ประเด็นคือต้องถามว่ามีการไปรับประกันกับคนที่สมัครตัวแทนมั้ยว่ารับประกันขายได้แน่หรือถ้าขายไม่ได้ จะรับคืน ไม่งั้นก็ไม่ต่างจากชาวบ้านไปซื้อของจากร้านค้า ความเสี่ยงมันถูกโอนมาที่คนซื้อเต็มๆ ถามว่าจะไปเอาผิดยังไงก็ยากแล้ว เพราะเราตัดสินใจซื้อเอง

ถ้าให้ผมเดานะ ย้ำว่าเดา ไม่ได้ฟ้องในเชิงขายไม่ได้
แต่ฟ้องในเชิงเรื่องของการโฆษณาชวนเชื่อไรงี้ป่าว ไม่แน่ใจนะ
แต่ที่โดนแน่ๆแล้วคือภาพลักษณ์ไปหมดแล้ว

จริงๆผมก็ทำขายตรงอยู่นะครับ เป็นอาชีพเสริม
จรรยาบรรณอย่างนึงก็คือการไม่ stock ของ และไม่ใช้เงินซื้อความสำเร็จ
เป็นกฎของบริษัทครับ

ถ้าอยากได้รายได้เยอะๆในขายตรง ก็คือการหาเครือข่ายผู้ใช้สินค้า และหาคนที่สนใจมาทำธุรกิจด้วยกัน
ดังนั้น ธรุกิจขายตรงที่ดีหรือไม่ดี จะตัดสินกันที่คุณภาพสินค้า กฎจรรยาบรรณ และความยุติธรรมของแผนธุรกิจ

ทีนี้ผมมองว่า The iCon มีการบิ้วว่ามันง่าย สินค้าดี ซื้อตุนไว้ ขายได้แน่
เพื่อให้ได้ขั้นความสำเร็จให้เร็วที่สุด แต่ละคนก็เลยซื้อเยอะๆ ซึ่งเปรียบเสมือนการไม่หาเครือข่ายนั่นแหละครับ
เพราะซื้อเองหมด แล้วก็บิ้วให้คนทำอย่างนี้ต่อๆกันไป กลายเป็นว่ามีคนซื้อเยอะๆไม่กี่คน คนข้างบนก็ไต่ระดับความสำร็จได้

คือธุรกิจไม่ได้โตด้วยธรรมชาติของมัน คือสินค้าและบริการ คนแทบไม่พูดถึงสินค้าเลยว่าดีหรือไม่ดี
มีแต่บิ้วว่าลงทุน รวย สุดท้ายมันก็เลยเป็นแบบนี้ครับ

ผมว่าที่เอาผิดได้คือพวกคนที่สอนให้ทำแบบนี้แหละ ซึ่งถ้าบริษัทเขียนกฎไว้ชัดเจน
ยังไงบริษัทก็รอดครับ พวกที่ไปสอนปาวๆนั่นแหละ โดน

ถามว่าจะไปฟ้องเค้าโฆษณาเกินจริง โฆษณาอะไรก่อน
คนที่เสียเงินไปนี่ซื้อของมารู้หรือยังว่าของมีสรรพคุณยังงัย อธิบายได้ทุกตัวมั้ย
ผมว่าที่ไปฟังๆกันนี่ส่วนใหญ่ MLM นี่เริ่มจากโมเดลธุรกิจก่อน เล่นกับความโลภล้วนๆ
เปิดสตอรี่มา ไปทำอะไรมา ธุรกิจแบบไหน ดาวไลน์ยังงัยได้ส่วนลดกี่% ทำกี่ปีมีเงินใช้ตลอดชีวิต
ซึ่งต่อมาเค้าอาจจะสอนจริง หรือมีเวิร์คชอปต่างๆ แต่มันไม่มีประโยชน์แล้วงัย ไม่มีคนฟัง
เพราะคนที่ซื้อเค้าไม่ได้ต้องการสินค้าแต่แรก เค้าแค่อยากมีเงินใช้ตลอดชีวิตแบบไม่ทำงาน
โลภก็ยอมรับว่าโลภเถอะ อย่าไปบอกว่าถูกหลอกเลย คุณแค่ลุกช้าเลยต้องจ่ายรอบวง
เอาจริงๆมีคนยังไม่รู้อีกเหรอว่ารูปแบบธุรกิจนี้มันเป็นงัย มันมีมาหลายสิบปีแล้วดีไม่ดีก็ดาวไลน์เดิมๆน่ะแหละ

งานนี้บิ๊กเบิ้มกว่าแมน บต.เยอะ ดาราระดับแนวหน้าทั้งนั้น

เอาเป็นว่าอยากรู้รายละเอียดลึกๆเลย ก่อนจะเลือกข้าง

แต่ก็อีกนั่นแหละ ไม่เรียนรู้อะไรกันเลยจริงๆ งชห

นั่นสิ ผมว่ามันก็เหมือนค้าส่งอะ ส่วนคนค้าปลีกจะขายได้หรือไม่ได้มันอยู่ที่ของคนนั้นๆแล้ว ไม่งั้นพวกสินค้าบริโภคฟ้องกันตายเลย แม่ผมเปิดร้านโชห่วยอยุ่ตจว. ขนมบางตัวก็ขายไม่ออกวางไว้จนฝุ่นเกาะ ฟ้องได้มั้ยนิ

เพื่อนผมรับพวกครีม อาหารเสริมมาขายมันก็ขายได้บ้างไม่ได้บ้างเปลี่ยนสินค้าไปเรื่อย ก็ไม่เห็นมันจะไปฟ้อง

เคสนี้ตอนแรกก็คิดว่าเป็นพวกแชร์ลูกโซ่ ต้องรอดูพี่หนุ่มละมีหลักฐานอะไร เล่นใหญ่ขนาดนี้ถ้าไม่แน่นจริงคงไม่กล้าเล่น

มันน่าจะเกิดจากพวกแม่ทีมที่หาดาวน์ไลน์ ก็คงจะใช้ทุกวิธีมารยาในการหลอกคนเข้ามา สังเกตมีแต่แก่ๆวัยเกษียญทั้งทั้งนั้น แค่นี้ก็รู้แล้วว่าโดนหลอกลวงมาแน่นอน ซึ่งพวกนี้ถ้าได้ประกบแล้วคำพูด ก็ไม่ต่างจากแก็งค์คอลเซ็นเตอร์เลย หว่านล้อมจนเป็นเหยื่อได้ง่ายๆ

ตอนนี้เหมือนพวกลูกข่ายน่าจะเริ่มตาสว่างเยอะ

กระทบยอดอนาคตแน่นอน

ดาราที่เคยช่วยโปรโมทนี่ ถูกไม่ถูกไม่รู้นะ

ออกตัวโดดหนีก่อนเพื่อน

ตลกคนแผล่บ Topment

พวกสินค้าที่ว่าเขามาโฆษณาลวงล่อไหม

เขามาขายคลอสสอนคุณทำโชว์ห่วยไหม

เห็นว่าถ้าจ่ายเงินไปแล้ว ได้ของหรือฝากสต๊อกไว้ต้องมีของจริงๆ หรือถ้าบอกว่ายังอยู่ระหว่างผลิตต้องมีสัญญาใบสั่งผลิตและต้องวางมัดจำด้วย ไม่งั้นอาจเข้าข่ายหลอกลวงได้

สาระสำคัญคือ หลัก ๆ เงินที่จะได้มา ได้จากสินค้าหรือได้จากดาวน์ไลน์นั่นแหละ

แชร์ลูกโซ่พัฒนาเรื่อย จนทำให้มีสินค้าเพื่อเลี่ยงบาลีให้เข้าขายตรง แต่ขายตรงการได้เงินทางหลักมาจากสินค้า การรโฆษณา การโปรโมท การหาเงิน ก็ยังใช้สินค้าเป็นตัวหลัก แก้ปัญหาเวลาถึงทางตันก็ด้วยการขายสินค้า

แต่แชร์ลูกโซ่ ใด ๆ ก็ต้องไปทางหาดาวน์ไลน์ ระดมเงินทางดาวน์ไลน์

แนว ๆ นี้ละมั้งครับ

เท่าที่มองถ้าจะเล่นจุดเริ่มต้นคือการ"โฆษณา"ว่าเข้าข่ายเป็นเท็จไหม การนำดารานักแสดงมาโฆษณาว่าเป็นหนึ่งในผู้บริหารของบริษัทมันถูกต้องแค่ไหนดูในรายละเอียดสัญญาของบริษัทกับดารากันไปซึ่งพี่แซมก็ออกมาโดดหนีไปแล้ว1ว่าเป็นแค่พรีเซนเตอร์ ถ้าเป็นเท็จอาจจะมีเอี่ยวพรบ.คอมไปอีกส่วนก็ได้นะ

ถ้าข้างบน"ผิด"จะเชื่อมมาถึงคดีต่างๆที่จะเกิดขึ้นจากการโฆษณาเกินจริงที่ผู้เสียหายจะฟ้องต่อเนื่อง ส่วนคดีแชร์ลูกโซ่จริงๆแล้วต้องไปดูตัวสินค้านั่นละว่ามีสินค้าจริงไหมอะไรยังไงซึ่งน่าจะยากเพราะน่าจะจัดการป้องกันไว้แล้ว

ถ้าเริ่มจุดอื่นผมว่ายาก การโฆษณาอย่างอื่นมันพอบิดไปได้ อย่างถังเช่ายิ่งยงยังโดนแค่โฆษณาสรรพคุณเกินจริงเลย แต่ไม่มีผู้เสียหายฟ้องต่อเพราะเขาแค่ทำขายไม่มีเครือข่าย

จริงๆการโฆษนาชวนเชื่อไม่ใช่อะไรใหม่เรยนะเคสของ theicon ก่อนหน้านี้มีเยอะเรยพวกแฟรนไชน์ที่บอกว่าเปิดแฟรนไช คืนทุนภายใน 3-4 เดือน แต่งงเหมือนกันว่าทำไมเคสนี้ถึงมาเปนประเดน

มันคือเเชร์ลูกโซ่ เพราะหลังๆมันจะไม่พูดเรื่องสินค้า ไม่พูดเรื่องการขาย เเต่เป็นการหาคนมาสมัคร หรือให้อัพเกรดลำดับขั้นเพิ่ม