ปล. ยาวพอสมควรนะคะ ไม่ไหวเลื่อนผ่านได้เลยต้องขอภัยล่วงหน้าด้วยนะคะ

เบื้องต้นขอออกตัวว่าเข้าใจว่าความคิดของคนเราไม่เหมือนกัน ความพอใจหรือไม่พอใจของแต่ละคนมีไม่เท่ากัน แต่กระทู้นี้มาเพื่ออยากสอบถามจากปากผู้ชายหลายๆคนว่าความคิดส่วนมากแล้ว สิ่งที่เราทำหรือคาดหวังอยู่ มันผิดหรือไม่ มันดีแล้วหรือว่ามันแย่ค่ะ

เราใช้ชีวิตกับผู้ชายคนนึงมา 7 ปี กำลังจะเข้าปีที่ 8
มีลูกสาวที่วัยกำลังน่ารัก 1 คนอายุ 5 ขวบ

- ช่วงต้นตอนยังเป็นแฟน เราเข้าใจในสถานการณ์การมีเพื่อน การกินเหล้ากินเบียร์ของเขามาตลอด และอีกอย่างนึงคือเขามีความเป็นสายเขียว ซึ่งที่เป็นแบบนี้มาก่อนเราคบกับเขาแล้ว หลังจากคบกัน เรารับได้ในส่วนนี้ เพราะเราก็มีเพื่อน มีสังคมเหมือนกัน
- สังคมของเขาคือการกินเหล้าเบียร์ที่บ้านของเพื่อนๆ (ไม่ชอบออกไปร้าน) แต่ข้อเสียคือการกินยันแทบจะไก่โห่ เรียกได้ว่ากลับเกือบเช้ากันเลยทีเดียว
- หลังจากอยู่กันมาสักพัก เรารู้ตัวว่ามีเจ้าตัวเล็ก ตอนนั้นทั้งสับสนและชีวิตวุ่นวายและเครียดมากในจุดหนึ่งเลย เพราะเป็นการมีแบบไม่ทันตั้งตัว แต่สุดท้ายประคองสติและคิดใหม่ได้ว่า เราทั้งคู่คงต้องเปลี่ยนแล้ว
- เริ่มจากการที่เราตัดใจทิ้งชีวิตความสนุกไร้สาระ กับอนาคตที่ดีในหลายอย่าง (กำลังจะไปสอบแอร์ฯ และมีชื่อเข้าชิงเก็บตัวนักกีฬา) ส่วนเขาเราขอให้เลิกเหล้าเบียร์ กับสายเขียว
- สาเหตุที่ขอให้เลิก เพราะด้วยเหตุผลเราท้อง และคนท้องไม่ควรอยู่กับควัน ส่วนเหล้าเบียร์ที่ขอให้เลิก เพราะเวลาไปกินเขาไม่เรยห้ามตนเองได้ ใช้คำว่าเมาลิ้นเปลี้ยตลอด ก่อนท้องเรายังขับรถพาเขากลับบ้านได้ แต่หลังจากนี้ไป เราจะไม่สามารถทำได้แล้ว
- แต่เขายังคงใช้ชีวิตแบบเดิมมาตลอด ไม่เลิกและเริ่มมีหนักขึ้นบ้าง จากการเริ่มคุยกันแบบดีๆ กลายเป็นคุยแบบทะเลาะเบาะแว้ง เราจึงขอเลิก เพราะไม่อยากเจอปัญหาแบบนี้อีก แต่เขาพยายามขอคืนดีและสัญญากับเราว่าจะพยายามเลิกให้ได้
- และสุดท้ายยังคงเหมือนเดิม ระยะเวลาที่เราท้องเล็กจนท้องใหญ่ เขายังเป็นเช่นเดิม เมาหนัก กลับเช้า ดูดหนักเช่นเดิม (มีสูบบุหรี่ด้วย ช่วงเวลาไปบ้านเพื่อน) แต่ที่ตลกไปกว่านั้นคือการต้องหิ้วเราไปเพื่อพาขับรถกลับคอนโด ที่ไกลจากบ้านเพื่อนประมาน 35+ โล
- ทะเลาะกันทุกครั้ง แต่เราก็ยังต้องยอมแบบนี้ทุกครั้ง เพราะหลังจากทะเลาะ เขาจะมีคำพูดขอโทษและบอกกับเราว่าเขาจะเลิกให้ได้เสมอ แต่เขาบอกว่ามันต้องใช้เวลา ซึ่งเราเข้าใจและยอมรับและรอเวลา แต่ยังคอยเตือนเขาตลอดให้เขาจดจำคำพูดของเขาไว้เสมอ
- หลังลูกคลอด ยังเป็นเช่นเดิม การดื่มยังเหมือนเดิม การสูบเปลี่ยนเป็นลงไปสูบข้างล่างคอนโดและค่อยกลับขึ้นมา ทั้งที่ลูกยังเล็กมาก
- ช่วงปีที่ 5 เปลี่ยนงาน ทำงานที่ต้องออกไปเจอลูกค้า เคยเมาจนเสียการเสียงานไม่ได้ไปตามนัดลูกค้าเพราะตื่นไม่ทันบ้างก็มี
- ยังเป็นเช่นนี้เสมอ ปีที่ 6 ด้วยความที่งาน WFH ได้ไม่ต้องเข้า office ก็หนักขึ้นด้วยการกินตอนกลางวันด้วยเลย บางวัน 9 โมงเช้ายังมี เราออกไปทำงานกลับมาเจอว่าเขากินก็วีนใส่เหมือนเดิม เขาก็ขอโทษและขอโอกาสอีกเช่นเดิม
- ปีที่ 6-7 หนัก ถือเป็น 2 ปีที่หนักถึงหนักมาก กินแบบห้ามตัวเองไม่ได้  ทุกมื้ออาหารต้องมี ต้องกิน 1-2 ขวด กลับบ้าน อีก 1-2 ขวด จนเราไม่ไหวยื่นคำขาด ถ้าไม่เลิกกินเลิกสูบก็คือเลิกกับเรา เขาก็ยังขอโอกาสเช่นเดิม
- 2 ปีหลังมานี้ เขาแทบไม่ได้ออกไปหาเพื่อนเลย ด้วยความที่งานเยอะ ลูกโตขึ้น บวกกับความเหนื่อยหลายๆอย่าง เลยเลือกอยู่บ้าน แต่ก็ยังดื่มหนักเช่นเดิม
- จนสุดท้ายนี้ เกิดเรื่องอีกเมื่อคืน เมาถึงขั้นไม่มีสติ ต้องให้คนอื่นติดต่อมาเพื่อให้เรารับกลับมาโรงแรม ไม่มีสติรับรู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้น และไม่ใช้มาเที่ยว อันนี้คือมาทำงาน แต่เมาเละจนจำอะไรไม่ได้ ดูแลตัวเองไม่ได้
เราจึงบอกเขาว่าหลังจากนี้เราขอให้ชีวิตใครชีวิตมันแล้ว แบบนี้เราไม่สามารถรับไหวอีกแล้ว เรารอเขาเปลี่ยนไม่ไหวแล้ว คือความรู้สึกเรามันแย่และพังไปหมด แล้วคุณรู้มั้ยว่าเขาก็ยังทำหน้าจ๋อยและขอโทษเราขอโอกาสเราเช่นเดิม
แต่ครั้งนี้เราคิดว่าเราพอแล้วจริงๆกับคนๆนี้ เหมือนยิ่งอยู่ยิ่งรู้จักกันน้อยลงมากขึ้นทุกๆที

-------------------

หากถามถึงสาเหตุที่เราให้เลิกดื่มเลิกสูบ
1. เราท้อง
2. เราทั้งคู่ต้องโตขึ้นเพื่อมีความรับผิดชอบมากกว่านี้
3. เราต้องเป็นพ่อแม่ที่ปกป้องลูกไม่ใช่ทำร้ายลูกทางอ้อม
4. เราต้องเปลี่ยน เพื่อครอบครัว
5. เราต้องเป็นตัวอย่างที่ดีของลูก

แต่พวกคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้รู้มั้ยว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราให้เขาเลิกเลยคือเรื่องสุขภาพของเขา ที่เราห่วงถึงห่วงมากที่สุด เขาไม่ใช่คนร่างกายแข็งแรงเต็ม 100%
ทั้งหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนที่ยังเป็นมายาวนานก่อนคบกับเรา ทั้งเนื้องอกที่เบียดหัวใจเขา โตถึงขั้นเวลาเอ็กซ์เรย์หมอนึกว่าเขามีหัวใจอยู่ฝั่งขวา ด้วยระยะเวลาที่แอล์กออฮล์และควันสะสมในร่างกายมานาน เวลานอนกรนดัง 3 บ้าน 8 บ้าน เรื่องนี้เพื่อนๆเขารับรู้เพราะเจอกับตัวมาแล้ว ตรวจร่างกาย 3 ปีหลัง ไขมันในเลือดสูงมากๆเกินอายุไปไกลมาก BMI ร่างกายแย่ หมอถึงขั้นเตือนแต่ยังใช้ชีวิตเช่นเดิม

------------------

เขาเป็นแบบนี้ตั้งแต่ลูกอยู่ในท้อง จนลูกคลอด และจนตอนนี้ลูกโต รู้เรื่อง จนลูกพูดกับเขาแล้วว่าพ่อเมื่อไหร่จะเลิกกินเบียร์ พ่อนอนกรน พ่ออ้วน แต่เขาก็ยังไม่คิดจะเปลี่ยนตนเองเลย

หากเป็นแบบนี้ เราไปต่อไม่ไหวแล้ว เพราะเราไม่มีความสุขที่ต้องมานั่งเครียด เราเศร้ากับความรู้สึกที่เสียไปทุกครั้งกับเรื่องพวกนี้มาตลอด ตัวเราก็รู้สึกแย่เวลาที่ทะเลาะที่วีนใส่โมโหใส่ ส่วนตัวเขาเราก็เชื่อว่าเขาก็รู้สึกแย่มากเช่นกัน แต่กับสิ่งที่เกิดขึ้นแบบนี้ หากเราอดทนให้โอกาสเขาไม่ไหวแล้วแบบนี้มันผิดมั้ย เราให้โอกาสเขามาถึง 7 ปีแล้ว ที่อดทนรอให้เขาเปลี่ยน ถ้าแบบนี้เราผิดมั้ยคะ แล้วที่เราให้เขาเลิกอะไรพวกนี้ เราผิดมั้ยคะแบบนี้

--------

ขอแก้ใขคำผิดค่ะ

ไอ้เรากิน แค่วันศุกร์ 3 ทุ่มกลับบ้าน เรายังเกรงใจเมียมากๆแล้ว
นี่พวกล่อตั้งแต่เที่ยง เสียงานเสียการด้วย บำบัดเห้อะ เอาจริง กู่ไม่กลับแล้วขนาดนี้
ไม่ก็เลิกๆไปเถอะครับ บั่นทอนจิตใจเปล่าๆ สู้อยุ่แค่กับลูกพอ ไม่ต้องไปห่วงมันหรอก ตัวเขาเองยังไม่รักเลย
จะมารักลูกรักเมียไงไหว

พ่อผมว่าหนักแล้วนะ sober แค่ 2 วันต่อสัปดาห์
แต่นั้นเราก็เข้าใจ สูงสุดของสายอาชีพ ลูกโตหมดแล้ว เมียขี้บ่น กินเหล้าเมาให้มันลืมความเป็นจริงไปเลย
สุดท้ายตุยเย่ไปก่อนวัยอันควร

ทนมาได้ 7 ปี

ยอมใจเลยครับ

จากที่อ่านคือ อดทนมากเกินไปด้วยซ้ำฮะ

ยอมบ่อยจนเค้าชินชาอ่ะ คิดว่าเดี๋ยวง้อ เดี๋ยวขอโทษก็หายโกรธละ ทำมาทุกทีก็ได้ผลทุกที มันก็ไม่มีบทเรียนอะไร

แล้วกินเละเทะขนาดนี้ ไม่ได้แช่ง แต่ไม่ช้าก็เร็วจะเป็นภาระกับเรา(และลูก) มากกว่าแค่ไปรับกลับบ้านนะ

ไม่เห็นแก่ตัวเองก็เห็นแก่ลูกฮะ ความเข้าใจผิดๆของพ่อแม่คือต้องอยู่ด้วยกันเพื่อลูก..

แต่บางทีถ้าอยู่ด้วยกันแล้วมัน toxic ทั้งทะเลาะกัน ทั้งเห็นพ่อตัวเองไม่เอาอ่าว ผมว่าแยกกันเป็นผลดีกับลูกมากกว่า

ผู้ชายแบบนี้ ได้เจอผู้หญิงแบบจขมคือถูกหวยรางวัลที่1 แต่กลับโยนทิ้ง ที่เหลือก็รักตัวเองกับลูกเยอะๆๆครับ เป็นกำลังใจให้

ไม่ผิดเลยสักนิดครับ

ความเห็นที่ผมจะให้ต่อไปนี้คือการฝั่งความจากคุณข้างเดียวนะครับ ใกล้ตัวผมมีเคสคล้ายๆ แบบนี้เช่นกัน แต่สองฝั่งเล่ากันมาคนละแบบ คนละมุมมองเลย ถ้าเป็นไปได้ก็อยากฟังจากอีกฝั่งนึงเช่นกัน

ผู้ชายคนนี้แค่รักตัวเองครับ เขาไม่เคยรักคุณ รักลูก หรือแคร์หรือเป็นห่วงใครเลย

ออกมาให้ได้ครับ เขาจะตามตื๊อคุณแน่ๆ แหละ สำคัญคือห้ามใจอ่อนเด็ดขาด นึกถึงลูกเอาไว้เป็นสำคัญ

คุณไม่ผิดคับ ที่ขอร้องให้เค้าเลิก

แล้วผมก็โคตรมั่นใจเลยว่า แฟนคุณก็จะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ
กินเหล้า สูบบุหรี่ สายเขียว เพราะ ของพวกนี้มันเสพติด มันเลิกยาก
ต่อให้คุณเลิกกับเค้านะ เค้าก็ยังทำเหมือนเดิม

ปล. ผมไม่รู้หรอกนะว่าแฟนคุณอายุเท่าไหร่
แต่สำหรับผม อ่านจากที่คุณพิมพ์มา
บอกได้เลยว่า แฟนคุณดูนิสัยเด็กน้อยมาก เหมือนคนไม่รู้จักโต

เขาเองก็มี Account อยู่ในนี้เหมือนกันค่ะ เรายินดีเลยหากเขาจะมาดีเหนตนเองหรืออธิบายความในฝั่งเขา เราไม่ติดเลยค่ะ

ส่วนตัวเราที่มาพิมพ์ เพราะเราแค่อยากรู้มากๆว่า ใครในนี้หลายๆคน เขาติดถึงขั้นนี้มั้ย หรือเขาออาจจะหนักกว่านี้ และมีทางแก้ยังไงค่ะ

Absolutely Toxic Relationship ทำผิด - ขอโอกาสและได้รับ - ทำซ้ำ

มีเรื่องเดียวคือผู้ชายไม่ได้ทำร้ายร่างกายคุณ

แต่ผมสงสารบุตรของคุณมากที่สุด ควันบุหรี่มีทั้งมือ 2 และ 3 การที่ได้รับควันพวกนี้อยู่เสมอๆ มีแนวโน้มสูงที่บุตรคุณจะเป็นภูมิแพ้และโรคทางเดินระบบหายใจ

เป็นไปได้ว่าคุณอาจจะมองหน้าเด็กคนนั้นแล้วอยากให้ครอบครัวมันครบส่วน และการอธิบายว่าจะไม่ได้อยู่กันเหมือนเดิมแล้วเป็นเรื่องที่ยากมากๆ

คุณควรจะตอบตัวคุณเองจริงๆว่าคุณทนไปทำไม ทนไปเพื่ออะไร คุณให้โอกาสมา 7 ปี ไม่ใช่ 7 ครั้งนะครับ เรื่องนี้เกิดขึ้นซ้ำเป็นร้อยรอบได้แล้วมั้ง

ไม่นับว่าเงินทองที่เอาไปเผาเล่นเป็นควันเพลินๆกับลงขวดกับเพื่อนกับฝูง เอามาเป็นค่าเทอม ค่าของเล่นเสริมพัฒนาการ หรือโอกาสได้ลองทำกิจกรรมเพื่อหาความถนัด ได้ทักษะต่างๆไม่รู้เท่าไร

ส่วนที่สำคัญสุดคือ "ตัวคุณเอง" ที่จะได้มีชีวิตที่ปลอดโปร่ง มีชีวิตที่มีความสุขจริงๆ ไม่ใช่ความสุขที่เกิดขึ้นจากความหวังว่าจะเปลี่ยนใครสักคนได้ ไม่ใช่ความสุขที่คนรักมาง้อ มาพูดจาดีๆ ทำตัวดีๆชั่วครั้งชั่วคราว

ผช โคตรเฮงซวย
ดูแลตัวเองได้ก็อย่าไปสนเลยครับ
ลูกไม่มีพ่ออาจจะโตมาได้ดีกว่ามีพ่อแบบนี้ก็ได้

Toxic จัด

มุมส่วนตัว แลดูเป็นภาระ มากกว่าจะฝากชีวิตไว้นะครับ -*-

้

ในส่วนของการเป็นพ่อ เรื่องการดูแลลูก เขาเป็นพ่อที่ดีมากค่ะ เขาใจเย็นกับลูก น่ารักกับลูกเสมอ ไม่เคยดุหรือตีลูก เวลาสอนลูก สอนด้วยเหตุผล นี่อาจจะเป็นเหตุผลนึงที่เราอดทนรอให้เขาเปลี่ยนตัวเองมาได้ยาวนานขนาดนี้ค่ะ

งั้นถ้าพี่ผู้ชายคนนั้นมาเห็น มาให้ข้อมูลได้นะครับ ผมยินดีขอโทษและถอนคำพูดที่ผมพิมพ์ไปข้างต้น ผมรู้ว่ามันแรงพอสมควร

แต่ถ้าข้อมูลมีเท่าที่ จขกท. ให้มา ก็ขอยืนยันความเห็นผมตามนั้นครับ