นั่งดูคลิปบอลไปเรื่อยก็เลยได้ไปดูไฮไลท์ของ MLS ของอเมกาก็เลยเห็นว่าคนดูในสนามเยอะมาก จำได้เลยว่าสมัยก่อนพวกทีมฟุตบอลยังต้องไปขอสนามมหาลัยเตะอยู่เลย



ก็เลยไปหาข้อมูลเพิ่มมาก็พบว่ามูลค่าลีคมันเพิ่มขึ้นทุกปี แต่ก่อนค่าเข้าลีคแค่ 7.5 ล้านดอลล่าห์แต่ตอนนี้ค่าเข้าลีค พุ่ง 500 ล้านแล้วและตอนนี้มีทีมใน MLS ถึง 30 ทีมแล้ว





ซานดิเอโก้น้องใหม่จ่ายค่าเข้าลีคถึง 500 ล้านดอลล่า



สิ่งเดียวที่ผู้เชี่ยวชาญกังวลคือ MLS จะฟองสบู่แตกแบบไทยลีคที่บูมมาได้ไม่กี่ปีพอหมเช่วงก็ซบเซาไปมาก

MLS ตอนนี้ไม่ได้ฉายทางทีวีเป็นหลักแล้ว เพราะ Apple เพิ่งซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดไป

จ่ายค่าเข้าลีก นี่ ผมนึกถึงแชร์ลูกโซ่เลย คล้ายๆจ่ายค่าสมัครสมาชิกก่อน

คือลีกเอาเงินค่าเข้า เพื่อใช้บริหารลีก และ จูงใจนายทุนให้ทำทีมด้วยผลตอบแทนในอนาคต

ซึ่งผลตอบแทนในอนาคตจะเยอะคือจะต้องมีทีมดีๆเยอะๆ (ซึ่งตอนนี้ยังมีน้อย)

แต่ทีมฟุตบอลมีจุดพอดีของมัน ไม่ใช่ว่า มี 100 ทีมจะสนุกกว่ามี 20 ทีม เพราะพอทีมเยอะเกิน อัตราการพึงพอใจส่วนเพิ่มจะลดลงเรื่อยๆ

เดี๋ยวยิ่งใกล้WC 2026ผมว่ายิ่งไปกันใหญ่ ระดับพี่กันด้วย เล่นใหญ่อยู่แล้ว เมสซี่ผมว่าแกไปแน่บอลโลก2026อะ กลายเป็นถิ่นแกแล้ว

30 ทีม แล้วมีรอบเพย์ออฟด้วย แต่กันตาย

มันแชร์ลูกโซ่ยังไงมันก็ต้องเสียค่าสมัครก่อนไม่ใช่หรอ มีด้วยหรอที่จะเข้าไปแข่งแล้วไม่ต้องเสียค่าสมัคร

ต้องอัพคุณภาพนักเตะเยอะๆไวๆ
ทุกวันนี้ฟีลเหมือน MLS = Mexican League Soccer

กระแสเริ่มดีมาสักพักละ พอเมสกับพักพวกมาระเบิดเลย สมัย Vela vs Ibra ก็มันยุนะ LA Derby คนเมกันบ้ากีฬาจริงๆ

แต่พอไม่มีการหนีตกชั้นมันดูไม่ได้เดือดขนาดนั้นอะดิ

usa ทำเรื่องพวกนี้ไว้ใจได้อยู่แล้ว ไม่มีทางฟองสบู่แตกง่ายๆ สังเกตุจากหลายๆกีฬาเลย คนดูอาจจะไม่ถึง 3-4 หมื่น แต่ผมว่า น่าจะไม่ต่ำกว่า 5-8 พันคนได้ ชาตินี้เค้ารักกีฬามาก

ค่าเข้าลีก มีเงินใช่ว่าจะเข้าได้ครับ อย่าง nba ก็มีเงินเข้าลีกแพงมาก มีหลายทีมยื่นสมัครเข้าลีกแต่ยังไม่อนุมัติ อนาคตจะมีเพิ่ม 2 ทีม

คนเมกา ชอบเกมส์ ชอบการแข่งขันครับ

ไม่แปลกหรอกที่เต็ม ขอให้มีเถอะ


ปี 94 นี่เป็นหนึ่งปีที่จัดบอลโลกได้ดีสุดๆ ปีนึงเลยนะครับ
คนอย่างเยอะ เชียร์โคตรมันส์

เค้าใช้เสื้อ adidas กันทั้งลีคเลยหรอ ไม่ชอบเลย มันน่าเบื่อเสื้อคล้ายกันหมดแค่เปลี่ยนสี

อีกอย่างไม่ชอบ เมกันพากย์บอลเลยมันดูเวอร์ไปไงไม่รู้

ถ้าพูดถึงวงการกีฬาในอเมริกา ต้องลดการเอามาตรฐานยุโรปไปเทียบด้วยนะครับ เพราะแนวทางต่างกันพอสมควร
อย่างเรื่องระบบลีค 30 ทีม นี่ไม่ถึงขั้นพบกันหมดเหย้าเยือนแน่นอน ตะวันออก - ตะวันตก ตามอเมริกันเกม
ฝั่งละ 15 ทีม (ในสายเหย้า-เยือน 28 เกม นอกสายเหย้า-เยือน 6 เกม รวม 34 เกม นอกสายน่าจะสุ่ม)

อันดับ 1-7 แต่ละสายเข้ารอบ playoff ทันที 8-9 แข่ง wildcard แล้วไปแข่งรอบแรก best of 3
จับคู่หัวท้ายแบบ NBA เลย 1 เจอ 8 2 เจอ 7 อันดับดีกว่าเป็นเจ้าบ้านก่อน ใครชนะ 2 เกม เข้ารอบ

รอบถัดไป แข่งแบบเกมเดียว ทีมอันดับดีกว่าเป็นเจ้าบ้านไปเลย จนได้แชมป์สายไปเจอแชมป์อีกสาย ถือว่าจบ

ตีเป็นว่า ทีมอันดับต่ำ จบที่ 34 เกม ทีมที่จะเป็นแชมป์ จะเล่นอยู่ประมาณ 39-40 เกมต่อ 1 ฤดูกาล
ก็ถือว่าใกล้เคียงกับพรีเมียร์ลีค (38 เกม) หรือจะมองเป็นพวกลีครอง ๆ ก็ 40+ เกมไปเลย ก็ว่าได้

ระบบ franchise league มีค่าแรกเข้า ไม่มีตกชั้น ใช้ระบบดราฟ + ซื้อขายผู้เล่นจากนอกประเทศได้
ส่วนถ้าถามว่าลีคยืนอยู่ได้ยังไง ถ้าเป็นอเมริกันเกม เน้นขายสปอนเซอร์อยู่แล้ว ถ้าแมทจะเยอะไม่ต้องแปลกใจ
NBA 30 ทีม ฤดูกาลปกติซัดกันไปทีมละ 82 เกม ไม่รวมเพลย์ออฟระดับ best of 7 ตั้งแต่รอบแรก

เรื่องเสื้อแข่งที่เป็น adidas กันหมด อันนี้น่าจะทำเป็นระบบสปอนเซอร์ลีคเหมือนอเมริกันเกมทั่วไปครับ
แบรนด์นึงเข้ามาเป็นสปอนเซอร์ลีค ก็ต้องใช้แบรนด์นั้นทั้งลีค (ยกเว้น nike ที่มี jordan brand อยู่)

แต่ก็นั่นแหละครับ สุดท้ายจะบูมไม่บูม มันก็อยู่ที่จะพัฒนานักกีฬาภายในชาติขึ้นมาได้ดีแค่ไหน
ต่อให้คนต่างชาติมา entertain ได้ขนาดไหนก็ตาม ถ้านักกีฬาคนอื่นไม่ยกระดับขึ้นมา ลีคจะซบเซาเอง

ถ้าคนเมกาบ้าซ็อคเกอร์จัดๆ มีโอกาสประสบความสำเร็จสูงด้วย
ทรัพยากรเขาพร้อมทุกอย่าง
ลองได้รับความนิยมแบบบาสฯ แบบอเมรืกันฟุตบอลดูซิ
เผลอๆได้แชมป์โลกก่อนฮอลแลนด์ผมอีก