โทนี่ คาสคาริโน่ อดีตนักเตะ เชลซี ยอมรับว่า เจดอน ซานโช่ เป็นนักเตะที่รับมือได้ไม่ยากเลย หลังได้ดูเกมที่เจอ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

แนวรุกวัย 24 ปี ย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาอยู่กับ เชลซี เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา และโชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจด้วยการทำไป 3 แอสซิสต์จาก 4 เกมรวมทุกรายการ

อย่างไรก็ตาม คาสคาริโน่ ยอมรับว่าไม่เห็นอะไรพิเศษเลยในตัว ซานโช่ หลังชมเกมที่ "สิงห์บลูส์" เปิดบ้านเสมอ ฟอเรสต์ 1-1

"ผมไปดูเกมที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ เพื่อโฟกัสเฉพาะ เจดอน ซานโช่ ซึ่งเขาก็ไม่ได้แย่เลยนะ" คาสคาริโน่ กล่าวกับ เดอะ ไทม์ส

"ไม่มีความผิดพลาดครั้งใหญ่ ทุกอย่างโอเคดี เขาจ่ายบอลสั้นได้อย่างแม่นยำ ไม่มีอะไรให้บ่นหรืออย่างที่กูรูวิเคราะห์ทางทีวีได้"

"แต่เขากำลังเล่นให้กับ เชลซี นี่คือสโมสรที่คาดหวังจากผู้เล่นไว้สูง โดยเฉพาะผู้เล่นแนวรุก การเล่นได้แค่ 'โอเค' แบบนี้มันคือปัญหา"

"ความจริงก็คือเขาทำให้ โอลา ไอน่า แบ็คขวาของ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เจองานที่ง่ายในการรับมือ"

"ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ซานโช่ เป็นผู้เล่นที่ดี และการสัมผัสบอลของเขาเกือบจะดีเสมอ แต่การเล่นของเขามันค่อนข้างโบราณไปหน่อย"

"เขาไม่เคยใช้ร่างกายปะทะกับ ไอน่า และไม่เคยพยายามเลี้ยงผ่านด้วย ซานโช่ ไม่ได้ช้านะ แต่เขาไม่มีจังหวะสปีดที่จะเล่นงานกองหลังได้เลย"

คาสคาริโน่ มองว่าฟอร์มของ ซานโช่ แตกต่างมากเมื่อเทียบกับ โนนี่ มาดูเอเก้ ที่เล่นริมเส้นอีกฝั่ง

"มันแตกต่างอย่างมากกับ โนนี่ มาดูเอเก้ ที่เล่นริมเส้นอีกฝั่ง เขาเล่นงานฟูลแบ็คฝั่งตัวเองตลอดทั้งเกม มาดูเอเก้ พยายามเลี้ยงจี้ใส่กองหลังมากกว่า ซานโช่ มาก" คาสคาริโน่ กล่าวเสริม

"ท้ายที่สุดแล้วนักเตะริมเส้นส่วนใหญ่จะถูกตัดสินแบบนั้น: คุณจะเอาชนะคู่ต่อสู้ของคุณได้บ่อยแค่ไหน แล้วคุณทำอะไรได้อีกบ้าง?"

"คริสติอาโน่ โรนัลโด้, เอแด็ง อาซาร์, แกเร็ธ เบล และปีกเก่ง ๆ ที่อยู่กับทีมใหญ่ในพรีเมียร์ลีกต่างก็ต้องการเอาชนะแบ็คตัวประกบตัวของพวกเขาโดยใช้พละกำลังและความเร็ว"

คาสคาริโน่ ยังเตือน ซานโช่ ด้วยว่าอาจถูกจำกัดโอกาสลงสนาม หากไม่ยกระดับการเล่น

"ซานโช่ จะเล่นแบบธรรมดา ๆ ไม่ได้ เขาต้องทำอะไรให้มากกว่านี้หากจะถูกเลือกก่อนผู้เล่นอย่าง คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู, เปโดร เนโต้ และ มีไคโล มูดรีค" คาสคาริโน่ กล่าว

"แม้กระทั่งในช่วงทดเวลาบาดเจ็บไม่กี่นาทีที่ มูดรีค ลงสนาม เขาก็ยังสร้างปัญหาให้กับ ฟอเรสต์ ด้วยการเลี้ยงจี้ใส่คู่แข่งของเขา"

"ซานโช่ โดดเด่นมากกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แต่กลับไม่เวิร์คที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นกับ เชลซี จะกำหนดว่าอาชีพค้าแข้งของเขาจะเป็นอย่างไร"

"ที่สโมสรใหญ่ ๆ สิ่งสำคัญคือความสม่ำเสมอ ระดับผลงานของคุณคือสิ่งที่จะถูกตัดสิน และความคาดหวังก็จะมากขึ้น"

ถ้าอยู่เชลซีไม่มีอะไร อยู่แมนยูคงล้มเหลวไม่มีชิ้นดีอะ รู้สึกว่าทางซ้ายดีขึ้นนะได้เพื่อนกล้าส่งกล้าจ่ายให้ชิ่งกันมันเลยอยู่เชลซี

ก็ไม่ได้หวือหวาเเต่แรก เเต่มาเเมนยู คือไม่มีอะไรเลย

คนนี้ตั้งแต่สมัยอยู่ยูธซิตี้ละ สปีดเรือเกลือ ได้บอลคือต้องคอยมองหาเพื่อนร่วมทีมมารับต่อบอล ไม่ค่อยอยากไปเองแบบปีกทั่วไป ขาดความสม่ำเสมอ กระตือรือร้นเวลาซ้อม จับเปลี่ยนตัวก็งอแงชอบลากเอเย่นต์มาขู่บอร์ด

ในแง่ระบบการเล่นเปปหรือวิลคอกที่ดูแลซานโชก็พูดถึงระบบทีมนะ ว่าเกมรุกทีมเราจะเริ่มจากนักเตะ1-2คนที่สามารถชนะตัว-ตัวได้ก่อน เพื่อสร้างสถานการณ์แดนท้ายให้เป็น 6:4 หรือ 6:3 ประเภทแบบโช่ที่ทำเรื่องนี้ไม่ได้แบบแจ้คหรือโดกูเลยแทบไม่ใช่ตัวสำคัญไรในระบบซิตี้

งอลมั้ยหรือจะตบปาก

ผมตามดูมาบ้างตั้งแต่สมัยเสือเหลือง ก็ดูไม่ใช่สายเลื้อยลากหนีอยู่แล้วนะ

เป็นตัวรับฝากบอล เชื่อมเกมมากกว่า

แต่ก็ยอมรับว่านัดล่าสุดดูเล่นเกร็งแปลกๆนะ หลายจังหวะดูน่ายิงเอง กลับเลือกพยายามหาเพื่อนมากกว่า

ดูผลงานแค่ตอนนี้คือเรียบง่าย แต่มีประสิทธิภาพ เล่นได้ตามแทคติกคือดีสำหรับโค้ช
เคยเจอทีมที่เล่นชิ่ง1-2 จ่ายแล้วไปตลอด นี่เหนื่อยกว่าเจอทีมบุกแบบเลี้ยงจี้เยอะเเบบนะ เค้าไม่ได้เร็วกว่าเรา แต่เข้าถึงบอลได้เร็วกว่าเรา เพราะเค้าอ่านเกม มีสปีดต้นอยู่ตลอด

สไตล์ link up play มากกว่าสายสปีดเลี้ยงจี้ ดีออกมีไว้แก้แท็กติกด้วย

ผมชอบนะมีหลากหลายแนวในทีม เกิดการแข่งขันด้วย แล้วสมัยนี้แมตช์แข่งโคตรเยอะ ได้มาราคาก็ไม่แพง แค่เก่งไม่เท่าชื่อเสียงเก่าเฉยๆ

ดูซานโช่มันเล่นหลายเกมส์แล้ว ทรงเหมือน เพลย์เมกเกอร์ มากกว่าปีกนะ พักบอลได้ จ่ายบอลได้ เลี้ยงบอลหลบได้ แต่ความเร็ว กับสปีดต้นไม่พอจะกระชากหนีกองหลังคู่แข่ง บอลทรงมาเรสก้า สไตล์ซานโช่ก็โอเคอยู่ เพราะได้มีคนรับบอล กับ จ่ายบอล คู่กับพาลเมอร์ ถ้าพาลเมอร์คนเดียว เจอคู่แข่งรุมประกบหนักแน่ๆ ที่สำคัญมาเรสก้าต้องกล้าเปลี่ยนหน้าเป้าเป็นเอ็นคุนคู ซานโช่น่าจะแอสซิส ได้บ่อยกว่ามีหน้าเป้าเป็นแจ็คสันนะ

เพื่อนต้องช่วยมันด้วย

เอาไปเปรียบเทียบกับดอร์ทมุน

จำได้ว่าปีที่แล้วเคยดูนิดหน่อยก็เล่นไม่ได้ต่างจากนี้นะ

เก่งไม่เก่งอยู่ที่ว่ามีคนเล่นด้วยมั้ย

"ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ซานโช่ เป็นผู้เล่นที่ดี และการสัมผัสบอลของเขาเกือบจะดีเสมอ แต่การเล่นของเขามันค่อนข้างโบราณไปหน่อย"

"เขาไม่เคยใช้ร่างกายปะทะกับ ไอน่า และไม่เคยพยายามเลี้ยงผ่านด้วย ซานโช่ ไม่ได้ช้านะ แต่เขาไม่มีจังหวะสปีดที่จะเล่นงานกองหลังได้เลย"

นักบอลนายแบบพวกนี้มันกลัวเสื้อเปื้อนหญ้า กางเกงเปื้อนดิน เสียบอลไม่เคยเดือดร้อนว่าจะต้องรีบไปเอาบอลกลับคืนมาไวๆ ไม่ต่างจากไอแรชเล่นบอลกลัวเจ็บกลัวล้มไม่หล่อ แอ็คอาทผิดกับนักเตะแมนยูสมัยก่อน วิ่งเอาเป็นเอาตาย วิ่งเหมือนแข่งเป็นแมทช์สุดท้ายทุกครั้งที่ลงสนามไปแข่ง คนละคลาสกันเลยกับไอพวกสันดานขี้เกียจยุคนี้

ปีกสายคอมโบอะ นัดล่าสุดเจอทีมรับลึกแถม เอ็นโซ่ ไม่เติมช่องฮาฟสเปซเท่าไหร่ก็เล่นยากหน่อย จะไปหวังให้กระชากลุยเข้าไปยิงแบบ ไอ้เก้ ก็ไม่ใช่สไตล์อีก

วิธีเลี้ยงบอลของ ซานโช่ มันดูเป็นสายฟุตเวิร์คโยกหลอกให้ตัวประกบเสียหลักแล้วค่อยไปมากกว่า

ไปคาดหวังกับการจ่ายคีย์พาส การเชื่อมเกมเอา มันดูไหลลื่นกว่าตอนใช้ปีกซ้ายตัวอื่นอยู่นะ คิดภาพ เสี่ยริ่ง ก็จะได้อารมณ์เหมือนมี มาดูเอเก้ ขวา ซ้าย นั่นแหละ

ด้วยราคาซื้อขาด 20-25 ล้านปอนด์ แล้วยอมลดค่าเหนื่อยลง + ไปเน้นโบนัสตามผลงานเยอะๆแทนตามเพดานของ เชลซี มันก็ดูไม่ได้ขาดทุนอะ

ในอนาคตถ้ากาก หรือ สร้างปัญหา ผมก็คิดว่าขายต่อให้ ดอร์ทมุนต์ 15-20 ลป เขาน่าจะเอาอยู่นะ

เป็นสายโยกหลอกยึกยักให้คู่แข่งหลงแล้วถึงลากไปอะ อย่างในคลิปนี้นัด ฟอเรส ก็โยกสวยดี

แล้วถ้าดูในคลิปนี้จะเห็น เอ็นโซ่ มันดูเติมช้ายังไงก็ไม่รู้ จริงๆน่าวิ่งเติมตั้งแต่วินาทีที่ 20 ละ ดูยืนประคองเผื่อ ซานโช่ คืนหลังมากกว่าพอ ซานโช่ พลิกกลับมาอีกรอบถึงค่อยเติม แต่ไม่เห็นภาพกว้างเลยไม่รู้ว่าตอนนั้นมันยังไงชัดๆเหมือนกัน

วิเคราะห์ตรงประเด็นมาก ซานโช่ เก่งทุกคนรู้และยอมรับในฝีเท้า

แต่ปีกความสำคัญคือต้องพยายามเอาชนะแบคให้ได้ในทุกโอกาส ถึงจะอันตราย

ยิ่งพูดประเด็นไม่ยอมปะทะ หลีกเลี่ยงเสมอ นี่ก็ตรงจุด ภาพปีกอันตรายทุกคนที่เราติดตาคือ โดนเสียบสกัดหยุดเกม แต่ปีกอย่างซานโช่ แบคไม่ต้องทำแบบนั้น แค่ไปใกล้ตัว ซานโช่ก็คลายบอลแล้ว ข้อเสียคือมันทำให้เกมรับฝั่งตรงข้ามไม่เสียตำแหน่ง เกมรุกที่จะเจาะตรงกลางก็ยาก ไม่มีพื้นที่