[RE: "พระมหาเปรียญธรรม 9 ประโยค ชี้การบูชาพระเครื่องไม่มีพุทธคุณ ตีความธรรมวินัยผิดพลาด"]
แมวมอง พิมพ์ว่า:
chaospunx พิมพ์ว่า:
ใครชนะไม่ได้อยู่ที่วาทะศิลป์แล้ว พูดยังไงใครก็พูดได้ เอาดีเข้าตัว เอาชั่วเขาคนอื่น
อยู่ที่ใครจะก้าวข้าม 3 สิ่งหลักๆ คือ ลาภสักการะ เงิน และ ผู้หญิง
เอาหอกไปแทง ไปโจมตี ไปด้อยค่าแนวทางผู้อื่น โดยไม่คิดตรึกตองให้ดี
หอกนั้นแล จะกลับมาแทงตน
ฝั่งไหนบอกว่าตนเองดีๆๆ ถูกทาง เข้าถึงแก่นแล้ว นั้นแหละ รักษากำลังใจให้ดี
ลาภสักการะ เงินทอง และผู้หญิง ทำเจ้าสำนักตายมานักต่อนักแล้ว
นักปฎิบัติที่แท้จริง ต้องยิ่งลด ยิ่งละ คนที่ถึงจริงๆ เลยไม่ค่อยอยากพูด เพราะออกจากโลกธรรมแล้ว
ประการแรก สนใจในจริยาของตนเอง ไม่ให้ร้ายผู้อื่น อันเป็นสะเก็ดความดี
ประการที่สอง มีจิตเมตตาไปในจักวาลทั้งปวง เห็นคนและสัตว์เป็นดั่งเพื่อน อันเป็นเปลือกความดี
ประการสาม ทำฌานสมาบัติให้เกิด ระงับนิวรณ์ 5 ให้ได้ อันเป็นกระพี้ความดี
แก่นความดีคือ ทำวิปัสสนาญาณให้แจ้ง ระงับกิเลสให้ได้ ระงับไม่ได้ ก็ยับยั้งให้ได้ นี้คือแก่น
ที่เหลือนะ เอาหลักธรรมฟาดกันไปมา ตามภาษาปุถุชนชาวโลกติเตียน สรรเสริญ นินทา เท่านั้นแหละ ไม่มีประโยชน์
บางคนทำไมเข้าใจว่าเขาอยากโจมตีผู้อื่นล่ะครับ อันนี้มันฟังไม่ศัพท์
บางทีชาวพุทธบางคน มาถามคนที่ ศึกษาพุทธตามหลักคำสอน ที่สอดคล้องกัน พิสูจน์ได้ พ้นทุกข์ได้จริง
เขาก็ตอบตามที่ได้ศึกษามาจริง เพื่อให้คนมาถามพ้นทุกข์ได้จริง ก็แค่นั้น
ส่วนใครจะเชื่ออะไร ก็ทำไป ไม่ได้ออกมาตั้งโต๊ะ พูดโจมตีคนนั้นคนนี้เพื่อให้ลัทธิความเชื่ออื่นเสื่อมเสีย แต่เพื่อให้ชาวพุทธที่มาถามและสนใจ ตื่นรู้
ลาภสักการะ ใครต้องการไม่ต้องการอย่างไร ก็เรื่องของเขา
ใช่ มีชื่อเสียง ออกสื่อ มันมองว่าต้องการนู่นนี่ได้ แต่มันก็มองว่าต้องการประกาศธรรมเป็นหลักก็ได้ ใครจะพูดอย่างไรก็ได้ทั้งนั้น
คำถามคือ ฟังแล้วได้อะไร ได้ความงมงายต่อ หรือได้ เหตุปัจจัยให้พ้นทุกข์
พวกที่ตัดสินใดๆโดยไม่รู้จริง ตัดมาเฉพาะช่วงที่ไม่ชอบใจ ยึดติดตามใจตน ไม่ดูที่มาที่ไป เหตุและผล ดูฟังไม่จบ แล้วไปจงใจว่ากล่าวร้ายทางวาจา ผิดอกุศลกรรมบท 10 เต็มๆ
คนดีเลว ตถาคตมีเกณฑ์วัดที่ ทำตาม หรือ ขัด กุศลกรรมบท 10 แค่นั้น
ก็ถ้าตามสังคมเขาคือคนที่พูดถูกใจ พูดในสิ่งที่หลายๆคนคิดสังสัย แล้วอยากพูดออกไป
แต่ถ้าหลักธรรม มีส่วนที่ถูก แต่ยังมีส่วนที่ผิด ถ้าจะเถียงกันมันไม่จบ ต่างคนต่างไปปฏิบัติ เพราะแต่ละคนชอบใจในการแปล พระไตรปิฏกที่แต่ละสำนัก แปล กันออกมา
ตอนผมพิมพ์ไป ผมรู้ว่าผมขวางทางกระแสอยู่ ผมไม่แคร์ด้วย ผมไม่ได้เป็นคนที่เสียประโยชน์ของ อ. คนนี้ที่มาพูด หรือฝ่ายใดที่มาสวนเขา
ผมไม่เคยมองใครคนดีใครคนเลว เพราะพระพุทธเจ้า ไม่เคยสอนให้ซ้ำเติมใคร ว่าเขาเลว แม้พระเทวทัตยังได้ไปพระนิพพาน
และทุกคนก็ต้องไปไม่ชาติใดชาติหนึ่ง
มันเลยไม่มีคำว่า คนเลว
มันมีแค่คนที่ใกล้พระนิพพาน และยังไกลพระนิพพาน เท่านั้นแหละครับ
เพราะบางที่ คนที่ท่องพระสัทธรรมได้ กลับหน้ากลับหลังได้ ประกาศพระธรรม มีคนมากราบเยอะๆ พลาดท่าตกนรกก็มี ถ้าเราจะเอาหลักธรรมมาถกจริงๆนะ
แล้วก็คำถามที่ว่า ฟังแล้วได้พ้นทุกข์ ก็ตามนั้น ส่วนที่เขาพูดมันมีส่วนที่ถูก แต่ไม่รู้100% แต่หน้าที่นักปฏิบัติ มิได้ให้ปักใจเชื่อ 100%
เพราะนั้นไม่ใช่การพ้นทุกข์
นักปฏิบัติต้องมีลิ้นชัก 3 ใบเวลาฟังอะไรมา ไม่งั้น ก็แค่คนงมงาย
1.สุตมยปัญญา เขาพูดอะไรมาเราฟังไว้ก่อน แล้วลงลิ้นชักที่ 2.
2.จิตมยปัญญา ในนี้ต้องมีย่อยอีก 3 ใบ คือ เชื่อ ไม่เชื่อ และ ไม่แน่ใจ
3.ภาวนามยปัญญา ลิ้นชักใบนี้แหละที่สำคัญ ของคนที่ต้องการพ้นทุกข์