ถ้าจะอ้างอิงธรรมชาติเรื่องการเลือกคู่(Mate Selection) ของมนุษย์ในฐานะของสัตว์(ตัดศีลธรรมออก) ผมว่าคุณเข้าใจผิดนะ จริงๆมันกลับกันเลย

1. การมีผัวเดียวเมียเดียว ไม่ใช่ศีลธรรมแต่เป็นพฤติกรรมตามธรรมชาติของมนุษย์
<<< เพราะเพศเมียของมนุษย์มีพฤติกรรมซ่อนไข่(อันนี้เป็นเหตุผลที่ทำให้เราไม่มีฤดูผสมพันธุ์ด้วย) ทำให้ผู้ชายไม่รู้ว่าตกไข่ตอนไหน ผู้ชายเลยเลือกที่จะใช้เวลาอยู่กับผู้หญิงคนเดิมๆเพื่อให้แแน่ใจว่าพันธุกรรมของตัวเองจะได้รับการส่งต่อ
<<< กลับกันครับเพศเมียต่างหากที่มีความต้องการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายหลายๆคน เพราะมันการันตีว่าพันธุ์กรรมจะได้ไปต่อแน่ๆอยู่แล้ว แต่การทำให้ผู้ชายในฝูงไม่แน่ใจว่ากำลังอุ้มท้องลูกตนเองหรือไม่ ทำให้มีความปลอดภัยสูงขึ้น และมีแนวโน้มที่ลูกที่เกิดมาจะได้รับการดูแลจากผู้ชายหลายๆคน

2. การที่ผู้ชายคนเดียวมีเมียหลายคน ไม่ใช่สัญชาติญาณ มันคือวัฒนธรรมผู้ชายเป็นใหญ่ ที่มีมาทีหลัง

จะเห็นว่าในขั้นตอนของการเลือกคู่(mate selection) คนที่ขี้หึงคือผู้ชายมากกว่าผู้หญิง แต่พออยู่กินด้วยกันแล้ว(มีลูกแล้วและตัดสินใจแล้วว่าจะไม่มีอีก) คนขี้หึงจะเป็นผู้หญิงมากกว่า เพราะภาระกิจการส่งต่อพันธุกรรมของผู้ชายมันเสร็จไปแล้ว แต่ในสัญชาติญาณของผู้หญิงคือ ถ้าผู้ชายทิ้งเค้าจะไม่รอด

ดูง่ายๆครับว่าอันไหนวัฒนธรรมอันไหนสัญชาตญาณ ถ้าเป็น สัญชาตญาณมันต้องเป็นจริงข้ามเผ่าพันธ์ ข้ามภาษา ซึ่งสำหรับผู้ชายไอ้การมีเมียหลายๆคนเพร้อมๆกันโดยการอ้างสัญชาตญาณ อันนี้ไม่จริงครับ สำหรับขั้นตอนเลือกคู่อันนี้เราแค่มักมากหลงไปกับวัฒนธรรมชายเป็นใหญ่ ไม่ใช่เหตุผลทางธรรมชาติครับ

นี้มันผู้ตื่นรู้

ไม่ใช่ว่าเพศผู้ต้องมีเพศสัมพัน เพศเมียหลายๆตัวเหรอครับ เพราะไล่มีเพศสัมพันธ์เพื่อให้ตัวเมียท้องได้หลายๆตัวพร้อมกันเพราะตัวเมียท้องคือจบ แต่ตัวต้องทำให้ตัวเมียให้มากที่สุด

ไม่ใช่ครับ ต้องจิตนาการตอนเราเป็นสัตว์นะ ตัวเมียซ่อนไข่เราเลยไม่รู้ว่าเค้าตกไข่ตอนไหน เราเลยต้องยิงไปเรื่อยๆ(กับคนเดิมๆ) และต้องคอยกันไปให้ตัวผู้ตัวอื่นมายุ่ง รู้อีกทีคือตอนท้องนู้นแหละ ท้องแล้วก็ไม่พอต้องดูแลคนได้คลอด คลอดแล้วก็ไม่พอต้องดูแลจน6ขวบ รวมๆประมาณ7ปี เป็นขั้นต่ำที่เราจะย้ายไปตัวเมียตัวใหม่(เป็นที่มาของอาถรรพ์7ปีที่คนจะเลิอกกัน)

เปรียบเทียบกับลิงที่ตกไข่ก็ตูดแดง สะดวกเลยตัวผู้ก็เอาหมดใครตูดแดง ไม่ต้องมาเฝ้าตัวเดียวอย่างเราๆ แต่พฤติกรรมของมันก็จะไม่มีเรื่องความสวยความสาว คือ หน้าเหียกก็เอาแก่ก็เอา เพราะไม่จำเป็นต้องอยู่กับตัวใดตัวหนึ่งนานๆ

เราคือมนุษย์ที่ธรรมชาติคัดมาแล้วครับ เราไม่ทำอะไรสิ้นเปลืองอย่างการหว่านหายิงตัวเมียหลายๆตัวแน่ มันไม่ชัวร์ ไอ้พวกทำแบบนั้นน่าจะสัญพันธุ์ไปแล้ว แต่ก็อาจมีส่งมาถึงเราบ้างบางส่วน

สมองคิดได้ ตามธรรมชาติจริง ดีสิ ยึดตามความแข็งแรง ผมต่อยคุณคว่ำ หรือ มีคนแข็งแรงกว่าคุณยึดพวกบรรดาเมียๆ ไป

ทำตัวเป็นสัตว์เลย

ลั่นเลย

อ้างสัตว์ แต่ก้ไม่ทุกชนิดนี่นา ที่จะหลายตัวเมีย

เป็นมนุษย์ ก้ควรพิจารณาได้ว่าอะไรเหมาะสม

ก็นี่ไงพฤติกรรมของลิงตัวผู้ไล่เอาตัวเมียไปทั่วไปไงครับ

แล้วมนุษย์ตอนนี้เป็นลิงเหรอครับ เราวิวัฒนาการกันมาไกลมากแล้วครับ
หรือ จขกท เป็นลิง

บางอย่างมนุษย์ควรเหมือนลิงนะครับ เช่นการเอาตัวเมียไปทั่ว แต่บางอย่างไม่ต้องเหมือนเช่นการคิดเทคโนโลยี หรือนวัตกรรม

ผมไม่แน่ใจนะการเลือกคู่ของมนุษย์ถูก form ขึ้นตอนไหน แต่ถ้าจะเทียบกับลิงชิมแปนซีเราแยกสายกันมา7ล้านปีแล้วนะครับ มันแทบไม่เหลืออะไรร่วมกันแล้วล่ะ

ก่อนหน้านี้ คนก็เป็นแบบนั้นแหละครับ ยิ่งสมัยหาของป่ากินก็น่าจะเป็นแบบนั้น

แต่พอ มนุษย์มีคำว่าศีลธรรม ก็ทำให้มันเป็นแบบปัจจุบันที่เราเป็นกันอยู่

ถามว่ามีคนที่รับได้ไหม ก็คงมี ไม่งั้นเราจะเห็นใครบางคนในประเทศเราทำแบบนั้นได้หน้าตาเฉยหรอครับ ฮ่าๆ

นั่นสิ ก้ได้นะ

สมเป็นเว็บอันดับหนึ่ง​ จริงจังมากอะ​ เรื่องพวกนี้​ แต่ก็นะ​สมาชิกในบอร์ดนี้​ อยู่ด้วยกันได้​ ยาวๆปาย