ส่วนใหญ่มีเมียมีลูกกัน ถ้าไม่มีลูกมีเมียก็มีสังคมใหม่ ติดต่อกันน้อยลง

เมียมันไม่ให้มาหาเพื่อนๆ

ผมชอบฟังรายการหลายๆรายการ
1 ในรายการนั้นคือ คุยให้เด็กมันฟัง

หลาย EP เค้าคุยกันว่า
คนเราคบกันได้ยืด ไม่ใช่เพราะข้อดี

เราคบกันได้ เพราะข้อเสีย เพราะเรามองข้ามข้อเสียของมันไปได้ (ไม่ติด คือถ้าติด เราไม่ชอบเราจะไม่คบ ต่อให้ดีแค่ไหนก็ไม่คบ)

ดังนั้นบางที เราอาจจะติด อะไรบางอย่างกับเพื่อนสักคน

เราก็เลย ค่อยๆห่างกันออกมา ซึ่งสำหรับผมแล้วก็ เป็นแบบนั้น

ข้อเสียเช่น เรื่องความรับผิดชอบ เจ้าชู้ ผู้หญิง เรื่องเงิน เรื่องผิดใจ

ถ้าเรามองข้ามได้(แย่แค่ไหนก็ตาม) เราคบกันต่อได้

1. เพื่อนสนิทตอนประถม โดนแม่สั่งเลิกคบเพราะแม่ระแวงจะทำผมเสียคน


2. ช่วง ม.ต้น ชอบคนๆเดียวกับเพื่อนกลุ่มเดียวกัน (ตอนนั้นเป็นหลุ่มใหญ่) ซึ่งเป็นคนที่ผมเคยจีบไม่ติดมาก่อน ผมก็ปล่อยๆให้เพื่อนจีบต่อ แต่บังเอิญว่าผู้หญิงคนนั้นกลับมาชอบผมซะงั้น ผมก็เลยตัดสินใจเอาว่ะลองอีกตั้ง จนได้เป็นแฟนกัน

- เหตุการณ์นี้ตอนแรกก็เหมือนไม่มีอะไร แต่รู้ตัวอีกทีกลุ่มก็แตกเป็น 2 กลุ่มแล้ว ถ้าย้อนกลับไปตัดสินใจใหม่ได้จะนึกถึงใจเพื่อนเยอะๆ ไม่ยอมให้การตัดสินใจของเราทำให้กลุ่มแตก


3. ปลาย ม.3 เพื่อนสนิทที่สุดตอน ม.ต้น เลิกคบผม เพราะตอนโทรมาหาผม แม่รับสายละด่าเพื่อนผม ว่าเป็นคนทำให้ผมติดเกม ตอนนั้นถึงขั้นแม่เพื่อนมาเอาเรื่องที่บ้านเลย ส่งผลกระทบให้มีเพื่อนอีกหลายคนเลยที่ห่างผมไป


4. ม.6 มีเหตุการณ์เพื่อนในกลุ่มคนนึง ไปสมรู้ร่วมคิดกับเพื่อนต่างห้อง เพื่อหลอกเอาเงินคนทั้งระดับชั้น เรื่องเกี่ยวกับการจ่ายเงินเส้นรด. คือบอกให้จ่ายเงินคนละ 1600 เพื่อทำให้ขาดรด.เพิ่มได้อีก 4 ครั้ง พวกมันจะซื้อเหล้าไปเส้นทหารให้ แต่ที่จริงๆคือหลอกเอาเงินเฉยๆเลย แล้วไปซุยเซ็นให้หน้างาน

- ไม่ได้เลิกคบเพราะมันทำนะ แต่เลิกคบเพราะมันแหลไปเรื่อยๆ ไม่ยอมรับทั้งๆที่หลักฐานชัดเจน



4.1 กลุ่มที่หลอกคน แค้นที่โดนเปิดโปง เลยดักทำร้ายเพื่อนผม ซึ่งผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์....เพื่อนผมที่โดนดักทำร้าย ไม่รู้มันไปคุยกันยังไง สงสัยว่าผมเป็นคนบอกโลเคชั่นพวกมัน แล้วพากันแบนผม แต่สุดท้ายก็รู้ความจริงว่าผมไม่ได้ทำ

- ตรงนั้นเข้าใจว่าคนเพิ่งโดนทำร้ายมันระแวง แต่ที่เสียความรู้สึกคือหลังจากนั้นมไม่มีแม้แต่คำขอโทษที่เข้าใจผิด ไม่ถึงกับเลิกคบหรอก แต่มันไม่สนิทใจเหมือนเดิม ช่วงเวลาที่เหลืออยู่ตอนนั้นเลยตัวติดแฟนอย่างเดียว ไม่ค่อยไปไหนมาไหนกับเพื่อน เข้ามหาลัยปุ๊บก็แทบไม่ได้ติดต่ออีก มีนัดเจอกันบ้างหลังเริ่มทำงาน



จาก 3 ข้อข้างบนทำให้เพื่อนสนิทผม ไม่มีใครที่คบมาแต่เด็กเลยครับ มีแต่เพื่อนมหาลัยซึ่งโชคดีที่เจอเพื่อนดีมากๆ กัลยาณมิตร ช่วยเหลือกันถึงทุกวันนี้



5. เพื่อนผู้หญิง no.1 พลาดเลยเถิด ก็เลยคุยว่าจะสานต่อ บอกว่าจะลองคุยกับผมคนเดียว สุดท้ายไปจับได้ว่านางคุยอีก 5 คน นางบอกว่า คิดว่าเราก็ไม่น่าจริงจัง แอบคุยเหมือนกัน เลยป้องกันตัวไว้

- ก็เข้าใจได้ มันรู้ใส้รู้พุงกันเลยระแวง ไม่ได้โกรธอะไร (ช่วงนั้นผมก็เลวพอตัวเลย) แต่ก็ทำให้เข้าหน้ากันไม่ติดหลังจากนั้น



6. เพื่อนผู้หญิง no.2 เลิกสนิทเพราะนางยิ่งโตยิ่ง toxic โดนข่มตลอดเวลา ชอบ fix เพื่อน อันนี้ไม่ใช่ผมคนเดียวที่ห่าง เพื่อนคนอื่นๆก็ห่างนางไปเหมือนกัน



7. เพื่อนผู้ชาย 1 คนตอนมหาลัย ตอนแรกสนิทกันเลย แต่ไปเห็นธาตุแท้ตอนที่ต้องทำงานสโมด้วยกัน มันทำงานเอาหน้า ดิสเครดิตคนอื่น อยากเด่นอยู่คนเดียว ตอนนี้เลยห่างออกมาแต่ก็ยังติดต่อกันอยู่




ทั้งหมดนี้ เรื่องสุดท้ายเกิดตอนอายุ 24 ครับ

ตอนนี้ 31 ละ ผ่านมานานมากแล้ว

เพื่อนไม่ได้เยอะเหมือนแต่ก่อน แต่เป็นเพื่อนที่อุ่นใจมากๆ รวมถึงที่รู้จักใหม่ๆตอนโตก็มีแต่คนดีๆ

ส่วนนึงก็เพราะเราปรับนิสัยตัวเองด้วยแหละ ทำให้คนดีๆอยากอยู่กับเรามากขึ้น

เล่าเหตุการณ์แรกให้ฟังหน่อย

ก็ปกติผมอยู่กับเพื่อนตลอดละมีญมาจีบผมก็เลยไปครั้งละ3คน

พอผมยุ่งๆแฟนก็ไปกับเพื่อนยิ้มกันท้องมีลูกเรียบร้อย 555

นินทาลับหลัง, เอาเปรียบ, ขี้ขอ

ยิ่งอายุเพื่อนยิ่งน้อยลงเรื่อยๆ กลายเป็นคนที่คบหากันปัจจุบันคือเพื่อนที่มาจากความบังเอิญทั้งนั้น เช่น ที่เจอกันตอนเที่ยวต่างประเทศ, เจอกันในงานอบรม, เจอกันเพราะรักผู้หญิงคนเดียวกัน, รู้จักเพราะคุ้นๆหน้าในงานไอดอล

สนิทสุดก็คนที่ชอบสาวคนเดียวกับผม เป็นหมอ

- มีภาระหน้าที่ต้องทำ
-มีครอบครัว คนที่รักที่สุดเปลี่ยนไปเป็นครอบครัว
- ต่างคนต่างวิ่งตามสังคมที่ตัวเองอยู่
-โตแล้วชอบสันโดษมากกว่า(จากคนที่ติดเพื่อนมากๆแบบผม)
-เรื่องในวงเหล้าถ้ายังเป็นการวัดพลัง หรือเรียกร้องการยอมรับ
รอบหน้าไม่เจอหน้าผม 100%
-บางคนถอดหัวโขนจากตำแหน่งงานไม่ได้
-การเจอกันต้องใช้ทั้งเงิน ทั้งพลังงาน

สุดท้ายถ้าเราสบายใจจะเจอเค้า สำคัญกับเรา รักเค้ามากพอ เราจะไปเจอเค้าโดยไม่จำเป็นต้องแคร์ข้อด้านบนครับ

เมียไม่ให้ออกจากบ้าน

กลัวเพื่อนเบื่อหรือรำคาญครับ ว่าชวนแต่มันไปกินเหล้า มีอะไรก็ปรึกษาแต่มัน ทั้งที่เพื่อนก็มีงานมีการ มีเพื่อนหลายกลุ่ม
ผมก็เลยพยายาม หาสังคมใหม่บ้าง พบว่าบางทีการเล่าหรือบ่นให้คนที่ไม่ได้สนิทกับเรามาก ก็ให้มุมมองที่แปลกใหม่ต่างจากคนที่สนิทกับเราเหมือนกัน

ข้อ2. แทงทั้งหน้าทั้งหลัง

เพื่อนสนิท ขับรถไม่เก่งเหมือนท่าน
ขนาดท่านเมาแล้วยังขับเก่งเลย

เนรคุณ

ไม่จริงใจ มีเงินฝากน้อง มีหนี้ฝากเพื่อน พวกแนวนี้ต่อให้สนิทมาตั้งแต่เด็กก็เลิกคบค้าสมาคมด้วยครับ

ตอนเด็กสนิทกันเพราะอยู่ที่โรงเรียนด้วยกันมากกว่า นั่งข้างกัน เตะบอลด้วยกัน เล่นกิจกรรมต่างๆด้วยดัน เลิกเรียนก็ไปสิงบ้านใครสักคนเล่นวินนิ่งกับมวยปล้ำกัน
พอโตขึ้น ความคิดเปลี่ยน ชีวิตส่วนตัว ปัญหา ภาระที่บ้านแตกต่างกันออกไป
ไลฟ์สไตล์ไม่ตรงกัน
ตอนนี้ที่สนิทก็คือเพื่อนมหาลัย สนิทที่เหลือจริงๆคือ2คน ไลฟ์สไตล์ต่างกันแต่ด้วยความที่เราติดต่อกันตลอด ไปเที่ยวไหนมาไหนด้วยกันทุกๆปี นิสัยคล้ายๆกัน เลยทำให้คบกันมายาวนาน ก็ 11ปีแล้ว