sixhearts พิมพ์ว่า:
RuuDVaN V.2 พิมพ์ว่า:
จริงๆ เรื่อง สภาพยางด้วยนะ แต่ข้ามไปก่อน
เคสนี้ รถทัวร์ ติดตั้ง LPG ซึ่ง ติดไฟง่ายจัด
ในรถระดับสาธารณะ ที่บรรจุคน เป็น สิบๆ ไม่ควรใช้ LPG เป็นเชิ้อเพลิง
เคสนี้ ถ้าเป็นรถสาธารณะ ที่มี เด็ก ผู้ใหญ่ คนแก่ คิดว่าจะรอดมั้ย ผมว่าก็สูญเสียไม่ต่างจากนี้
ประเทศไทย ควรตรวจสอบแล้ว ยกเลิกให้หมด เอา LPG มาใช้เป็นเชื้อเพลิงเนี่ย ไม่เฉพาะรถทัวร์ ด้วยซ้ำ ควรยกเลิกให้หมด มันอันตราย
มีแต่ประเทศไทยนี่แหละมั้ง ที่ดัดแปลง อะไรแบบนี้มาใช้
เหตุการนี้คือ CNG ลองพิจารณาดู
ผมก็ไม่รู้ว่าจริงมั้ย ที่ CNG เสี่ยงน้อยสุด
ลองถาม Chatgpt เกี่ยวกับรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงแบบต่างๆ
การจัดลำดับตามโอกาสที่จะเกิดเพลิงไหม้หรือระเบิดเมื่อเทียบกับก๊าซจะเป็นดังนี้:
### 1. **รถยนต์ที่ใช้ก๊าซไฮโดรเจน (Hydrogen Fuel Cell)**
- ยังคง **มีความเสี่ยงสูงที่สุด** เนื่องจากไฮโดรเจนติดไฟและระเบิดง่ายมาก แม้ว่าเทคโนโลยีจะพัฒนาระบบการจัดเก็บให้ปลอดภัยขึ้นมาก แต่โอกาสการเกิดเพลิงไหม้หรือระเบิดยังคงสูงเมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงอื่น
### 2. **รถยนต์ที่ใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG)**
- ก๊าซ LPG มีความเสี่ยงที่จะเกิดการติดไฟหรือระเบิดสูง หากมีการรั่วไหลและมีการสะสมในพื้นที่อากาศถ่ายเทไม่ดี เช่น ห้องเครื่องหรือใต้ท้องรถ
### 3. **รถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซิน/ดีเซล (Gasoline/Diesel)**
- น้ำมันเบนซินติดไฟง่ายกว่า **น้ำมันดีเซล** แต่ทั้งสองยังมีความเสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้สูงกว่าเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ เนื่องจากน้ำมันเป็นของเหลวที่สามารถระเหยเป็นไอ และไอเหล่านี้ติดไฟได้ง่ายโดยเฉพาะในรถยนต์ที่อุณหภูมิสูง
### 4. **รถยนต์ที่ใช้แบตเตอรี่ไฟฟ้า (Electric Vehicles, EV)**
- แม้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะไม่มีเชื้อเพลิงที่ติดไฟได้ง่ายเหมือนก๊าซหรือน้ำมัน แต่แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนอาจเกิดการ **ลัดวงจร (short circuit)** หรือ **ความร้อนเกิน (thermal runaway)** ซึ่งอาจทำให้เกิดไฟไหม้หรือการระเบิดได้
- อย่างไรก็ตาม โอกาสการเกิดไฟไหม้หรือระเบิดในแบตเตอรี่ไฟฟ้าถือว่าต่ำกว่าก๊าซหรือเชื้อเพลิงน้ำมันทั่วไป เนื่องจากระบบจัดการแบตเตอรี่ (BMS) มักมีมาตรการความปลอดภัยสูง
### 5. **รถยนต์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV หรือ CNG)**
- ก๊าซธรรมชาติมีความเสี่ยงต่ำกว่า LPG และน้ำมัน เนื่องจากการรั่วไหลของก๊าซมักจะระเหยขึ้นไปในอากาศอย่างรวดเร็ว และมีช่วงการติดไฟแคบกว่า
### สรุปลำดับความเสี่ยงของการเกิดเพลิงไหม้หรือระเบิด:
1. รถยนต์ที่ใช้ก๊าซไฮโดรเจน (เสี่ยงสูงสุด)
2. รถยนต์ที่ใช้ก๊าซ LPG
3. รถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซิน/ดีเซล
4. รถยนต์ที่ใช้แบตเตอรี่ไฟฟ้า
5. รถยนต์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV หรือ CNG) (เสี่ยงน้อยที่สุด)
ทั้งนี้ ความเสี่ยงจะขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งาน การดูแลรักษา และมาตรการความปลอดภัยของแต่ละประเภทเชื้อเพลิงหรือระบบพลังงาน
ข้อสรุปนี้เป็นจริงไหมครับ ช่วยกันวิเคราะห์หน่อย
เพิ่มเติม ประตูฉุกเฉินและวิธีเปิด (ตามข่าวเห็นว่าเปิดไม่ออก พนักงานดับเพลิงจะเปิดจากข้างนอกก็ไม่ออก)
ใช่ครับ CNG มี ignition temperature ที่สูง ราวๆ 500 องศา C ส่วน LPG ราวๆ 400 องศา C
ส่วน gasoline/diesel จะอยู่แถวๆ 200 องศา C ดังนั้นตามหลักแล้ว CNG LPG จะติดไฟยากกว่า
อีกทั้ง LPG gasoline diesel เองยังหนักกว่าอากาศด้วย ดังนั้นมันจะกระจายอยู่บนพื้น ซึ่งอันตรายมากกว่า CNG ที่ลอยขึ้นไปได้เลย