ตามหัวข้อเลยครับ

คือผมเคยไปฟังคอร์สออนไลน์ช่วยชาติผ่าน Zoom มาครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีที่แล้ว (ฟังฟรีนะ) Highlight หลักๆที่เขาใช้ล่อนอกจากแม่ทีมรวยๆ คือ

1. สอนให้แต่ละคนเป็น CP อย่าเป็น 7-Eleven เพราะถึง % กำไรไม่เยอะเท่า แต่รายได้โดยรวมเยอะกว่า แถมเหนื่อยน้อยกว่า ไม่ต้องวิ่งหาลูกค้าเอง ซึ่งเอาจริงๆก็คือการหาลูกข่ายนั่นละ แต่เขาเลี่ยงคำโดยการใช้ธุรกิจที่ดำเนินการอยู่มาแทน คนไม่รู้ก็หลงเคลิ้มไป

2. ไม่ต้องสต็อกหรือสำรองจ่ายค่าสินค้า แต่มีค่าสมัครเป็นตัวแทน Package 25,000 - 250,000 บาท แล้วจะได้โควต้ากระจายสินค้าและส่วนแบ่งตามยอดขาย โดยบริษัทจะสต็อกและส่งให้ลูกค้าโดยตรง ดังนั้นไม่ใช่ MLM แน่นอน ซึ่งเขาไม่พูดถึงการหาลูกทีมแม้แต่น้อย แต่ถ้าถอดรหัสออกมาจริงๆคือเงินค่าสมัครนั่นละคือค่าสินค้า แถมต่างจากบางเจ้าคือคุณแค่ไม่ต้องมาสต็อกในบ้านคุณเอง แค่นั้น

ส่วนตัวผมเห็นแล้วว่าโมเดลธุรกิจนี้ยังไงก็ไม่รุ่งเลยไม่ไปต่อ (ออกก่อนจบด้วยซ้ำ) แต่สงสัยว่าเราจะมีข้อกฏหมายข้อไหนที่สามารถเอาผิดเขาได้หรือครับ เขาไม่ได้ฉ้อโกงนะ (อิงตามกฏหมาย) เพราะเราก็ไปสมัครตามเงื่อนไขของเขาเอง เพราะกรณีเขาให้ลงเป็นค่าสินค้า คุณยังมีสิทธิในเงินคุณในฐานะ “เจ้าหนี้” ที่เขามีภาระจะต้องส่งมอบสินค้าตามจำนวนเงินที่คุณจ่าย แต่พอลงเป็น ”ค่าสมัคร“ กลายเป็นว่าเขาตีเป็นรายได้ได้เต็มๆ และคุณไม่มีสิทธิเรียกร้องคืนได้เว้นแต่คุณจะ ”ขาย“ สินค้าให้เขาได้เท่านั้น ดังนั้นผมจึงหาเหลี่ยมที่จะเอาผิดทางกฏหมายไม่ได้เลย

แต่ทั้งนี้ ผมเป็นวิศวกร ไม่ใช่นักกฏหมาย เลยอยากสอบถามครับว่าในเชิงกฏหมาย เราจะเอาผิดเขาได้อย่างไรครับ

เท่าที่ตามข่าว ข้อกฎหมายหลักๆ
ผมเห็นตำรวจจะแจ้งความข้อหาฉ้อโกงประชาชน
ซึ่งที่ท่านกล่าวมา ผมก็เห็นด้วยว่า เป็นการสมัครใจลงทุนเอง
แต่ถ้าเราเพิ่มข้อเท็จจริงไปว่า มีการโฆษณาชวนเชื่อด้วย
ยอดขาบสินค้าอันเป็นเท็จ เช่น ปีนี้สินค้าขายได้ 5,000 ล้านนะ
แต่ความจริงขายได้ 100 ล้าน ที่เหลือมาจากค่าสมัคร ผมว่า
มันก็เข้าข่ายฉ้อโกงนะ

1.ต้องมีสินค้าและการบริการจริงครับ แชร์ลูกโซ่มันผิดกฏหมายการกู้ยืมเงินที่เป็นการแ้อโกงประชาชน ดังนั้นถ้าจะทำให้ไม่ผิดต้องไม่สัญญาว่าจะรายได้กี่%ที่เป็นคงที่และมีสินค้าจริงๆ
ปล.iconเหมือนจะผิดที่เป็นบริษัทจดทะเบียนด้วยนะ งบการเงินเขียนบิ้วมาเองทั้งหมดอะ อย่างไงก็ติดคุก

ทางทฤษฎีถึง

ไม่ผิดอาญาฉ้อโกง แต่ "ผู้เสียหาย" อาจ ฟ้องคดีโดยอาศัยพรบ คุ้มครองผู้บริโภคได้

ร้อง สคบ https://complaint.ocpb.go.th/ ร้องสื่อ ให้ตรวจสอบได้

พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522

มาตรา 33, 44, และ 46

สินค้ามีจริงนะครับ คือสั่งแล้วได้จริงเท่าที่ผมทราบ แต่ปัญหาคือเอามาก็ขายไม่ได้ครับ ไม่รู้จะขายให้ใคร

อย่างงี้ไม่ผิดนะ แต่คงไปต่อได้ไม่นาน

แต่เค้าไม่ใช่ผู้บริโภคหรือปล่าวครับ

น่าจะเข้าข่ายเป็น “ผู้บริโภค” ตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคได้นะครับ
การที่เข้าไปฟังคอร์สที่เขาเสนอเกี่ยวกับธุรกิจที่คุณอาจจะสนใจสมัคร
โดยคุณก็อาจถือว่าเป็นคนที่ได้รับข้อมูลมาเพื่อใช้ตัดสินใจ
ถ้ามองในมุมนี้ ถ้าเขาโฆษณาแบบที่ทำให้คุณเข้าใจผิดหรือไม่บอกข้อมูลชัดเจนเกี่ยวกับความเสี่ยง
มันก็อาจจะเข้าข่ายผิดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคได้ครับ

เช่นเรื่องที่เขาหลีกเลี่ยงพูดถึงการหาลูกข่าย หรือให้เข้าใจว่ามันไม่ใช่ MLM
แต่ถ้าเนื้อในคือมันใช่ แบบนี้มันอาจจะเข้าข่ายการโฆษณาเกินจริง
หรือทำให้เข้าใจผิดได้ ซึ่งตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค
เขามีกำหนดว่าถ้าโฆษณาแบบนี้แล้วผู้บริโภคเข้าใจผิด ก็สามารถร้องเรียนได้

สรุปคือ ถ้าคุณรู้สึกว่าข้อมูลที่ได้จากคอร์สมันไม่ตรงหรือทำให้เข้าใจผิด
คุณมีสิทธิร้องเรียนได้นะครับ ไปแจ้งที่ สคบ. เพื่อให้เขาพิจารณาเรื่องนี้ได้