รถดัดแปลงอีกตะหาก

NGV กับ CNG เหมือนกันมั้งครับ NGV คือรถที่ติดเชื้อเพลิงระบบนี้ CNG คือตัวเชื้อเพลิง
https://www.eppo.go.th/index.php/th/component/k2/item/19627-news-110766-02#:~:text=%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99%20CNG%20%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%20NGV%20%E0%B8%81%E0%B9%87,LPG%20%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C

ผมว่าใช้ไรไม่เกี่ยว เกี่ยวที่ตรวจสภาพผ่านมาได้ไง.
กับจะลงโทษ บ.ที่ทำอย่างนี้ยังไง.

กลับมายุคโทษรถติดแก๊สอีกแล้ว

อยากให้มองถึง เรื่องการเซฟตี้ ความปลอดภัยทั้งก่อนและหลังเกิด

อาทิเช่น หากเกิดความผิดพลาด แล้วตัวรถสามารถป้องกันการลามไฟ มีระบบที่ดับเพลิงทันที ที่มีการปะทุ

เพราะผมมองว่า ทุกเชื้อเพลิง มันมีโอกาสที่จะเกิดเหตุได้ทั้งนั้น

LPG CNG น้ำมัน ไฮโดรเจน หรือ ไฟฟ้า มันมีความเสี่ยง ทั้งหมดแระครับ

สาเหตุหลักที่เรามองข้าม คือ การบำรุงรักษา มากกว่า

ลองคิดกลับกัน ถ้ารถมีการบำรุงรักษา แค่ตรวจสอบสภาพตามรอบ และ ตรวจสภาพรถก่อนเดินทางทุกครั้ง

แค่นี้ก็ลดการเกิดอุบัติเหตุได้เยอะแล้ว

สรุป ตั้งมู้มาโชว์โง่อีกแล้วสินะ

สภาพรถมากกว่าไหมครับที่ควรเปลี่ยน รถคันเกิดเหตุมีอายุ 54 ปี สภาพนี้ไม่ควรเอามาใช้ในการขนส่งอะไรเเล้วครับ 30 ปีก็ว่าเเย่เเล้วนะ นี่บวกไปเกือบเท่านึง

มั่วมาก รถมันติด NGV นะไม่ใช่ LPG NGV นั้นเบากว่าอากาศและระเหยง่าย เนื่องจากมันใช้แรงดันสูงเวลาติดไฟ อย่างที่เห็น แรงดันมันจะทำให้ลุกเป็นไฟแบบนั้น

จากประสบการณ์ที่ขับรถใช้แก็ส LPG มา มันไม่ได้อันตรายขนาดนั้นนะ

ถ้าเป็นรถน้ำมัน เคสนี้จะไฟไหม้ไหมครับ ถามเฉยๆนะ

ถ้าตั้งสมมติฐานว่า ไฟไหม้เพราะระบบท่อส่งเชื้อเพลิงรั่วไหล
น้ำมันก็มีสิทธิ์ไฟไหม้ได้เหมือนกันครับ

ถอดบทเรียนวนไป ประเทศนี้

โอเคครับ ผมไม่ทราบว่าที่ตรวจรถพวกนี้เรียกว่าอะไร นึกได้แต่ชื่อ ตรอ ครับ

ยังไงขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ

ตรงกันข้ามเลยครับ CNG ปลอดภัยกว่า LPG ครับ

ข้อแรกเลยคือ CNG ส่วนประกอบหลักคือ CH4 ซึ่งเบากว่าอากาศ ดังนั้นพอมันรั่ว มันจะลอยขึ้นข้างบนทันที

กลับกัน LPG ส่วนประกอบหลักคือ C3H8 กับ C4H10 ซึ่งหนักกว่าอากาศ

ดังนั้นถ้ามันรั่วไหลมามันจะกองอยู่ที่พื้นครับ ถ้าเกิดไฟ มันมันจะลามบนพื้นทั่วเลย

แล้ว LPG ลองดูจากชื่อ มันคือ Liquefied Petroleum Gas มันคือ gas ที่ถูกอัดจนเป็นของเหลวครับ

ดังนั้นเมื่อมันรั่วไหล ของเหลวจะแปลงสภาพไปเป็นแก๊ส ซึ่งปริมาตรจะเพิ่มอย่างรวดเร็วทันที

อีกทั้ง ignition temperature ของ CNG ก็สูงกว่า LPG ครับ ดังนั้นจะติดไฟยากกว่า

ส่วนเรื่องความดันสูง สิ่งที่น่ากลัวจริงๆคือถังระเบิดครับ ซึ่ง CNG เลยต้องทำมาตรฐานให้ถังแข็งแรงมากอยู่แล้ว

อย่างเคสนี้เท่าที่เห็นถังก็ไม่ได้ระเบิดออก

เหตุการนี้คือ CNG ลองพิจารณาดู
ผมก็ไม่รู้ว่าจริงมั้ย ที่ CNG เสี่ยงน้อยสุด

ลองถาม Chatgpt เกี่ยวกับรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงแบบต่างๆ

การจัดลำดับตามโอกาสที่จะเกิดเพลิงไหม้หรือระเบิดเมื่อเทียบกับก๊าซจะเป็นดังนี้:

### 1. **รถยนต์ที่ใช้ก๊าซไฮโดรเจน (Hydrogen Fuel Cell)**
- ยังคง **มีความเสี่ยงสูงที่สุด** เนื่องจากไฮโดรเจนติดไฟและระเบิดง่ายมาก แม้ว่าเทคโนโลยีจะพัฒนาระบบการจัดเก็บให้ปลอดภัยขึ้นมาก แต่โอกาสการเกิดเพลิงไหม้หรือระเบิดยังคงสูงเมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงอื่น

### 2. **รถยนต์ที่ใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG)**
- ก๊าซ LPG มีความเสี่ยงที่จะเกิดการติดไฟหรือระเบิดสูง หากมีการรั่วไหลและมีการสะสมในพื้นที่อากาศถ่ายเทไม่ดี เช่น ห้องเครื่องหรือใต้ท้องรถ

### 3. **รถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซิน/ดีเซล (Gasoline/Diesel)**
- น้ำมันเบนซินติดไฟง่ายกว่า **น้ำมันดีเซล** แต่ทั้งสองยังมีความเสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้สูงกว่าเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ เนื่องจากน้ำมันเป็นของเหลวที่สามารถระเหยเป็นไอ และไอเหล่านี้ติดไฟได้ง่ายโดยเฉพาะในรถยนต์ที่อุณหภูมิสูง

### 4. **รถยนต์ที่ใช้แบตเตอรี่ไฟฟ้า (Electric Vehicles, EV)**
- แม้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะไม่มีเชื้อเพลิงที่ติดไฟได้ง่ายเหมือนก๊าซหรือน้ำมัน แต่แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนอาจเกิดการ **ลัดวงจร (short circuit)** หรือ **ความร้อนเกิน (thermal runaway)** ซึ่งอาจทำให้เกิดไฟไหม้หรือการระเบิดได้
- อย่างไรก็ตาม โอกาสการเกิดไฟไหม้หรือระเบิดในแบตเตอรี่ไฟฟ้าถือว่าต่ำกว่าก๊าซหรือเชื้อเพลิงน้ำมันทั่วไป เนื่องจากระบบจัดการแบตเตอรี่ (BMS) มักมีมาตรการความปลอดภัยสูง

### 5. **รถยนต์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV หรือ CNG)**
- ก๊าซธรรมชาติมีความเสี่ยงต่ำกว่า LPG และน้ำมัน เนื่องจากการรั่วไหลของก๊าซมักจะระเหยขึ้นไปในอากาศอย่างรวดเร็ว และมีช่วงการติดไฟแคบกว่า

### สรุปลำดับความเสี่ยงของการเกิดเพลิงไหม้หรือระเบิด:
1. รถยนต์ที่ใช้ก๊าซไฮโดรเจน (เสี่ยงสูงสุด)
2. รถยนต์ที่ใช้ก๊าซ LPG
3. รถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซิน/ดีเซล
4. รถยนต์ที่ใช้แบตเตอรี่ไฟฟ้า
5. รถยนต์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV หรือ CNG) (เสี่ยงน้อยที่สุด)

ทั้งนี้ ความเสี่ยงจะขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งาน การดูแลรักษา และมาตรการความปลอดภัยของแต่ละประเภทเชื้อเพลิงหรือระบบพลังงาน

ข้อสรุปนี้เป็นจริงไหมครับ ช่วยกันวิเคราะห์หน่อย

เพิ่มเติม ประตูฉุกเฉินและวิธีเปิด (ตามข่าวเห็นว่าเปิดไม่ออก พนักงานดับเพลิงจะเปิดจากข้างนอกก็ไม่ออก)