มิเกล เมริโน่ กองกลาง อาร์เซน่อล กลายเป็นนักเตะรายล่าสุดที่เตือนถึงอันตรายจากการต้องลงสนามกรำศึกถี่ยิบเกินไป และทุกฝ่ายจำเป็นต้องร่วมมือกันเพื่อหาทางออกที่เหมาะต่อทุกฝ่าย

ฤดูกาลนี้นักเตะต้องพบกับการลงสนามที่มากขึ้นเนื่องจากแชมเปี้ยนส์ลีกเปลี่ยนฟอร์แมต ในขณะเดียวกันก็จะมีฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลกในซัมเมอร์หน้า

เดือนที่แล้ว โรดรี้ กล่าวถึงปัญหานี้และยอมรับว่านักเตะอาจจะสไตรค์ไม่ลงแข่ง ก่อนที่ตัวเขาจะพบกับอาการเจ็บจนต้องพักจนจบฤดูกาล

เมริโน่ ยอมรับว่าโปรแกรมการแข่งขันที่แน่นเอี๊ยดเป็นประเด็นใหญ่ที่นักเตะพูดคุยกัน และนอกจากพวกเขาจะต้องดูแล้ตัวเองแล้ว องค์กรฟุตบอลต่างๆก็จะต้องให้ความร่วมมือด้วย

"มีการพูดถึงเรื่องอาการเจ็บและจำนวนเกมลงสนามกันเยอะ แล้วนักเตะอาชีพแบบเราก็มีความเห็นคล้ายๆกัน" เมริโน่ บอก

"ผมรักการเล่นฟุตบอลนะ แต่พอคุณเล่นบ่อยก็จะมีช่วงที่ร่างกายตามความคิดคุณไม่ทัน และนั่นคือตอนที่จะเกิดอันตราย"

"แต่เราจะโทษทุกสิ่งไปกับมันเพียงเพราะเกิดอาการเจ็บสองหนใกล้ๆกันไม่ได้หรอก (การ์บาฆาลกับโรดรี้) ที่เราต้องทำคือดูแลตัวเราเอง"

"มันก็ต้องเป็นการร่วมมือกันนะ ทุกคนต้องรู้สึกว่านักเตะฟิตเต็มร้อยเพราะมันจะเอนเตอร์เทนกว่า, การเล่นอยู่ในระดับสูงกว่าและนั่นคือสิ่งที่ฟีฟ่า, ยูฟ่าและแฟนบอลต้องการ เป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะหาจุดกึ่งกลางและแก้ปัญหาทั้งหมด"

เมริโน่ เองก็เพิ่งกลับมาลงสนามได้ด้วยการเป็นสำรองไป 2 นัดและกระหายที่จะเล่นให้กับทีมชาติ สเปน ในเกมเจอ เดนมาร์ก และ เซอร์เบีย เดือนนี้

"ผมรู้สึกดีและแข็งแรง อาการบาดเจ็บหายไปแล้ว ผมแฮปปี้ที่ได้กลับมาอยู่กับเพื่อนร่วมทีม ผมแฮปปี้ที่ได้เริ่มต้นเส้นทางใหม่ เรายังกระหายที่จะทำหลายๆสิ่งนะ ซัมเมอร์นี้เป็นหนึ่งในซัมเมอร์ที่ดีที่สุดในชีวิตผมเลย"

"ทั้งในเรื่องส่วนตัวและศึกยูโร, ประตูที่ผมทำได้ในรอบก่อนรองชนะเลิศและการคว้าแชมป์, การเซ็นสัญญากับ อาร์เซน่อล... มันทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไปเลย หวังว่าจะมีหลายต่อหลายสิ่งตามมาหลังจากนี้่อีกนะ"

นักเตะเดี๋ยวนี ยืนระยะกันได้ ถึง 35 เมื่อก่อน แบบ 31-32 นี่จะหมดกันแล้ว

แต่พอมาปัจจุบันก็จะให่ลงแข่งกันหนักกว่าเดิม

เมื่อก่อนจะพีคกันตั้งแต่ อายุ 23 ขึ้นไป

เดี๋ยวนี้เด็กแบบ ยามาล ซาก้า จู๊ด มันมากันตั้งแต่อายุ 16-17 กันขึ้น ไม่อยากให้มันซีเรียลเกินไป

เตะ 3 นัด ต่อสัปดาห์ พรีเมียรว่าโหดแล้ว นี่มา เจอ ทีมชาติ เนชั่นลีค ยูซีแอลแบบใหม่ แถบไม่ได้พัก

ผมเห็นด้วยกับเมริโน่นะ ว่าต้อง "ทุกฝ่าย"

ไม่ใช่เอะอะ โยนบาปให้ทีมชาติตลอด ทั้ง ๆ ที่ถ้าเทียบกันต่อปี ทีมชาตินี่เตะไม่ถึง 20% ของจำนวนแมทช์ ที่นักเตะต้องเตะทั้งหมดด้วยซ้ำ

ถ้วยเล็กๆก็เอาเด็กลงบ้างก็ได้นะ ถ้าจะเอาทุกถ้วยมันก็ต้องแบกแหละ

มองว่าควรยกเลิกเนชั่นลีก แล้วกลับมาเป็นกระชับมิตรทีมชาติ เพราะพอเป็นเนชั่นลีกนี่คือใส่ไม่ยั้งเลยบางทีมชาติ ไม่เหมือนกระชับมิตรทีมชาติที่ลองทดลองนักเตะใหม่ๆได้

นั้นสิเกมส์เยอะเกิน ถึงวิทยาศาตร์จะพัฒนาไปไกลเพื่อช่วยลดอาการบาดเจ็บได้ แต่มันลด Overload ไม่ได้นะเฟร่ยย ยังไงก็ต้องมีพักบ้างงง

คือมันต้องบอกโค้ชด้วยไหม โรเตชั่น นักเตะบ้าง

คนออกมาพูดส่วนใหญ่ คือ คนจองตำแหน่งลงไหม ไม่คิดถึงคนไม่ได้ลงเลย

ยกเลิกเนชั่นส์ลีก พอเป็นอุ่นเครื่องปกตินักเตะที่ไม่ใช่ตัวหลักก็มีโอกาสทำผลงานบ้าง ไม่งั้นมันก็ต้องเอาแต่ตัวเดิมๆลงทั้งสโมสรยันทีมชาติ

ลดจำนวนทีมในบอลโลก บอลยูโร (มันเปิดโอกาสให้ชาติเล็กได้สัมผัสการแข่งขันรอบสุดท้าย ในขณะเดียวกันคุณภาพมันก็ไม่ได้)

ลดเกมในถ้วยบอลยุโรป แข่งเก็บคะแนนก็ดูสนุกดีแต่จำนวนเกมมันเยอะไป

ผมว่าต้องมองชาติเล็กๆ ด้วยอะ บางประเทศไม่มีลีกในประเทศ หรือลีกไม่แข็งประเทศเล็ก หนทางจะพัฒนานักเตะ ก็ต้องเล่นในระดับทีมชาติ

ในระดับสโมสรถ้าต้องปรับ ผมว่า อย่าง อังกฤษ ไม่ยกเลิกบอลลีกคัพ ก็ต้องลดจำนวนทีมในลีกลง เป็น 16 ทีม หรือ 18 ทีม ไปเลย

ส่วนบอลยุโรป Swiss Round 8 นัดแบบนี้ก็ได้ แบบนี้ได้ แต่แบ่ง 2 สาย 2 กลุ่มไปเลย แล้วคัด 8 ทีมจาก แต่ละสายไปเลย ไม่ต้องมี Playoff

หรือ จะบ่างสาย 2 สาย เตะ 6 นัด เอา Top 8 เข้า 16 ทีม ละทีเหลือ Playoff เหย้าเยือน เอาอีก 16 ทีม

ละรอบรอง เตะเหมือน รอบชิง เตะสนามกลางทีเดียวไปเลย ไม่ต้องมี เหย้า เยือน

เห็นด้วยฮะ

ต้องทุกฝ่ายจริงๆนะ นั่นหมายถึงนักเตะด้วย เพราะมันต้องมองเรื่องต้นทุนด้วย จำนวนเกมที่ลดลงนั่นหมายถึงรายได้สโมสรที่ลดลงด้วย แต่ค่าเหนื่อยนักเตะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ต้นทุนมันค่อนข้างเฟ้อตามรายได้ที่มากขึ้นจากมูลค่าการถ่ายทอดสดและรางวัลตามอันดับที่มาจากมูลค่าลิขสิทธิ์ที่ขายได้ ต้องยอมรับความจริงว่าจำนวนเกมก็มีผลต่อมูลค่าการขายลิขสิทธิ์ เงินรางวัลต่างๆก้จะน้อยลงตามมา

ค่าเหนื่อยตั้งแพงห้ามบ่นสิ เห็นกระทู้ก่อนๆใส่กันไว้เพียบ เป็นเมริโน่ปุ๊บเข้าอกเข้าใจเชียว