ขอเรียกเล่น ๆ แบบเบียว ๆ ว่า saint seiya โมเดล " ท่าไม้ตายเดิม ๆ ที่ใช้กับเซนต์ไม่ได้ผลเป็นครั้งที่ 2 หรอก "


สิ่งที่สำคัญคือ หลังจากโดน fake news แล้ว พรรค อธิบายตัวพรรคเองได้ดีแค่ไหน ยกตัวอย่างเรื่อง พรรคประชาชนพม่า ซึ่งจริง ๆ แล้ว มันไม่มีอะไรเลย แต่เป็น fake news ที่เค้าจะเอามาขยายผล ถ้าฟังคำอธิบายดี ๆ พรรคไม่ได้ทำอะไรผิดเลย คนที่เขวไปเพราะเรื่องนี้สามารถกลับมาได้ไม่ยากถ้าฟังที่พรรคอธิบายดี ๆ


คือ โดน fake news ครั้งแรก คนก็จะหวั่นไหวล่ะ แต่ถ้าโดนแล้ว พรรคให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผล คนที่รับ fake news ก็จะเริ่มมีความเชื่อมั่นในตัวพรรคเพิ่มขึ้น โอเคว่ามันไม่ได้ เห็นผลในครั้งสองครั้งแรกแบบในการ์ตูนหรอก แต่ในระยะยาว จะเปลี่ยนคนที่เป็น swing vote ให้เข้าใกล้แฟนพันธ์แท้มากขึ้น ให้เชื่อมั่นในพรรคมากขึ้น


และความเชื่อมั่นนี่ ก็เป็นความเชื่อมั่นที่ค่อนข้างจะแข็งแรงด้วย เพราะเป็นความเชื่อมั่นที่เกิดจากการพิสูจน์



อีกโมเดลนึง ที่ใกล้ ๆ กันคือ เศรษฐกิจใหม่ โมเดล ในการเลือกตั้ง 62 ก็มีคนที่ไม่แน่ใจใน อนาคตใหม่ แล้วไปเลือกพรรคของมิ่งขวัญ ที่พูดเก่ง แต่aggressive น้อยกว่า ซึ่งก็ถูกพิสูจน์ไปแล้ว ว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิด

คนเฒ่าคนแก่ที่เขาไม่ค่อยตามอะไรพวกนี้ แล้วเลือกส้มเพราะพิธาหรือเลือกเพราะลูกหลานบอกให้เลือกเยอะนะ แล้วพอมาเจอข่าวพวกนี้ก็พร้อมเชื่อไปหมด

พวกนี้มันพยายามสร้างความเกลียดชังขึ้นในสังคม
เวลาบ้านเมืองแตกแยก คนที่ได้ประโยชน์สุดก็คือพวกมันนั่นแหล่ะ

พวกเหี้-

เค้าคือ swing voter นี่ครับ


ทำ/ไม่ทำอะไร เค้าพร้อมจะเปลี่ยนใจไปเลือกพรรคอื่นตลอดเวลาอยู่แล้ว


ถ้าเราสามารถ แก้ข้อวิตกของเค้าได้ครั้งสองครั้งหรือทุกครั้งเลยยิ่งดี จะทำให้ในใจเค้าใกล้ชิดพรรคมากขึ้น
จะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกัน fake news ให้เค้า และมีโอกาสเปลี่ยนให้ swing voter เป็นเสียงที่แน่นอนได้

และในทางกลับกัน ก็มีโอกาสจะเปลี่ยนฐานเสียงฝั่งตรงข้าม มาเป็น swing voter รวมถึง swing voter ของฝั่งเค้า มาเป็น swing voter ฝั่งเราด้วย



ส่วนใครจะเป็นคนแก้ข้อสงสัย ก็เป็นหน้าที่ของพรรค รวมถึงหัวคะแนนธรรมชาติแบบเรา ๆ นี่ล่ะ

หวังว่าจะเป็นแบบที่ จขกท วิเคราะห์นะครับ
แต่ต้องชื่นชม สส พรรคประชาชนเวลาเจอ Fake News เล่นงานก็ออกมาอธิบายได้ถือว่าเร็วเลย

แต่พวกเล่น Fake News นี้อย่างเxี้ยเลย ล่าสุดเขียนถึง สส แก้วตา แล้วรูปเป็นรูปที่ตัดต่อคือเป็นรูปอยู่ในสภาแต่ป้ายพรรคเป็นภาษาพม่า แต่ล่าสุดมาแก้ข่าวลงรูปเปรียบเทียบรูปจริงกับรูปที่ตัดต่อ อ้างไม่รู้ว่าเป็นรูปตัดต่อ สงสัยกลัวจะโดนฟ้อง

คนแก่หลายคนเจอเฟคนิวแล้วฟังหัวฝังสมองไปแล้วครับ อย่างคำว่าไอ้พรรคล้มเจ้าเนี่ยแก้เท่าไหร่

ก็แก้ไม่หายเลย โดนตราหน้าถึงกับขนาดยอมเลือกพรรคโกงกินบ้านเมืองดีกว่าพรรคล้มเจ้าอย่างนี้

เลือกตั้งล่าสุดที่บ้านผมก็เหตุผลนี้เลย คะแนนฝั่งนั้นถึงแทบไม่ไหลมา

ผมว่าคนในสังคมไทยส่วนใหญ่มันไม่เหมาะกับการมานั่งถกเถียงทำความเข้าใจประเด็นยากๆ ส่วนใหญ่ชอบแบบรับชุดข้อมูลมาดิบๆแล้วให้เชื่อเลยใช้ได้เลยนั่นแหละ แล้วพอมาเรื่องนี้ไอ้คนส่วนใหญ่มันเชื่อนะ