ถ้ารู้ว่าตัวเราเองไม่ไหวก็ออกมาครับ

ผมกับแฟนเก่าครับ หนักมากๆ ซึ่งตอนแรกผมเองก็เครียดสุด ๆ และไม่เข้าใจภาวะการ move on จากเรื่องเศร้าหรือเรื่องที่ผิดหวังไม่ได้ หนักถึงขั้นว่า นั่งทำงานอยู่ดีๆ ก็ร้องไห้ มองเห็นคนอื่นมีความสุขก็ร้องไห้ ไม่มีความสุขเลยแม้แต่วันเดียว สุดท้ายตัดสินใจไปหาหมอ รับยา และประคับประคองกันไป ใช้เวลาประมาณปีครึ่ง เค้าถึงกลับมาไกล้เคียงคนปกติ ผมเองก็กลายเป็นคนใจเย็นมากๆ แบบไม่รู้ตัวไปด้วย สุดท้ายเค้าก็หายครับ

แนะนำไปดูซีรียส์เรื่อง love next door ในเนทฟลิกครับ

เผื่อท่านจะได้แรงบันดาลใจว่าจะ move ต่อไปยังไง

ทั้งนี้ไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็ไม่มีใครผิดครับ

กินยาครับ มันช่วยได้จริงๆ ถ้ากังวลว่าหาหมอจิตแล้วแพง คิวยาว แถมเบิกไม่ได้

ให้ลองไปหาหมอร่างกายก่อนครับ เช่น ประสาทและสมอง แล้วบอกอาการที่เป็นแต่ให้อิงด้านกายภาพเข้าไปด้วยครับ

พยาบาลที่รู้งานจะแจ้งเราก่อนเลยว่า ถ้าพบว่าปัญหาเกิดจากจิตไม่ใช่กายจะเบิกไม่ได้นะ แต่มปรครับ

พอผ่านไปถึงพบแพทย์ค่อยเล่าปัญหาครับ หมอที่เข้าใจเค้าจะประเมินเราเองครับว่าถึงขั้นซึมเศร้ามั้ยหรือยังไง

แล้วสุดท้ายจะจบที่ยาคลายกังวลซักประเภทครับ อาจจะเป็น nortriptyline

โดยเราจะจ่ายเองแค่ค่ายา ส่วนค่าพบแพทย์เบิกได้ตามประกันปกติครับ

ดูแนวโน้มว่าเขาอยากหายไหม มีความพยายามศึกษาและทำความเข้าใจในสิ่งที่เขาเป็นไหม ต่อให้ทีละน้อยถ้าเขามีความพยายาม ไปหาหมอ ทำความเข้าใจตัวเอง เดี๋ยก็ค่อยๆ ดีขึ้น อาจจะใช้เวลาซักพัก

แต่ถ้าเขาไม่พยายามด้วยตัวเองด้วย ไม่ว่าเราจะพยายามช่วยแค่ไหน ยังไงก็เหนื่อยแบบไม่ทีสิ้นสุด

เลิก
ใครในชีวิตผมที่เป็นโรคพวกนี้ผมจะพาตัวเองออกห่างเพราะผมไม่อยากจมลงไปด้วย
ไอ้วิธีการขู่จะฆ่าตัวตายไรพวกนี้มันคือ guilt trip ทำให้คุณทำอะไรไม่ได้เพราะรู้สึกผิด ลองหาข้อมูลดูครับ อย่าไปแพ้อะไรพวกนี้

เข้าใจจริงๆนะ คือมองเห็นตัวเองเลย เพราะเราก็เคยเป็นค่ะ เป็นซึมเศร้าแล้วก็ ทำแต่เรื่องประสาทๆ

ไปหาหมอ หลายโรงพยายาลนะ แต่มาจบที่ รพ.มนารมย์ดีขึ้นเยอะจนไม่ต้องไปหาหมอแล้ว

แต่สุดท้ายก็เลิกกับแฟนอยู่ดี ตอนนี้เพิ่งมารู้ตัวว่าทำตัวแย่ขนาดไหนเวลานั้น คนที่อยู่กับเราต้องทนเราขนาดไหน

ความผูกพัน ความตั้งใจอยากรักษาของเขา และความรู้สึกอยากช่วยของคุณแค่ไหนครับ ลองชั่งน้ำหนักกันดู ถ้าไหวเอาเค้าออกมาจากจุดนั้นได้ คุณจะเป็นคนที่ช่วยชีวิตเค้าได้เลย แต่ถ้าไม่ไหวก็ออกมา แต่อย่าลืมเล่าอธิบายให้บ้านเขาฟังจะได้ช่วยดูแลแทนคุณ

ซึมเศร้าปลอม เพื่อสร้างความชอบธรรมรึเปล่า

ต้องอยู่ด้วยครับ เรื่อยๆ

ตอนผมผมแม่งก็เครียดเหมือนกันนะ เอะอะร้องไห้ แบบเหหวอจริง

จากเขาเครียดคนเดียวจนผมเครียดไปด้วย

ให้กำลังใจไปเรื่อยๆ ตอนหายแล้วมองกลับไป แฟนก็ได้แต่กล่าวว่าขอบคุณที่พาผ่านช่วงเวลานั้นได

แอบดีใจเหมือนกัน

พาไปหาหมอ ค่อยเป็นค่อยไป แล้วก็ระวังตัวท่านเองจะเป็นตามครับ

ซีรีย์ daily dose of sunshine ก็เล่าเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ดีนะครับ

พาไปหาหมอ โรคนี้ทำให้หายได้ อย่าเพิ่งทิ้งเขา

ลองแยกแยะทีละชั้นดูครับ แล้วหาคำตอบ

ว่ามัน toxic มาจากอาการซึมเศร้า

หรือมัน toxic มาจากนิสัยส่วนตัว



โรคซึมเศร้าจริงๆมันตรงตัวมากนะ มันทำให้เศร้า หดหู่ สิ้นหวัง เสียความมั่นใจ ลังเลใจ

แต่ถ้ามันลามมาโทษคนอื่น ขู่คนอื่น แสดงว่ามันมีนิสัยอื่นประกอบกัน



คนเป็นซึมเศร้าหลายคนที่ผมรู้จัก นิสัยดีมากๆ

คือไม่อยากให้ท่านเข้าใจผิดคิดว่าทุกอย่างแย่ๆที่แฟนเป็น มันมาจากแค่โรคซึมเศร้าอย่างเดียว

ละก็ไม่อยากให้บางคนเหมารวมว่าคนเป็นซึมเศร้าจะต้องนิสัยแย่



แยกได้เมื่อไหร่ค่อยคิดครับว่าจะทำยังไงต่อ

ปลง

พูดได้แค่ว่าคนเราเกิดมาชีวิตเดียว

มีแค่เราที่อยู่กับเราจนวันสุดท้าย

จากใจคนที่เคยอยู่กับคนที่ป่วยเป็นโรคนี้