'เยอเกเรส' แฮตทริก!! สปอร์ติ้งโดนไวยังแซงอัด 4-1 เรือแพ้ 3 นัดติด
รูเบน อโมริม คุม สปอร์ติ้ง ลิสบอน ลงเล่นเกมสุดท้ายในรังเหย้าก่อนออกจากตำแหน่งและเขาก็ทำให้ไม่ทำให้แฟนบอลผิหวัง หลังโดน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยิงอย่างไวแต่พวกเขาก็ได้ วิคตอร์ เยอเกเรส ตามตีเสมอก่อนจะกดจุดโทษอีกสองตุงเน้นๆเป็นแฮตทริกพร้อมช่วย สปอร์ติ้ง เอาชนะ 4-1 ส่ง เรือใบสีฟ้า แพ้ 3 เกมติดต่อกันในทุกรายการ
สปอร์ติ้ง ลิสบอน
Starting Formation: 3-4-3
2.
มาเธอุส ไรส์
75'
7.0
20.
มักซิมิเลียโน่ อเราโฮ
75'
7.0
57.
จีโอวานี่ เควนด้า
85'
7.0
5.
ฮิเดซามะ โมริตะ
75'
6.0
17.
ฟรานซิสโก้ ทรินเคา
88'
7.0
ตัวสำรอง
3.
เยเรเมียห์ เซนต์ ยุสเต้
75'
6.0
19.
คอนราด ฮาร์เดอร์
88'
-
21.
เกนี่ คาตาโม่
75'
6.0
23.
ดาเนียล บรากันซา
75'
6.0
72.
เอดูอาร์โด้ ควาเรสม่า
85'
-
ฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ลีก รอบลีกเฟส
สนาม เอสตาดิโอ โชเซ่ อัลวาลาด
วันที่ 5 พฤศจิกายน 2567
กรรมการ ดาเนียล ซีเบิร์ท
สปอร์ติ้ง ลิสบอน
4
1
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
1-1 เยอเกเรส 38'
2-1 อเราโฮ 46'
3-1 เยอเกเรส 49' (Pen.)
4-1 เยอเกเรส 81' (Pen.)
สปอร์ติ้ง ไม่มี อินาซิโอ ในแนวรับทำให้ ไรส์ ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงแทนและแดนกลางสลับให้ โมริตะ ลงแทน บรากันซา ด้านแนวรุกนำมาโดย เยอเกเรส
สำหรับ ซิตี้ มีการสลับแนวรับส่งเด็กแบบ พิวซี่ ลงตัวจริงให้ทีมหนแรกและแบ็คขวา ลูวิส ออกสตาร์ท ส่วนมิดฟิลด์ก็ให้ นูเนส ลงแทน กุนโดกาน
สปอร์ติ้งพลาด! โฟเดน ฉกบอลไปยิงพาเรือนำ
เริ่มเกมเพียงไม่กี่นาที ซิตี้ ก็เอาประตูออกนำไปก่อนแล้ว หลังจาก โฟเดน ไปแย่งบอลจาก โมริตะ ในแดนของ สปอร์ติ้ง ทำให้พาบอลเข้าเขตโทษแล้วตัดสินใจยิงเองบอลเข้าประตูไป แมนฯ ซิตี้ นำ 1-0
มันน่าเจ๊า!! เยอเกเรส หลุดโคตระเดี่ยวดันชิพเบาเกิน
แต่ สปอร์ติ้ง ก็น่าจะตีเสมอเหมือนกันเมื่อมีจังหวะที่ กอนซัลเวส แย่งบอลมาได้แล้วรีบจ่ายให้ เยอเกเรส หลุดเดี่ยวจากแดนตัวเองไปดวลกับ เอแดร์ซอน แต่ตัดสินใจเลือกชิพแล้วมันไม่โด่งพอโดน เอแดร์ซอน รับง่ายๆเลย
เรือลุยต่อ ฮาลันด์ ยิงไปโดนปัดทิ้ง
กลับมาเป็น แมนฯ ซิตี้ เกือบได้ประตูเพิ่มเมื่อ ซาวินโญ่ จ่ายให้กับ ฮาลันด์ โฉบตามบอลเข้าเขตโทษทางขวาพยายามเอี้ยวตัวยิงด้วยซ้ายแต่โดนปัดทิ้ง
เรือมาอีกแล้ว ฮาลันด์ ซัดออกหลัง
โอกาสของ แมนฯ ซิตี้ มาอีกครั้งในจังหวะที่ฝาก นูเนส ริมเส้นซ้ายแล้วเลือกตักขึ้นหน้าทันทีให้ ฮาลันด์ เกี่ยวบอลลงในเขตโทษแล้วขอซัดเลยแต่พุ่งออกหลัง
เกือบสอง! เตะมุม ฮาลันด์ โหม่งโดนสกัดจากหน้าประตู
หลังจากนั้นมาบอลอยู่กับ เรือใบ มากกว่าและก็ได้ลุ้นอีกด้วยเตะมุมทางขวาเปิดลึกไปเสาไกลแล้ว ฮาลันด์ วิ่งมาโหม่งได้ย้อยข้ามผู้รักษาประตูแต่โดน เยอเกเรส เตะทิ้งจากปากประตูไปทัน
เรือลองอีกทีเปิดถึง ฮาลันด์ วอลเล่ย์ เจอปัด
แมนฯ ซิตี้ ยังได้โอกาสอยู่เรื่อยๆและมีลุ้นอีกแล้วเมื่อขึ้นทางซ้ายไหลให้ โฟเดน วิ่งสอดขึ้นไปถึงเขตโทษแล้วเปิดไปตรงกลาง ฮาลันด์ วอลเล่ย์แต่ยังโดนเซฟ
ไม่สอง! โฟเดน ไขว้ให้ แบร์นาร์โด้ พลิกยิงเฉี่ยวเสาสอง
หวิดจะมีประตูให้ แมนฯ ซิตี้ อีกแล้วหลังต่อบอลหาช่องกันอยู่แล้วได้โอกาสที่ โฟเดน หน้าเขตโทษไขว้ต่อให้ แบร์นาร์โด้ ด้านหลังพลิกเข้าไปในกรอบแล้วยิงบอลหลุดเสาสองไปหน่อย
หนนี้ไม่พลาด! เควนด้า แทงให้ เยอเกเรส ลุยไปยิงเจ๊า
แต่พอ สปอร์ติ้ง กลับมาหาโอกาสได้ก็เอาประตูคืนสำเร็จ เริ่มจากที่ เควนด้า ได้บอลกลางสนามก่อนแทงให้ เยอเกเรส วิ่งแข่งกับ พิวซี่ เข้าเขตโทษโดนตามเบียดยังเอาอยู่ก่อนจะยิงตักๆเข้าประตูไปยอดเยี่ยม สปอร์ติ้ง ตามเจ๊า 1-1
สปอร์ติ้งโต้กลับอีก ทรินเคา ซัดออกหลัง
ท้ายครึ่งแรก สปอร์ติ้ง มีโอกาสโต้กลับให้ลุ้นเอาประตูนำเมื่อ ทริเคา พาบอลจากกลางสนามลุยขึ้นมาเองแล้วฝาก กอนซัลเวส ก่อนวิ่งไปรับบอลจ่ายคืนในเขตโทษแล้วสับไกทันทีพุ่งออกหลัง
แค่ 30 วิฯ!! สปอร์ติ้งบุกทันที อเราโฮ ทะลุยิงนำ
กลับมาครึ่งหลังเพียงแค่ 30 วินาที สปอร์ติ้ง กลายเป็นฝ่ายออกนำแทนแล้ว เริ่มต้นตั้งแต่เขี่ยบอลก่อนจ่ายวนออกซ้ายแล้วทำชิ่งให้ กอนซัลเวส เลี้ยงลุยขยับเข้ามาหน้าเขตโทษตามด้วยไหลให้ อเราโฮ วิ่งสอดเข้าไปมีโอกาสซัดไม่เหลือ สปอร์ติ้ง นำ 2-1
สปอร์ติ้งได้จุดโทษ!! เยอเกเรส ซัดไม่เหลือนำห่าง
เท่านั้นไม่พอ สปอร์ติ้ง มาอีกรอบแล้วได้จุดโทษเมื่อ ทรินเคา ควบพาบอลเข้าเขตโทษ กวาร์ดิโอล เบียดจากด้านหลังล้มลงไปกรรมการเป่าทันที
เยอเกเรส รับหน้าที่สังหารยิงหนักยิงแรงตุงตาข่าย สปอร์ติ้ง นำ 3-1
เรือได้ฟรีคิก โฟเดน ยิงแฉลบกำแพง
แมนฯ ซิตี้ ต้องตั้งสติน่อยกลับมาเรียกฟรีคิกหน้าเขตโทษตรงหัวกะโหลกเกือบๆกลางประตู โฟเดน รับหน้าที่จัดการปั่นแต่ติดแฉลบกำแพงออกหลัง
เรือได้จุดโทษบ้าง!! ฮาลันด์ ซัดให้ดันชนคานอดไล่จี้
แมนฯ ซิตี้ ตั้งเกมบุกมาใหม่แล้วมีจังหวะที่แทงให้ แบร์นาร์โด้ เข้าเขตโทษก่อนแตะหลบกองหลังแล้วจังหวะยิงโดน ดิโอมานเด้ มาบล็อกทันพยายามฟ้องว่าโดนแขนด้วย
จากภาพช้า ดิโอมานเด้ มาบล็อกแล้วโดนแขนที่ยกขึ้นมาจริงซึ่งในแชมเปี้ยนส์ลีกแบบนี้หลังๆให้เป็นจุดโทษหมด และพอกรรมการดูภาพช้าเสร็จก็ให้ตามคาด ฮาลันด์ รับหน้าที่จัดการซัดแต่ส่งบอลชนคานเต็มๆ แมนฯ ซิตี้ อดไล่จี้
เรือลุยต่อ ซาวินโญ่ ได้ยิงแต่โดนรับเข้าซอง
ทีมเยือนยังพยายามเดินหน้าหาประตูตีตื้นและมาได้โอกาสที่ โควาซิช แทงให้กับ ซาวินโญ่ สอดเข้าเขตโทษทางขวาแล้วจบด้วยการยิงเองแต่โดนรับเข้าซอง
หวิดแฮตทริก!! เยอเกเรส หลุดมาอีกแต่ยิงไม่ผ่าน
เข้าท้ายเกมเกือบมีประตูฝังให้กับ สปอร์ติ้ง เข้าแล้วจากที่ เยอเกเรส ฉีกตัวไปรับบอลริมเส้นซ้ายแล้วฝาก ทรินเคา จากนั้นจ่ายต่อไปพื้นที่ว่างให้ เยอเกเรส ควบไปเอาบอลเข้าเขตโทษดวลกับ เอแดร์ซอน อีกรอบแต่ดูลังเลกะจะล็อกหาช่องดีๆสุดท้ายยิงไปโดนเซฟ
แฮตทริกจนได้!! เยอเกเรส กดจุดโทษอีกลูกไม่เหลือ
แต่แล้วพอ สปอร์ติ้ง มาอีกรอบก็ได้จุดโทษเพิ่มอีกหลังจาก กอนซัลเวส แย่งบอลกลับมาหน้าเขตโทษแล้วพยายามเลี้ยงลุยกลับเข้าไปใหม่ นูเนส วิ่งมาพยายามตามสกัดแต่แย่ กอนซัลเวส ล้มไปกรรมการชี้อีกรอบ
เยอเกเรส คนเดิมรับหน้าที่สังหารอีกครั้งเลือกยิงเรียดไปซ้ายมือ เอแดร์ซอน พุ่งถูกแต่ก็ไม่ทัน สปอร์ติ้ง นำยาวๆ 4-1
เรือส่ง KDB ลงมาท้ายเกม
ก่อนหมดเวลา แมนฯ ซิตี้ เปลี่ยนตัวเพิ่มต้องส่ง เดอ บรอยน์ ลงสนามมาแทน โควาซิช แต่จะให้ไล่ตอนนี้คงไม่ทันการแล้ว
จบเกม แมนฯ ซิตี้ บุกไปแพ้ต่อ สปอร์ติ้ง 3-1 ทำให้พวกเขาพบกับความพ่ายแพ้ 3 เกมติดต่อกันเป็นหนแรกนับตั้งแต่ปี 2018
ส่วนชัยชนะของ สปอร์ติ้ง ทำให้พวกเขาขยับขึ้นมาเป็นรองฝูงในแชมเปี้ยนส์ลีกมี 10 แต้มและกวาดชัยรวด 6 นัดติดต่อกัน และยังไม่แพ้ต่อไปนับตั้งแต่เริ่มฤดูกาลมา
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-1-4-1
66.
จาห์ไม ซิมป์สัน-พิวซี่
5.0
8.
มาเตโอ โควาซิช
85'
5.5
20.
แบร์นาร์โด้ ซิลวา
77'
5.5
26.
ซาวินโญ่
77'
6.0
ตัวสำรอง
11.
เฌเรมี่ โดคู
77'
-
17.
เควิน เดอ บรอยน์
85'
-
18.
อิลคาย กุนโดกาน
77'
-
แก้ไขล่าสุดโดย redenzo เมื่อ Wed Nov 06, 2024 05:17, ทั้งหมด 5 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ