค้าขายให้อีก
ตรงนี้มันก็ชี้แจงยากอะ ถ้าของอยู่ครบ แปลว่าผู้เสียหายคนนี้ต้องมั่วทันทีนะ
ซึ่งนี่มันทายาทยินตันนะ มีหน้ามีตาในสังคม ไม่ใช่ไก่กา ที่อาจจะออกมาพูดมั่วๆไม่มีผลกระทบ
ถ้ายังไม่มีข้อแย้งออกมา มันก็ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเค้าพูดจริง

- คือบริษัทไม่มีตังขาดทุนได้รับผลกระทบจากโควิดก็เข้าใจได้
แต่ผู้เจ้าของดูจะรวยขึ้นรวยขึ้น มันก็ผิดวิสัย
ทั้งซื้อของให้แฟน ทั้งเพชรเม็ดยักษ์ รถหรู บ้าน200ล้าน มีบ้านหลายหลัง

ถ้าเจตนาดีจริง ทำไมไม่ขายบางส่วน คืนของ แล้วควักตังส่วนตัวจ่าย
มีวิธีการตั้งมากมายที่มันทำได้ในแง่ของบริษัท แต่กลับเลือกชิ่งหนีแบบนี้ ถึงขั้นต้องขึ้นโรงขึ้นศาล
ติดตังเค้า80ล้าน แต่บอกมี1ล้านเอาไหม แต่ใช้ชีวิตหรูเฟิสคลาส ซื้อแอสตันมาตินให้เมีย
คือพฤติกรรมมันไม่ใช่อะ จะให้เชื่อได้หรอ

- ที่บอกว่าได้รับกำลังใจ คำชมจากลูกค้าว่าสินค้าดีจริง กรณีนี้ผมว่าเป็นข้อที่ใช้ไม่ได้อะ
เพราะมันแปลว่า สินค้าจากยินตันที่นำเข้ามา หรือฟลอร่าที่ทำสูตรโปรดักออกมาได้ดีซะมากกว่า
และเมื่อพฤติกรรมเป็นแบบนี้ แปลว่าต้นทุนเป็น0 แบบนี้ผมก็ทำได้ปะ
สินค้าไม่มีต้นทุน จะทำเทพขนาดไหนมันก็ได้หมดอะ ขาย1บาทก็กำไรละ

ดูจากทรงแล้วก็โอกาสสูงอะ เข้าคุกอีกคนหละมั้งนะ

ถ้าเจ้าเดียวมันยังพอบิดเป็นแพ่งได้แต่นี่โดนมาหลายซัพพลายเออร์แล้ว ยังไงก็ไม่รอดอาญาเพราะอัยการสั่งแล้วด้วย