หลังจากที่กระทู้จัดอันดับเหล่าเอลฟ์จบไปแล้ว ทีแรกผมก็อยากจะลองจัด 10 อันดับของมนุษย์ดูบ้างแต่ด้วยการหาข้อมูลและปัจจัยหลายๆอย่าง จึงขอแทรกด้วยบทความแนะนำตัวเหล่าพ่อมดไปก่อนละกัน ซึ่งบทความจัดอันดับท็อป10ของเอลฟฺ์ตามกระทู้นี้เลยครับ

Part 1 https://www.soccersuck.com/boards/topic/2462830
Part 2 https://www.soccersuck.com/boards/topic/2474047

เช่นเคยตามธรรมเนียมและอรรถรสในการอ่านต้องฟังซาวด์นี้ประกอบไปด้วย



ก่อนที่จะเข้าเนื้อหาหลักผมจะขอแนะนำโครงสร้างของจักรวาลนี้แบบสรุปให้ก็แล้วกัน

สำหรับผู้ปกครองสูงสุดหรือพระเจ้าในจักรวาลนี้ก็คือองค์เอรูหรืออิลูวาทาร์ พระผู้เป็นหนึ่ง



พระองค์ได้สร้างเหล่าไอนัวร์ขึ้นมาเพื่อที่จะคอยช่วยเหลือพระองค์ในการสร้างสรรพสิ่งต่างๆจากมหาคีตาแห่งไอนัวร์ หรือไอนูลินดาเล ซึ่งโลกมิดเดิ้ลเอิร์ธก็เกิดจากมหาคีตาแห่งไอนัวร์นี่แหละ



(ไอนัวร์ถ้าจะเปรียบเทียบก็คือเทวทูตนั่นแหละหรือเอาง่ายๆก็คือพวกเทพ)โดยที่เหล่าไอนัวร์นั่นแบ่งออกเป็น 2ประเภทนั่นก็คือ เทพวาลาร์กับเทพไมอาร์ โดยที่เทพวาลาร์นั้นถือเป็นเทพชั้นสูง ส่วนเทพไมอาร์จะเป็นเทพชั้นรองและเป็นบริวารของเทพวาลาร์อีกที



สำหรับรายชื่อของเหล่าวาลาร์มีดังนี้

-เทพบดีมานเว
ผู้ซึ่งเป็นกษัตริย์ของเหล่าทวยเทพ เทพแห่งท้องฟ้ามีความสามารถในการควบคุมอากาศ และพระองค์ยังมีเหล่าวิหคเป็นภาหนะส่วนตัว(เหล่าพญาอินทรีย์ที่เราเห็นๆกันล้วนอยู่ในอาณัติของพระองค์)และเป็นผู้ที่องค์เอรูโปรดปรานมากที่สุดอีกด้วย ส่วนคู่ครองก็คือ
-เทพีวาร์ดา
ผู้ทรงงดงามมีหน้าที่ควบคุมแสงสว่างในจักรวาล อีกทั้งยังเป็นที่เกลียดชังและหวาดกลัวของเมลคอร์มากที่สุด

-เทพอุลโม
ผู้ครองสายน้ำทรงฤทธาเป็นรองแค่เทพมานเวไร้คู่ครอง

-เทพอาวเล
ผู้ปกครองสารพันธาตุและงานช่างทรงฤทธาเป็นรองเทพอุลโมเล็กน้อย พระองค์ทรงสร้างงานฝีมือออกมามากมายและด้วยความที่มีความสามารถทางด้านช่างจึงทำให้เทพอาวเลสนิทกับเอลฟ์ชาวโนลดอร์มากเป็นพิเศษ เพราะชาวโนลดอร์ฝักใฝ่ในงานช่างจึงมาขอคำแนะนำจากเทพอาวเลเป็นประจำ ส่วนผลงานชิ้นเอกของแกคงหนีไม่พ้นคนแคระที่พระองค์สร้างออกมา ส่วนพระชายาก็คือ
-เทพียาวันนา
เทพีผู้ครองความอุดมสมบูรณ์

-เทพมานดรอสหรือนาโม
เทพแห่งความตายและคำพิพากษา พระองค์มีหน้าที่คอยจัดการรวบรวมดวงวิญญานตัดสินเอลฟ์ที่เสียชีวิตไปแล้ว แถมยังเป็นเทพยากรณ์แต่พระองค์จะไม่สามารถพยากรณ์หรือพิพากษาได้หากไม่ได้รับการยินยอมจากเทพมานเวเสียก่อน หนึ่งในคำทำนายที่สำคัญที่สุดก็คือความพินาศของเหล่าเอลฟ์โนลดอร์ส่วนคู่ครองคือ
-เทพีไวเร
เทพีแห่งการโชคชะตาถักทอ

-เทพลอริเอนหรือเอียร์โม
เจ้าแห่งมโนภาพ นิมิตรความฝันและความปรารถนาของโลกส่วนคู่ครองก็คือ
-เทพีเอสเต
ผู้อ่อนโยน ผู้เยียวยารักษาอาการบาดเจ็บและอ่อนล้าทั้งปวง ผู้ประทานพรแห่งการพักผ่อนอันสงบสุข

-เทพีนิเอนนา
น้องสาวของเทพมานดรอสและลอริเอน เทพีแห่งความเมตตาและความอดทนสามารถสัมผัสความทุกข์ของโลกได้ พระองค์มักเศร้าสร้อยตลอดเวลาและยังมอบความหวังผ่านการไว้ทุกข์

-เทพโอโรเม
เทพแห่งการล่าพระองค์มักออกไปล่าสิ่งชั่วร้ายทั้งมวลและรักธรรมชาติ โดยมีแตรศึกอย่างวาลาโรมา โดยมีม้านาฮาร์และสุนัขเทพฮูอันร่วมทางอยู่เสมอ ส่วนพระชายาของพระองค์คือ
-เทพีวานา
เทพีแห่งความงามและความเยาว์นิรันดร์ อีกทั้งยังเป็นตัวแทนของฤดูใบไม้ผลิและดอกไม้อีกด้วย

เทพทุลคัส
เทพแห่งพลังผู้ซึ่งกล่าวได้ว่ามีความแข็งแกร่งที่สุดในด้านกายภาพและมีความห้าวหาญมากที่สุดอีกด้วย ชื่นชอบกีฬามวยปล้ำไม่มีพาหนะ และพลังวาลาร์องค์สุดท้ายที่ลงมาในการจัดการเมลคอร์ ซึงทุลคัสเป็นคีย์แมนสำคัญมากๆ สามารถจัดการเมลคอร์ได้อยู่หมัดพระองค์มีคู่ครองคือ
-เทพีเนสซ่า
เทพีแห่งการเต้นรำน้องสาวของเทพโอโรเม มักไปเต้นรำกับเหล่าบริวารของเธอและมีความเร็วที่โดดเด่นอีกด้วย

ซึ่งตามหลักแล้วเมลคอร์หรือมอร์ก็อธก็ถือเป็นวาลาร์ด้วยแถมยังเป็นวาลาร์ที่ทรงพลังที่สุดอีกต่างหาก โดยองค์อิลูวาทาร์กล่าวว่าเมลคอร์กับเทพบดีมานเวมีศักดิ์เป็นพี่น้องกัน



นอกจากเทพวาลาร์แล้วองค์อิลูวาทาร์ก็ได้สร้างเทพไมอาร์ขึ้นมาด้วยซึ่งจะเป็นเทพชั้นรองและถูกสร้างมาเพื่อสนับสนุนงานขององค์อิลูวาทาร์และเหล่าวาลาร์ ถึงแม้เทพไมอาร์จะเป็นเทพชั้นรองก็จริงแต่ไมอาร์บางคนอาจจะทรงพลังกว่าเหล่าวาลาร์ด้วยซ้ำ โดยเหล่าไมอาร์นั้นมีจำนวนไม่แน่ชัดแต่ถ้านับตามรายชื่อก็จะมีดังนี้

เอออนเว ผู้ของเหล่าเทพไมอาร์เป็นเทพแห่งการยุทธ์ ผู้ชำนาญศิลปะการต่อสู้ การใช้อาวุธ และเป็นประกาศกประจำองค์มานเวเทพบดี

อิลมาเร อีกหนึ่งในผู้นำของเทพไมอาร์ ผู้พิทักษ์แห่งดวงดาวและเป็นนางสนองพระโอษฐ์ของเทพีวาร์ดา

เมลิอัน ราชินีแห่งความรัก ญาติองค์หนึ่งของเทพียาวันนา แต่ทำงานอยู่ในสังกัดของเทพีเอสเตในอุทยานลอริเอน ครั้งหนึ่งนางออกจากลอริเอนมาอภิบาลดูแลพืชพรรณบนมิดเดิลเอิร์ธในยุคดรุณแห่งกาล จึงได้พบกับเอลเว หรือเอลู ธิงโกล กษัตริย์แห่งเอลฟ์ชาวเทเลริ ในป่านันเอลม็อธ ต่อมาได้อภิเษกกับธิงโกล และได้เป็นราชินีแห่งอาณาจักรโดริอัธ

อาริเอน เทพีแห่งแสง มีฤทธิ์แรงกล้า จนแม้มอร์กอธยังต้องยำเกรง เป็นผู้อัญเชิญนาวาแห่งดวงตะวัน

ทิลิออน เทพองค์หนึ่งในสังกัดของเทพโอโรเม ผู้หลงใหลในแสงของพฤกษาเงิน จึงอาสาเป็นผู้อัญเชิญเกาะแห่งดวงจันทร์

ออสเซ เทพแห่งคลื่นลม เคยคิดแปรพักตร์ไปอยู่กับมอร์กอธ แต่ภายหลังกลับใจและมาอยู่รับใช้ อุลโม เทพแห่งสมุทร

อุยเนน เทพีแห่งสายน้ำ ผู้คอยรับใช้อุลโม เทพแห่งสมุทร เป็นชายาของเทพออสเซ

โอโลริน "ผู้มีฝัน" เป็นเทพในสังกัดของเทพเอียร์โม แห่งลอริเอน แต่เขามักไปเรียนรู้ความเมตตาจากเทพีนิเอนนาอยู่เสมอ เทพมานเวคัดเลือกให้เขาเป็นหนึ่งใน อิสทาริ เพื่อเดินทางมามิดเดิลเอิร์ธ เป็นที่รู้จักในชื่อ "แกนดัล์ฟ"

คูรูโม "ผู้เปี่ยมทักษะ" เดิมเป็นเทพในสังกัดของอาวเล เทพวิศวกรรม ภายหลังได้รับเลือกเป็นหนึ่งในอิสทาริ เดินทางมามิดเดิลเอิร์ธ เป็นที่รู้จักในชื่อ "ซารูมาน"

เซารอน เดิมเป็นเทพในสังกัดของอาวเล เป็นผู้ชำนาญในการสร้างสรรค์ ต่อมาแปรพักตร์ไปรับใช้เทพอสูรมอร์กอธ

บัลร็อก ชื่อเรียกกลุ่มดวงจิตไมอาร์จำนวนหนึ่งซึ่งเป็นเทพแห่งไฟ เป็นผู้คอยรับใช้มอร์กอธ

ก็อธม็อก เจ้าแห่งบัลร็อก เทพซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่มของเทพแห่งไฟ



โดยเหล่าพ่อมดที่ผมกำลังจะกล่าวถึงนั้นก็คือเหล่าเทพไมอาร์ที่โดนสั่งมาให้ทำภารกิจนี่แหละ หรือจะเรียกว่าเหล่าอิสตาริก็ได้



สำหรับเหล่าอิสตารินั้นเทพวาลาร์ได้ให้พวกเขาลงมาจุติในยุคที่3 เพื่อมาต่อต้านอำนาจของเซารอน แต่ลงมาในรูปของชายชราแต่ยังกระฉับกระเฉง ซึ่งต่อให้เวลาผ่านไปมากกว่าเดิมพวกเขาก็จะดูสูงวัยขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น โดยสาเหตุเทพวาลาร์ไม่ลงมาต่อสู้เองนั้นเพราะสงครามในครั้งก่อนสร้างความเสียหายให้แผ่นดินเป็นอย่างมาก จึงให้เหล่าอิสตาริลงมาชักจูงและชี้นำเหล่าเอลฟ์มนุษย์ และสรรพชีวิตให้ประกอบวีรกรรมกล้าหาญเท่านั้น ไม่สามารถใช้พลังได้เต็มที่ สำหรับมนุษย์จะเรียกอิสตาริว่าพ่อมด ส่วนเอลฟ์นั้นรับรู้ว่าพวกเขาเป็นทูตมาจากฝั่งตะวันตก มีทั้งหมด5คนได้แก่ ซารูมานพ่อมดขาว (Saruman the White) แกนดัล์ฟพ่อมดเทา (Gandalf the Grey) ราดากัสต์ พ่อมดสีน้ำตาล (Radagast the Brown) พัลลันโดและอลาทาร์พ่อมดสีน้ำเงิน (Pallando and Alatar the Blue)

*ผมขอขยายความยุคของมิดเดิ้ลเอิร์ธไว้ซักหน่อยละกัน ยุคแรกคือยุคที่เอลฟ์ต่อสู้กับจอมอสูรมอร์ก็อธและสิ้นสุดในสงครามพระพิโรธที่จอมมารพ่ายแพ้ไป ยุคที่2ก็เริ่มต้นขึ้นและสิ้นสุดลงเมื่ออิซิลดัวร์ตัดแหวนจากมือเซารอน(เหตุการช่วงเริ่มในLOTR) ยุค33ก็เริ่มต้นและสิ้นสุดเมื่อโฟรโด้เอาแหวนไปทำลาย

สำหรับช่วงปลายยุคที่2เริ่มต้นยุคที่3นั้นแม้ตัวเซารอนจะโดนตัดแหวนไปแล้วก็จริง แต่มันก็ไม่ได้ถูกทำลายไปอย่างถาวรแถมเหล่าบริวารของเซารอนเองเช่นวิชคิงแห่งอังมาร์ก็ไล่ถล่มอาณาจักรอานอร์อยู่ทุกเมื่อ เทพบดีมานเวที่รับรู็ตรงจุดนี้ จึงเรียกเหล่าไอนัวร์มาประชุมเพราะต้องการให้เทพไมอาร์ลงไปช่วยชี้นำผู้คนและต่อต้านเซารอน ซึ่งจะเทพไมอาร์2ตนเสนอตัวออกมานั่นก็คือ คูรูโม(ซารูมาน)กับอลาทาร์ แต่เทพมานเวได้เสนอให้โอโลริน(แกนดัล์ฟ)นั้นไปด้วย แม้เจ้าตัวจะบอกว่าไม่ค่อยอยากจะไปเพราะเกรงกลัวในอำนาจของเซารอนอยู่พอสมควรก็ตาม “รายที่สามแต่หาใช่ลำดับสามไม่” ราชินีสวรรค์เทพีวาดาร์ (Vadar) ตรัสขึ้นอย่างมีความนัยและคูรูโมก็จดจำคำพูดนี้ไว้มั่น คนที่4คือไอเวลดิน(ราดากัสต์)เทพียาวันนาขอให้คูรูโมนำเขาไปด้วย ส่วนคนที่5นั้นอลาทาร์ได้ขอให้พัลลันโดไปกับเขาด้วย


พ่อมดคนแรกและเป็นผู้นำของเหล่าอิสตารินั่นก็คือ ซารูมาน หรือ คูรูโม

สำหรับซารูมานนั้นถือเป็นผู้รับใช้หรือบริวารของเทพอาวเล เทพแห่งการช่าง วิศวกรรม สำหรับซารูมานนั้นเขาได้เสนอตัวเป็นคนแรกในการที่จะลงมาต่อต้านเซารอนยังมิดเดิ้ลเอิร์ธ ทำให้เขาได้เป็นผู้นำของเหล่าอิสตาริทั้งหมด การมาถึงของซารูมานนั้นพบเห็นโดยเคียร์ดันจอมนาวิกเจ้าแห่งเกรย์ฮาเว่นและได้ต้อนรับเขาเป็นอย่างดี เหล่าเอล์ฟขนานนามเขาว่าคูรูเนียร์ ผู้เปี่ยมทักษะหากแต่มนุษย์ในดินแดนเหนือเรียกเขาว่า ซารูมาน เมื่อมาถึงมิดเดิ้ลเอิร์ธเขาได้เดินทางไปยังฝั่งตะวันออกเพื่อไปศึกษายังที่ต่างๆ หลังจากนั้นเขาก็ได้กลับมายังฝั่งตะวันตกอีกครั้งนึง จนในที่สุดเขาก็ได้รับกุญแจแห่งออร์ธัง จากเสนาบดีแห่งกอนดอร์จึงได้ยึดเอาไอร์เซนการ์ดเป็นที่อยู่ตลอดมา พร้อมกับศึกษาข้อมูลในหอคอยจากบันทึกเก่าแก่ว่าแหวนได้สูญหายไปอย่างไร สำหรับซารูมานนั้นถือเป็นผู้ที่มีวาทศิลป์ในการชักจูงผู้คนเป็นเลิศ เขาได้ชักชวนเอลฟ์ชั้นสูงอย่าง กาลาเดรียล เอลรอลด์ก่อตั้งสภาขาวขึ้นมาเพื่อใช้ในการต่อต้านเซารอน จนในที่สุดมีพ่อมดหมอผีอย่างเนโครมันเซอร์ปรากฎตัวที่โดลกุลดัวร์และมารู้ภายหลังว่านั่นคือเซารอน สภาขาวจึงมีมติให้ไปทำลายโดลกุลดัวร์จนสามารถขับไล่เซารอนลงไปได้(ชั่วคราว) หลังจากรู้ถึงการกลับมาของเซารอนซารูมานจึงคิดจะใช้พาลันเทียร์เพื่อแอบดูความเคลื่อนไหวของเซารอน