Dota2 แถลงการคำชี้แจงจาก Sonneiko ฉบับเต็ม จากเจ้าตัว
https://www.facebook.com/Cyberclasher.streamer
.
ผมขอชี้แจงสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ผมไม่ได้เล่น DotA มาครึ่งปีและเพิ่งกลับมาเมื่อสามเดือนก่อน ผมคิดว่าหลายอย่างใน DotA คงเปลี่ยนไปมาก
.
เวลาที่ผมเล่นแมตช์ทั่วไป ผู้เล่นประมาณ 70% จะปิดเสียงตัวเอง - ผมมั่นใจว่าคุณคงเดาเหตุผลออกว่าเพราะอะไร? Ammar อยู่ในรายชื่อเพื่อนของผม ดังนั้นผมจึงเห็นข้อความของเขา และในระหว่างเกมหนึ่ง เขาเรียกผมว่า "ไอ้สมองตาย" (BRAINDEAD หรือ ไอ้งั่ง) นั่นทำให้ผมไม่พอใจ ผมจึงส่งข้อความถึงเขาบน X (Twitter) และบอกว่าจะสั่งสอนมารยาทให้เขาเมื่อเราเจอกัน ผมยอมรับว่าผมพูดด้วยอารมณ์และใช้คำพูดรุนแรง ผมขอโทษสำหรับน้ำเสียงและถ้อยคำ แต่ผมไม่ได้ข่มขู่เขาทางร่างกาย และผมกำลังแชร์ภาพหน้าจอเพื่อแสดงสิ่งที่พูดจริงๆ
.
ที่โรงแรม ผมเห็น Ammar กับทีมของเขา เราทั้งคู่เป็นมุสลิม และการพูดคุยแบบเห็นหน้ากันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผม เนื่องจากศาสนาของเรามีมาตรฐานความเคารพและศีลธรรมที่เราควรปฏิบัติตาม ผมเข้าหาเขาพร้อมกับรอยยิ้มและท่าทางที่เป็นมิตร โอบไหล่เขา หวังว่าเขาจะรับรู้ในแบบเดียวกัน และถามเขาว่า "จำได้ไหมว่าทำไมเราถึงมีเรื่องกันตั้งแต่แรก? จำได้ไหมว่านายเรียกฉันว่าอะไร?" คำตอบของเขาทำให้ผมตกตะลึง: "ใช่ จำได้ แกมัน (BRAINDEAD หรือ ไอ้งั่ง)"
.
ผมแปลกใจมาก ผมคิดว่าเขาอาจจะอธิบายหรือขอโทษ สิ่งที่ทำให้ผมตกใจยิ่งกว่าคือเพื่อนร่วมทีมของเขากระโดดเข้ามาช่วยเขาอย่างรวดเร็ว เพียงแค่สัมผัสได้ถึงพลังงานด้านลบของเขา โดยไม่พยายามเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น Skiter เป็นคนที่พูดมากที่สุด ดังนั้นผมจึงขอให้เขาให้เวลาผมคุยกับ Ammar ผมแนะนำให้เราหลบไปคุยกันเป็นส่วนตัว ห่างจากคนอื่น เพื่อที่เราจะได้เคลียร์กันอย่างใจเย็น บางทีอาจจะมองว่าเป็นการชวนทะเลาะวิวาท แต่เป้าหมายของผมคือการพูดคุย
.
Ammar ตะโกนตอบกลับว่า "ต่อยฉันเลย มาเลย ต่อยฉันตรงนี้!" ในขณะที่ Skitter เรียกผมว่า "อีด*ก" (b*tch) และพยายามยั่วยุให้เกิดการชกต่อย ความขัดแย้งทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว และทีมของผมก็เข้ามาดึงผมออกไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ณ ตอนนั้น
.
สิ่งที่เกิดขึ้นคือท่าทางที่เป็นมิตรของผม แต่ผมกลับถูกเข้าใจผิด ผมแค่เอามือวางบนไหล่เขา แค่นั้น ผมไม่ได้สนใจที่จะทำให้เรื่องบานปลาย ซึ่งทีมของผมก็เข้ามาในเวลาที่เหมาะสมเพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องราวบานปลาย
.
ต่อมา ผมได้คุยกับผู้จัดการทีม Falcons สั้น ๆ - เขาเป็นคนที่สมเหตุสมผลและเป็นมืออาชีพ ดูเหมือนว่าเขาต้องการแก้ไขปัญหาให้ได้มากเท่ากับผม หลังจบเกม ผมอยากคุยกับเขาอีกครั้งและอธิบายเรื่องต่างๆ แต่ทางองค์กรทีมของผมแนะนำว่าไม่ควรติดต่อกับ Falcons ผมทำตามคำแนะนำนั้น โดยคิดว่าเราสามารถพูดคุยทุกอย่างโดยละเอียดในภายหลัง แต่นั่นมันก็ไม่ได้เกิดขึ้น
.
จากนั้นทีม Falcons ได้รายงานต่อผู้ดูแลระบบว่าผมข่มขู่ Ammar ด้วยความรุนแรงทางร่างกาย ซึ่งไม่เป็นความจริง ผมมั่นใจว่า PGL มีภาพจากกล้องวงจรปิดที่แสดงให้เห็นว่าไม่มีการข่มขู่ - ไม่มีคำพูด ไม่มีท่าทางก้าวร้าว มีแค่เพียงการสัมผัสทางร่างกายเพียงอย่างเดียวคือมือของผมที่อยู่บนไหล่ของเขา
.
หากมองว่าเป็นการก้าวร้าว ผมขอโทษ - เจตนาที่แท้จริงของผมได้อธิบายไว้ข้างต้น เราถูกลงโทษ ติดลบเวลาดราฟท์ -110 วินาที และผู้ดูแลระบบขอให้เราเพิกเฉยต่อพวกเขา ห้ามโต้แย้งใดๆ อีก เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้สถานการณ์บานปลาย
.
ก่อนเกมกับ Falcons ด้วยความบังเอิญที่แปลกมาก ผมเจอ Skitter ในห้องน้ำขณะที่ผมกำลังล้างมือ ผมได้ยินเสียงพึมพำและตอนแรกก็ไม่ได้รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขากำลังพูดกับผม ผมคิดว่าเขายังคงพูดจาดูถูก ผมจึงขอให้เขาตามผมมาและกลับไปที่ห้องทีมของเรา Skitter ก็ตามมา และเราได้พบกับตัวแทน PGL ผมแสดงให้เขาเห็นว่าผมไม่ใช่คนที่ทำผิดข้อตกลงที่จะเพิกเฉยต่อกัน แต่เป็นตัว Skitter ที่เริ่มสบถใส่ตัวแทน PGL และดูถูก Smiling Knight เพื่อนร่วมทีมของผม
.
ผมต้องถามว่า: เส้นแบ่งอยู่ตรงไหน? เมื่อไหร่ที่ผู้เล่นจะพูดอะไรก็ได้เกี่ยวกับคู่ต่อสู้โดยไม่มีผลกระทบ? ทำไมพฤติกรรมที่เป็น Toxic จึงเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง แม้แต่ในทัวร์นาเมนต์ใหญ่? ทำไมผู้เล่นบางคนถึงถูกลงโทษสำหรับการกระทำของพวกเขาในขณะที่คนอื่นไม่ถูกลงโทษ? หากเรามุ่งมั่นเพื่อการเล่นที่ยุติธรรมและการเคารพในทัวร์นาเมนต์ กฎควรนำไปใช้กับทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน
.
พูดตามตรง - ทั้งหมดนี้รู้สึกเหมือนถูกปั่นให้เกินจริง ผมมั่นใจว่าถ้าผมกับ Ammar ได้คุยกันแบบตัวต่อตัว เราคงแก้ไขทุกอย่างได้ภายในเวลาไม่กี่นาทีและเดินหน้าต่อไปด้วยความเคารพ ผมเข้าหาเขาด้วยเจตนาที่ดีที่สุด แต่เรื่องราวก็เป็นไปตามที่มันเป็น ครั้งหน้า ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้น ผมจะติดต่อผ่านผู้จัดการทีม และมันจะทำให้ทุกคนใจเย็นลง
.
ผมแปลกใจมากที่องค์กรจากประเทศที่สิทธิของประชาชนได้รับการคุ้มครองภายใต้กฎหมายชารีอะห์ จะเพิกเฉยหรือแม้แต่ยอมรับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมจากผู้เล่นของพวกเขา ซึ่งเป็นมุสลิมคนเดียวในทีม โดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่คิดว่านี่เป็นการสร้างตัวอย่างที่ดี บางทีอาจถึงเวลาที่เราต้องทบทวนวิธีที่เราปฏิบัติต่อกันในวงการอีสปอร์ตและสิ่งที่บ่งบอกถึงความเป็นมืออาชีพของเรา
.
ในปี 2022 หนึ่งวันก่อน bootcamp ของเรา ผมมีปากเสียงกับ Smiling Knight และมีบางอย่างที่พูดออกไปไม่ค่อยดีนัก ผมถามเขาว่าทำไมเขาถึงทำแบบนั้น และเขาให้คำตอบที่สมเหตุสมผล มันเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูป และเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ผมขุ่นเคืองใจ และความขัดแย้งได้รับการแก้ไขทันที
.
เป็นเรื่องน่าเสียดายที่เราถูกลงโทษและไม่ได้เล่นในเงื่อนไขที่เท่าเทียมกัน แต่ผมไม่ได้ตำหนิผู้ดูแลกฏอย่าง PGL - พวกเขาทำหน้าที่ของพวกเขาและตัดสินใจอย่างยุติธรรม และผมขอขอบคุณพวกเขาสำหรับสิ่งนั้น ผมหวังว่าเราจะได้แข่งกับ Falcons อีกครั้ง โดยที่เราจะมีเวลาดราฟท์เต็มที่และสามารถเล่น DotA ได้อย่างยุติธรรม มาดูกันว่าใครแข็งแกร่งกว่ากันจริงๆ
Chat # 1
sonneiko
"ครั้งหน้าที่ชั้นเจอแกที่งาน Lan แกจะหยุดพิมพ์ในแชท ชั้นสาบาน"
"ถ้าแกไม่มีพี่ งั้นชั้นจะสอนแกให้รู้จักความเป็นมนุษย์"
ATF
"XD"
"มีปัญหาอะไรงั้นเหรอพี่ชายใหญ่?"
(แนปรูปว่าทีมของ sonneiko คัดไม่ผ่าน TI 2024 รอบ Open)
"ไงก็ ขอให้โชคดีนะ"
"ว่าแต่ ได้โปรดช่วยกดไลค์โพสต์ล่าสุดของฉันหน่อยเพื่อน"
Chat # 2
sonneiko
"ชั้นไม่ได้มีปัญหาอะไรนะ"
"แต่ดูเหมือนแกจะอยู่บนดาวเคราะห์พวกเด็กน้อย แล้วพ่อแม่ของแกก็คงไม่ได้สอนมารยาทที่ดีมาสินะ"
"แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก (ประชด)"
"จำที่แกพิมพ์ว่า "ไอ้งั่ง (Brainded)" ในแชทหาชั้นได้ไหม ชั้นแคปไว้แล้วจะเอามาโชว์ตอนเจอนาย"
"ชั้นหวังว่าแกจะกล้าพูดแบบนั้นต่อหน้าชั้นนะ"
"ตามนี้ ชั้นไม่ได้เล่นทวิตเตอร์แล้ว โชคดีละกัน"
.
ATF
"ขอโชคดีเหมือนกัน 555"
.
sonneiko
"มันคงสนุกพิลึกถ้าได้เห็นหน้าแก (ยิ้ม)
"แล้วอย่าคิดว่าขอโทษแล้วจะช่วยอะไรแกได้"
.
ATF
"ไม่เป็นไรหรอกหน่า ที่จะเป็นคนไม่ดี พรี่ไม่ต้องอิจฉาผมหรอก"
ทีมToxic แห่งยุคนี้ถือกำเนิดแล้ว ??