ถ้าเทียบกันตรงๆกับคล็อปยุคปล่อยจอย ให้ลินเดอร์คุม อันนี้ดีกว่าชัดเจนครับ

แต่ถ้าเทียบกับคล็อปตอนได้แชมป์ ucl แชมป์ลีก ยังอีกเยอะ (และโคตรยาก) ต้องปั้นนักเตะขึ้นแท่น world class ให้ได้ 8-9ตัว และลุ้นให้แมนซิ น่อล ซวยมีคีย์แมนเจ็บยาว หรือว่าพวกจองถ้วย ucl อย่างมาดริดฟอร์มตกตกรอบเร็ว

ยังไม่เจอทีมใหญ่สักนัดเลยครับ ขอดูตรงนั้นก่อนทั้งในลีคและชปล.

ก็ถือว่าดีกว่าที่คาดหวังนะ แต่ต้องรอดูว่าระยะยาวเป็นยังไง แรกๆก็ดีทั้งนั้นแหละส่วนใหญ่

ถ้าท่านทันดูยุค'โทเช็ค เข้ามาทำลายทีม ท่านจะรัก'สล็อท แบบสุดๆ

ถือว่าทำได้ดีเกินคาด เป็นกำลังใจให้แกละกัน อย่างน้อยระบบแกดี เข้ากับลูกทีมได้ดี ตอนนี้ก็เหลือแต่พิสูจน์ตัวเองกับทีมใหญ่ การยืนระยะ กับการบริหารนักเตะแล้วแหล่ะ

ขอดู 1 ปี ผ่าน ucl เข้ารอบ 8 ทีมได้ถือว่าสอบผ่านละ

หงส์ ต้องอย่าเหลิง ทำไปเรื่อยๆ อย่าประมาท

ดูนัดต่อนัด ผมว่าระยะยาวได้อยู่

(หงส์มีประสพการณ์มากกว่าสเปอร์อยู่แล้ว) ทั้งผู้เล่นทั้งแฟนบอล

เพราะฉนั้นเวลาทีมกำลังได้ลุ้น ผมว่าหงส์น่าจะรับมือได้ดีกว่าสเปอร์

คราวนี้ก็อยู่ที่ผู้จัดการแล้วจะโอเครไหม แอนท์ ตอนนำเห็นบอกว่าให้ฟัฝันไกลๆ กล้าที่จะฝัน

หลังจากนั้นฟอร์มก็ดร็อปลงมาเรื่อยๆ ขอให้หงส์อย่าไปทำอะไรแบบนั้นพอ

ให้เล่นแมตท์ต่อแมตท์ไปตามสูตร แล้วค่อยดูผลลัพธ์ตอนท้ายฤดูกาล แบบนี้ถึงจะบินได้ไกลไม่กดดันตัวเอง

ไปเสียหมานัดฟอร์เรสนี้แหละครับ คาบร้าาาานเลยนะ

ต่อยอดระบบเดิมได้ดีเกิดคาด มีแกนหลัก 11 ตัวจริงตั้งแต่นัดแรกๆ ช่วงแรกถือว่าผ่าน

ปีนี้ถ้าติด top4 แบบชิลลๆไม่ต้องลุ้นยันนัดาุดท้าย กับ UCL เข้าถึงรอบ 8 ทีมได้คือให้ 9/10 เลย

- บอลลีคนัดที่ 3 ไงครับ นั้นทีมไม่ใหญ่หรือครับ ผมนั่งเชียร์ลุ้นเยี่ย_เหนียวเลยครับ

ถึงตอนนี้ทำได้ดีทีเดียว
สิ่งที่ชอบ
- เปลี่ยนให้ทีมเล่นคอนโทรลเกมเวลานำได้ เล่นปิดเกมได้ กองเชียร์อุ่นใจขึ้นเวลาทีมนำและนักเตะใช้พลังลดลง
- ทำให้มีเกมรับที่ดีขึ้น เน้นการเล่นเป็นทีม
- มีการบริหารเวลาเล่นของนักเตะแต่ละคนเพื่อลดความเสี่ยงอาการบาดเจ็บ
- การบอกชัดเจนว่านักเตะคนนี้ต้องเล่นต้องเล่นตำแหน่งไหน ทำให้นักเตะโฟกัสการเล่นถูกและฉายแสงได้เต็มที่
- ทำให้ดิอาซและน้องกราฟฉายแสงได้ดีเลย
- ยืดหยุ่น แม้ทีมจะไม่สามารถคว้าซูบิเมนดี้ได้ก็แก้ปัญหาได้ดี
- คุยกับนักเตะแต่ละคนเลยว่าสามารถพัฒนาได้อย่างไรบ้าง แบบชัดเจน

สิ่งที่รอดู
- การบริหารทีมเวลาต้องเตะวีคละ 2 เกม ไปเป็นเวลานาน (ตรงนี้เหมือนสล็อทเองก็กังวลอยู่)
- การทำให้ทีมมีฮึดไม่หมดกำลังใจและสู้จนวินาทีสุดท้ายเวลาตามหลัง 1-2 ประตู
- ผลงานเวลาเจอทีมระดับท้อป เช่น ซิตี้ มาดริด ปืน
- การเจาะทีมที่ตั้งรับต่ำๆแบบฟอเรส
- การบริหารเวลาลงเล่นของดิอาซกับกัคโป
- การซื้อนักเตะใหม่เข้ามาเติมส่วนที่ขาด

ไม่หลุดท็อป4

ยังนับว่าน้อยไปสำหรับการประเมินครับ ให้ชัวร์ต้องรอดูผลสรุปของฤดูกาลค่อยมาตัดเกรด อารมณ์ตอนนี้เหมือนนั่งดูบอลที่เพิ่งเตะไป10นาทีเท่านั้น ยังวัดอะไรไม่ได้มาก

ความคิดผมนะ ต้องรอดูอีกนิดนึงครับ ไม่อยากชมเยอะ กลัวชมเยอะแล้วต่อไปไม่กล้าด่า ส่วนเหตุผลก็ตามด้านล่างเลย

ส่วนตัวคิดว่ายังไม่ผ่านการทดสอบทีมในระดับเดียวกัน พวก ซิตี้ อาร์เซนอล หรือรวมถึงสเปอร์สด้วย วาถ้าเจอทีมระดับเดียวกันจะเอาตัวรอดได้ไหม และในนัดที่แพ้ ฟอเรสต์(ซึ่งไม่น่าแพ้) ส่วนนึงเพราะอาร์เน่ เลือกเปลี่ยนตัวและเปลี่ยนแผนมาเล่นหลังสามที่ตัวเองไม่ถนัด ทำให้ไม่สามารถกดดันแนวรับฝั่งตรงข้ามได้ และโดนสวนกลับจนเกือบโดนประตูที่สองด้วยซ้ำ

ผมว่า ลิเวอร์พูลที่เล่นๆมา มันมีนัดฟอเรสต์แหละที่แบบ ห่วยจริง จ่ายบอลพลาด ยิงทิ้งยิงขว้าง

ที่เหลือ คือแบบ อาจจะโดนบี้ บด บ้าง แต่ เอาตัวรอดได้