วิธีจัดการองุ่นไซมัสปนเปื้อนโดยอย.
แก้ไข จากการอ่านรายละเอียดข่าวจากท่าน pepino แล้วเป็นไปตามนี้ครับ
อย. แจงผลตรวจ องุ่นไชน์มัสแคท เจอสารปนเปื้อนจริง แต่ไม่เกินค่าความปลอดภัยในระดับสากล ยันกินได้
เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นเครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (Thai-PAN) ร่วมกับ อย. แถลงผลการตรวจหาสารปนเปื้อนใน “องุ่นไชน์มัสแคท” จำนวน 24 ตัวอย่าง
โดยพบว่า 23 ตัวอย่าง พบสารพิษตกค้างเกินค่าที่กฎหมายกำหนด เช่น สารคลอร์ไพริฟอส ว่า
ตามที่มีรายงานจากไทยแพน แล้วมีการสื่อสารเป็นข่าวออกไปนั้น พบว่าบางข่าวมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับสารปนเปื้อนที่พบในตัวอย่างองุ่นไชน์มัสแคท
โดยทั้งหมด 24 ตัวอย่างที่ไทยแพนสุ่มตรวจนั้น มี 1 ตัวอย่าง ที่พบสารในกลุ่มวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 คือ สารคลอร์ไพริฟอส เป็นสารที่ถูกแบนห้ามใช้ในประเทศแล้ว ส่วนอีก 23 ตัวอย่างนั้น พบว่ามีสารปนเปื้อนจริง โดยมีทั้งสารที่ถูกกำหนดในรายการเฝ้าระวังและไม่มีในรายการต้องเฝ้าระวังตามมาตรฐานสากล
“ในการสุ่มตรวจดังกล่าวระบุว่าพบสารปนเปื้อนถึง 50 รายการ แต่ข้อเท็จจริง คือ
พบสารปนเปื้อนที่อยู่ในรายการต้องเฝ้าระวังในระดับสากล 36 รายการ ส่วนอีก 14 รายการเป็นสารปนเปื้อนที่ระดับสากลไม่ได้จัดอยู่ในรายการเฝ้าระวัง เนื่องจากไม่มีข้อมูลการก่ออันตราย แต่ก็จะมีการกำหนดค่ามาตรฐานความปลอดภัยที่ไม่เกิน 0.01 นอกจากนั้น สารปนเปื้อน 36 รายการที่ตรวจพบนั้น อยู่ในค่าที่ไม่เกินค่ามาตรฐานความปลอดภัย หมายความว่า พบจริงแต่อยู่ในปริมาณที่ปลอดภัย เหมือนอย่างเช่นผลไม้อื่นๆ ที่ผู้ผลิต จะผสมสารต่างๆ เช่น ยาฆ่าแมลง ยากันรา ฉีดพ่นผลไม้ เพื่อยืดอายุให้นานขึ้น แต่เหล่านี้จะมีการกำหนดปริมาณความปลอดภัยไว้” นพ.สุรโชคกล่าว
นพ.สุรโชค กล่าวต่อว่า ส่ว
นกรณีที่ระบุว่าพบสารปนเปื้อนที่มีการดูดซึมเข้าไปในเนื้อองุ่นไชน์มัสแคท แล้วล้างสารออกยากนั้น ข้อเท็จจริง คือ สารบางชนิดเป็นสารที่ถูกใช้ในระหว่างการปลูก ทำให้ต้นไม้ดูดซึมสารเข้าไปเพื่อเป็นอาหาร แต่ไม่ได้หมายถึงว่าสารนั้นดูดซึมเข้าไปในผลไม้ ดังนั้น การล้างผลไม้ก่อนรับประทานตามวิธีที่ถูกต้อง ก็จะสามารถทานได้
เมื่อถามย้ำว่าองุ่นไชน์มัสแคทที่มีขายในตลาดสามารถซื้อมาทานได้หรือไม่ นพ.สุรโชคกล่าวว่า ยืนยันว่า สามารถทานได้ เนื่องจากสารปนเปื้อนที่ตรวจพบนั้น ไม่เกินค่ามาตรฐานความปลอดภัย
ถามต่อว่ากรณีที่ไทยแพนระบุว่ามีองุ่นไชน์มัสแคท ที่ไม่สามารถระบุที่มาได้นั้น จะมีความปลอดภัยหรือไม่ นพ.สุรโชคกล่าวว่า สำหรับกรณีนี้
อย.มีการสุ่มตรวจตัวอย่างผลไม้ที่เข้ามาผ่านกองด่านอาหารและยา ซึ่งการนำเข้าหลักๆ จะมี 3 ประเทศ คือ จีน เกาหลี และญี่ปุ่น โดยแรกเริ่มการนำเข้ามาจะมีบรรจุภัณฑ์ที่ระบุที่มาชัดเจน แต่เมื่อมีการแยกแยกไปจำหน่ายแบบปลีกตามตลาดทั่วไป ผู้ค้าบางรายที่ไม่ได้ทำบรรจุภัณฑ์ ก็จะไม่สามารถบอกที่มาได้ แต่ถ้าเป็นห้างใหญ่ๆ ที่ทำบรรจุภัณฑ์ใหม่ แล้วติดฉลากก็จะทราบที่มาได้
ถามต่อถึงความมั่นใจว่าผลไม้ที่จำหน่ายในตลาดทั่วไปปลอดภัย นพ.สุรโชคกล่าวว่า
อย. มีการสุ่มตรวจผลไม้ในทุกล็อตการนำเข้า ซึ่งบางผลไม้มีสารปนเปื้อน แต่ไม่เกินค่ามาตรฐานที่สากลกำหนด ก็สามารถทานได้ โดยผู้บริโภคจะต้องล้างให้สะอาดก่อนทาน ส่วนอีก 14 สารที่ไม่ได้อยู่ในรายการที่ต้องเฝ้าระวังในระดับสากลนั้น ทาง อย.ก็จะรับไปพิจารณาเพื่อหามาตรการเฝ้าระวังต่อไป
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_4864707