พึ่งนั่งคิดเมื่อวานเลย 555 การไปทัศนที่มีเดินทางไกลๆหลายๆวัน
ผมคงอธิบายประเด็นในกลุ่มผู้ปกครองก่อน ว่าผมจะพบจะคุยจะทำอะไร และขอเข้าพบ ผอ. โดยผ่านการนัดหมายจากครูประจำชั้น

ผม(ร่าง)เอกสารให้ผู้มีความรับผิดชอบลงนาม (ถ้าไม่ลงคงไม่ให้ไป)
ลักษณะเนื้อหาลงนามอุบัติเหตุทั่วไป ผมไม่ติดใจ (ล้มหัวแตก/แขนหัก/หนีจากครูปกครองไปเที่ยวจมน้ำ ฯลฯ
2.ประเด็นที่ผมจะเอาผิดคือ ความปลอดภัยของยานพาหนะ(ผิดวิสัย) ไฟไหม้/ยางระเบิด/คนขับป่วย/เมา/ขาดวินัยอันก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน
3.กิจกรรมที่เกิดจากความประมาณของผู้ควบคุม(ครู) โดยเป็นคำสั่งโดยตรงที่ผู้ควบคุมของให้เด็กทำตามแล้วเกิดความผิดพลาด
4.ความประมาทของผู้ดูแลโดยตรง บลาๆๆ
ถ้า ลงนามผมก็อนุญาต
ที่ทำเพราะต้องการความรอบคอบ และผู้บริหารพิจารณารอบด้านอย่างถี่ถ้วน ระมัดระวังและไม่ประมาท.
เหมืออนเยอะแต่ทำเพื่อลูก เพราะค่าเทอม (เรียม3เทอม)ต่อปี ไม่ใช่ถูกๆและจะทำชุ่ยๆไม่ได้

อันนี้คิดจริงจังเมื่อวานเลยครับ
ปล. ลูกผม อนุบาล 2 เอง แต่ก็มีกิจกรรมบ่อยๆ
นั่งรถราง(ไฟฟ้า)ไปมิวเซียม (ในจังหวัด)

ถ้าเป็นผมต้องประเมินก่อนว่าสามารถดูแลตัวเองได้ ปกป้องตัวเองได้ รู้จักทางหนีทีไล่ ถ้ายังดูแลตัวเองไม่ได้คงไม่ปล่อย

ไม่ให้ไปครับ

ที่บ้านพาไปเอง สอนเอง

สถานที่ เนื้อหา ความปลอดภัย ฯลฯ ทุกอย่างดีกว่าหมด

แต่มันก็เป็นทางเลือกของเรากันเอง คนที่เค้าไม่มีทางเลือก ไม่สามารถพาไปครอบครัวทัศนศึกษาได้ ก็คงต้องไปของรรอยู่

ถ้า ม ปลาย ให้ไปครับ แต่ใจก็อยากให้ยกเลิกไปเลย

เห็นหลายคนบอกให้แก้เรื่องความปลอดภัยรถ อันนี้ถูกต้องครับ ไม่เถียง

แต่ที่นี่ประเทศไทยนะครับ ข้ามทางม้าลายยังเสี่ยงตายตลอด จะไปหวังไรมาก

ถ้าไปเช้า เย็นกลับแล้วลูกอยากไปก็ให้ไปครับ แต่จะขับรถตามรถโรงเรียนคอยดูอยู่ห่างๆ เผื่อมีเหตุฉุกเฉินจะได้ไป support ได้ทัน

แต่ถ้าพวกไปเข้าค่ายต่างจังหวัด หรือต้องค้างคืน ไม่ให้ไปเด็ดขาด

ทางนี้จะมีสองแบบ คร่าว ๆ
1. ไปทุกคน one daty trip
2. ตามความสมัครใจ ส่วนใหญ่ไปค้างหนึ่งคืน ภายในจังหวัด พอทราบว่ามีกิจกรรม โรงเรียนเลิกปุ๊บจะรีบโทรหรือ LINE มาคุยว่าขอไป อธิบายหลักการประโยชน์ที่ได้จากการเข้าร่วมเสร็จสรรพ เราจะอ้างว่าต้องประหยัดเงินก็บอกว่าใช้เงินเก็บของหนูก็ได้ ปฏิเสธยากเลย

ก็ยังดีหน่อยที่ทีม ผปค เค้าจะตามเป็นระยะ ตั้งแต่ก่อนขึ้นรถ ไปถึงไหน ทำอะไร คือขับตามเลยครับ
ทีแรก ก็เคยคิดว่า ทำไมไม่ปล่อยให้เด็กโตตามวัย จะอะไรขนาดนั้น พอได้คุยก็พอเข้าใจครับ อีกอย่างถึงเค้าจะตาม แต่ก็จะไม่เข้าไปยุ่งเลย อยู่แบบห่าง ๆ

ถ้าโรงเรียน ตอบข้อมูลเรื่อง รถทัวร์ ที่จะไปได้ไม่มีพอ แถมใช้แก๊ซอีก คงไม่อยากให้เสี่ยงละครับ

แต่ถ้าดูแล้ว รถที่ไปดูมีคุณภาพก้โอเค ไม่มีปัญหา

การห้ามไม่ให้เด็กไป ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุจริงๆ อันนี้เห็นด้วย

แต่ถ้าต้นเหตุจริงๆ แม่งไม่มีทางแก้ไขได้ หรือ ปล่อยไว้แปปๆเดี๋ยวคนก้ลืม ถ้างั้นมันก้เป็นคนละเรื่องกันละครับ

ในเคสนี้จากที่ดูรายชื่อผู้สูญหาย เกินครึ่งเป็นเด็ก ป.4 ขึ้นไปเลยนะ มี 3 คนอยู่ ป.1 และ 6 คนอยู่ ป.3

นอกนั้น ป.4 ม.2 ม.3 รวมๆ 11 คน แถมมีผู้ใหญ่อีก 3 คนอีก

ถ้าลูกอยากไป ก็ให้ไปครับ

ส่วนตัว ถ้าลูกยังอยู่อนุบาล ผมจะยังไม่ให้ไปครับ เขายังไม่สามารถดูแลตัวเองได้ดีขนาดที่จะเอาตัวรอดได้ขนาดนั้น แต่ถ้าโตแล้วก็คงให้ไปปกติครับ อาจจะ ป.4ขึ้นไป อะไรแบบนี้ครับผม เพราะผมคิดว่าการเรียนรู้นอกห้องเรียน สำคัญมากครับ แต่อยู่ที่ว่าโรงเรียนจะพาไปดูอะไรด้วยแหละ

ผมไม่กังวลเรื่องทริปการศึกษาเลย เด็กนานาชาตินี่ออกทัศนศึกษากันตั้งแต่อนุบาล และออกกันถี่มาก มันอยู่ที่การจัดการ เวลา สถานที่

พ่อแม่ๆหลายๆคนถึงขั้นขับรถตามไปดูไปเฝ้ากันเลย อย่าไปโทษกิจกรรมเลย ถ้ารถมันใช้งานได้อย่างที่ควรจะเป็นมันก็ไม่เกิดเหตุแบบนี้หรอก เอาแค่ประตูฉุกเฉินเปิดได้ก็ไม่น่ามีผู้สูญเสียแล้ว

ซัก ป.5 ขึ้นไปผมก็ให้ไปแล้วครับ ยิ่งถ้ารู้พูดเรื่องและฟังคำสอนเราอย่างดีแบบนี้ผมก็ยิ่งไว้ใจให้ไปนะ

เอาเคสของลูกผมแล้วกัน จะไปพรุ่งนี้แล้วแหล่ะ หลังเกิดเรื่องไลน์ไปถามครูว่ายกเลิกไหม ครูบอกไม่ยกเลิกนะค่ะ เลยสอบถามเรื่องรถกับมาตรการต่างๆ วันนี้ส่งข้อมูลรถมา คืออุปกรณ์ครบ ตามมาตรฐานรถบัส ถังดับเพลิง ฆ้อนทุบกระจก ยันไปถึงพื้นรถที่ป้องกันไฟลาม และรถบัสเครื่องดีเซลปกติไม่ได้ติดแก๊ส แล้วก็ถามลูกนะว่ายังอยากไปไหม ตอบเสียงดังฟังชัด หนูจะไป ผมก็ได้แต่บอกว่าต้องทำตัวยังไงเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน

ให้ไปนะ ยิ่งมีเคสแบบนี้เกิดขึ้นผมว่ายิ่งปลอดภัยกว่าตอนเงียบๆไม่เกิดเหตุอะไรอีก

ตอนนี้ถ้าใครกล้าจัดให้ไปยังไงก็ต้องดูแลจัดเต็มแหละ ไม่ปล่อยปะละเลยเหมือนก่อนหน้านี้แน่ๆ

.