คีอานู รีฟส์ - คนเดียวที่คิดถึง เจนนิเฟอร์ ไซม์
เรื่องราวความรักระหว่างคีอานู รีฟส์ และ เจนนิเฟอร์ ไซม์ นั้นเป็นรักแรกพบ ทั้งคู่พบกันในงานปาร์ตี้ ทั้งสองหวังว่าความสัมพันธ์นี้จะทำให้พวกเขามีความสุขตราบนานเท่านาน แต่บางครั้งชะตากรรมก็เลวร้ายกับผู้ดีงาม
คีอานู รีฟส์ ไม่ได้มีชีวิตที่ง่ายเลยตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก พ่อของขาทอดทิ้งเขาและครอบครัวตอนที่เขามีอายุเพียง ๓ ขวบ แม่ของเขากลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวด้วยอาชีพนักออกแบบเสื้อผ้า หลังจากพ่อของเขาหายไป แม่ของเขาก็ได้พาเขาและน้องสาวโยกย้ายไปอาศัยอีกหลายเมือง รวมถึงแม่ยังแต่งงานใหม่อีกสามครั้ง
คีอานู รีฟส์ ต้องทนทุกข์ทรมานจากสิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัว เขาต้องย้ายไปโรงเรียนใหม่อย่างต่อเนื่องเขาล้มเหลวในการปรับตัวให้เข้ากับโรงเรียนใดโรงเรียนหนึ่ง อาการดิสเล็กเซีย (ภาวะผิดปกติทางด้านการอ่าน และการเรียนรู้ภาษา) ของเขาไม่ได้ทำให้สถานการณ์ง่ายขึ้น เด็กชายมีปัญหาในความสัมพันธ์กับทั้งเพื่อนและครู
จนกระทั่งวันหนึ่งในวัย 17 ปี คีอานู ถูกชวนเข้าวงการด้วยการเล่นโฆษณาโคคา-โคลา และในซีรีส์ของแคนาดา
บทบาทของเขาในภาพยนตร์เรื่อง "My Own Private Idaho" (1991) เขากลายเป็นเพื่อนกับนักแสดงที่มีพรสวรรค์อีกคนหนึ่ง ริเวอร์ ฟีนิกซ์ ชายหนุ่มทั้งสองมีความผูกพันอันลึกซึ้ง
โชคร้ายยังถาโถม
ในปี 1993 น้องสาวของคีอานู คิม รีฟส์ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว (ลูคีเมีย) และริเวอร์ ฟีนิกซ์ เสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาดที่ The Viper Room ซึ่งเป็นคลับของจอห์นนี่ เดปป์ การเสียชีวิตของเพื่อนสนิทได้ทิ้งร่องรอยไว้ในจิตใจของ คีอานู นักแสดงหนุ่มไปบำบัดและแสวงหาการปลอบใจทางดนตรีกับวงร็อค Dogstar
จนกระทั่งค่ำคืนหนึ่งในปาร์ตี้ ปี 1998 เขาได้พบกับผู้หญิงที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขา
เจนนิเฟอร์ ไซม์ นั้นมีชีวิตวัยเด็กคล้ายคลึงกันกับ คีอานู รีฟส์ เธอมาจากครอบครัวที่มีต้นกำเนิดหลากหลาย พ่อของเธอมีเชื้อสายเยอรมัน สกอตแลนด์ ไอริช และอังกฤษ ส่วนแม่ของเธอเป็นชาวสเปน พ่อแม่ของเธอหย่าร้างกันเมื่อเจนนิเฟอร์ยังเป็นเด็ก แม่ของเธอกลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เจนนิเฟอร์รู้อย่างรวดเร็วว่าเธอต้องการทำงานในธุรกิจการแสดง เมื่ออายุ ๑๖ ปีเธอสมัครตำแหน่งผู้ช่วยฝ่ายผลิต
ในช่วงที่เธอได้พบกับคีอานู เจนนิเฟอร์ทำงานเป็นผู้ช่วยผู้กำกับ เดวิด ลินช์ และยังได้แสดงในภาพยนตร์ของเขาเรื่อง Lost Highway (1997)
ทั้งคู่ไม่เคยตัดสินใจแต่งงานกัน แต่พวกเขาก็ย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกัน และหนึ่งปีหลังจากการพบกันในงานปาร์ตี้ที่น่าจดจำ เจนนิเฟอร์ก็ตั้งท้องกับคีอานูแล้ว ทั้งคู่รอคอยการเกิดของลูกสาวอย่างมีความสุข พวกเขาทั้งสองมาจากบ้านที่พังทลาย คีอานูยังคงจำความบอบช้ำทางจิตใจจากการเสียชีวิตของเพื่อนสนิทของเขาได้ พวกเขามองว่าการเกิดของลูกสาวเป็นโอกาสสำหรับความสุขและความมั่นคงของครอบครัวที่รอคอยมานาน ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นไปด้วยดี แต่ก็แค่ ดูเหมือน เท่านั้น
เด็กทารกหญิงที่ได้รับเลือกให้มีชื่อว่า เอวา รีฟส์ เด็กหญิงจะต้องเกิดในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เมื่อเจนนิเฟอร์ตั้งครรภ์ได้แปดเดือนแล้ว โศกนาฏกรรมก็เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 1999 คีอานู ได้รับข่าวว่า เด็กหญิงเอวา กลับเสียชีวิตไปก่อนจะลืมตาดูโลก
โศกนาฏกรรมทิ้งร่องรอยไว้กับชีวิตคู่ของทั้งสอง เมื่อมีความสูญเสีย แต่ละคนต่างมีวิธีรับมือความสูญเสียที่แตกต่าง คีอานู กระโจนเข้าสู่งาน ขณะที่เจนนิเฟอร์ถอยกลับเข้าไปในตัวเอง เธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคซึมเศร้าหลังคลอด ทั้งคู่แยกทางกันอย่างถาวรไม่นานหลังจากการเสียชีวิตของทารก
อย่างไรก็ตามคีอานู ไม่เคยหยุดรัก เจนนิเฟอร์ และหวังว่าเมื่อสภาพจิตใจของเธอดีขึ้น พวกเขาจะสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่มีความสุขได้ แต่แผนการของเขาถูกทำลายด้วยเหตุการณ์เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2001
ในตอนนั้น เจนนิเฟอร์ทำงานเป็นผู้บริหารบริษัทแผ่นเสียงในลอสแอนเจลิส เจนนิเฟอร์ไปงานปาร์ตี้กับเพื่อนของเธอ มาริลีน แมนสัน รถจี๊ป เชโรกี ของเธอชนเข้ากับรถที่จอดอยู่เป็นแถวริมถนน Cahuenga Boulevard ในลอสแองเจลิส เจนนิเฟอร์เสียชีวิต เวลา 06.20 น.
ผลการสอบสวนพบว่าเจนนิเฟอร์ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยในขณะที่เกิดอุบัติเหตุ แรงกระแทกทำให้ร่างของหญิงสาวออกจากรถ เนื่องจากได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก เธอจึงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ พบสิ่งของในรถ มียาที่ต้องสั่งโดยแพทย์ที่มีฤทธิ์รุนแรง ยังพบว่าในช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุเจนนิเฟอร์อยู่ภายใต้ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์และสารออกฤทธิ์ทางจิตประสาท
ร่างของหญิงวัย ๒๘ ปีถูกฝังอยู่ข้างลูกสาวของเธอที่สุสาน Westwood Village Memorial Park ในลอสแอนเจลิส คีอานูเป็นหนึ่งในคนที่แบกโลงศพของเจนนิเฟอร์ในงานศพ หลายปีต่อมานักแสดงหนุ่มยอมรับในการให้สัมภาษณ์ว่าเขาใช้ความโศกเศร้าหลังจากการตายของผู้หญิงที่เขาเรียกว่าเป็นความรักในชีวิตของเขาอย่างสร้างสรรค์สร้างบทบาทของฮีโร่ในภาพยนตร์เรื่อง "John Wick" ที่ดิ้นรนกับการสูญเสียภรรยาของเขา
คีอานู มักจะใช้ชีวิตเป็นความลับและไม่เต็มใจที่จะพูดคุยเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของเขา และหลังจากที่คนรักของเขาเสียชีวิตเขาก็ถอยกลับเข้าไปในเงามืดมากยิ่งขึ้น เขาตัดสินใจที่จะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับใครเนื่องจากประสบการณ์ที่เจ็บปวดในอดีตของเขา เขาอุทิศตนให้กับการทำงานแสดงและภาพยนตร์
หลายครั้งเขาได้ใช้เวลาในสุสาน Westwood Village Memorial Park ที่ฝังศพลูกสาวเอวา และ คนรักเจนนิเฟอร์
เคยมีคนถาม คีอานู รีฟส์ ว่า “เราจะเป็นอย่างไร เมื่อเขาตายไป”
เขาตอบกลับมาอย่างเศร้าๆว่า “คนที่รักเรา เขาจะคิดถึงเรา”
เช่นเดียวกันกับที่ คีอานู รีฟส์ ที่คิดถึง เจนนิเฟอร์ ไซม์
Credit : Facebook เก้ากระบี่เดียวดาย