เครดิต https://www.facebook.com/photo/?fbid=492045680376068&set=a.140392518874721

ทีมชาติไทย อายุไม่เกิน 23 ปี เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว หลังจากที่แต่งตั้ง ทาคายูกิ นิชิกายะ ชาวญี่ปุ่น เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน

ล่าสุดฝ่ายเทคนิค นำโดย ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน และ “เดอะ ตุ๊ก” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ได้สรรหาทีมงานสต๊าฟฟ์โค้ชเพื่อช่วยงานของ นิชิกายะ ซึ่งมีการพบปะกันเป็นที่เรียบร้อย คือ สุธี สุขสมกิจ (โค้ชกองหน้า), สินทวีชัย หทัยรัตนกุล (โค้ชผู้รักษาประตู) และ “เสธ.เต้ย” ภาณุพงศ์ ผิวอ่อน (โค้ชกองหลัง)

“เดอะ ตุ๊ก” เปิดเผยว่า นิชิกายะ ได้ดูโปรไฟล์ของทุกคนและตัดสินใจด้วยตัวเอง โดยทุกคนมีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ ส่วนเหตุผลในการเลือกทั้ง 3 คนมาเป็นสต๊าฟฟ์โค้ช คือ …

1️⃣ สินทวีชัย : “เป็นผู้รักษาประตูทีมชาติไทยที่ทุกคนให้การยอมรับและมีไลเซนส์ตามที่ ฟีฟ่า และ เอเอฟซี กำหนด ซึ่งผมได้ติดต่อเขาไปและ สินทวีชัย ก็สนใจ จึงตัดสินใจเข้ามาเป็นโค้ชผู้รักษาประตู”

2️⃣ สุธี : “เคยไปค้าแข้งที่ต่างประเทศ ออสเตรเลีย, สิงคโปร์ และเป็นดาวซัลโวไทยลีก ฉะนั้นความสามารถไม่ต้องพูดถึง ซึ่งผมเองอยากให้มีโค้ชกองหน้า และ สุธี ก็ตอบโจทย์”

3️⃣ ภาณุพงศ์ (เสธ.เต้ย) : “เกิดขึ้นจากที่เราได้พูดคุยภายในสมาคมฯ ต้องการโค้ชรุ่นใหม่ที่จบ โปร ไลเซนส์ ซึ่งจุดประสงค์ที่สมาคมฯ เปิดอบรมโปรฯ ก็เพื่อให้มีบุคลากรมาช่วยงานสมาคมฯ แต่จริงๆ แล้วมีคนอื่นๆ ที่โปรไฟล์ใกล้เคียงกัน แต่ติดตรงที่มีสโมสรกันหมดแล้ว ขณะเดียวกันยอมรับว่าผมเป็นพ่อก็ได้ซัพพอร์ต ซึ่งไม่ผิดหลักเกณฑ์อะไร ถ้าผิดจะไม่ทำ และ เสธ.เต้ย ช่วยงานสมาคมฯ ตั้งแต่ยุคของท่าน พล.ต.อ.สมยศ แล้ว และตอนนี้ก็เป็นวิทยากรของ AFC, เคยเป็นนักฟุตบอล รวมถึงเป็นคนรุ่นใหม่ของวงการฟุตบอลไทย”

“เดอะ ตุ๊ก” กล่าวต่อว่า นิชิกายะ เป็นผู้ตัดสินใจด้วยตัวเองทั้งหมด และหากร่วมงานกันแล้ว 3 เดือน หรือ 6 เดือน เกิดทำงานไม่ลงล็อคกันก็สามารถเปลี่ยนได้ เพื่อความสบายใจ

⚽️ สำหรับ ทีมชาติไทย ยู 23 จะเริ่มเข้าแคมป์แรกเดือน ต.ค.67 (ฟีฟ่า เดย์) โดย นิชิกายะ และทีมงานจะเดินทางไปดูฟอร์มนักเตะ ซึ่งเมื่อวานนี้ (18 ก.ย.67) ไปชมเกม PEA U23 Youngster League 2024 ระหว่าง ระยอง พบ พัทยา ยูไนเต็ด

ห๊ะ

คนฟุตบอลมั๊ยล่ะ

อยากให้โค้ชกองหน้าเป็นโค้ชต่างชาติที่สอนเอาแบบดีๆไปเลย จบสกอร์จริงๆมาเทรนกองหน้าทีมชาติเราเพราะหลุดเดี่ยวไปทีไร ไม่เคยมั่นใจว่าเข้าแน่ๆสักที

สุธีไม่ใช่ไม่ดีแต่ก็เห็นแล้วกองหน้าไทยที่ยิงถล่มทลายจริงๆมีน้อยมากจะมั่นใจได้แค่ไหน

คนไทยที่เห็นว่าจบสกอร์คมๆในมุมมองผมมีสองคน ปิยะพงษ์กับเนติพงษ์
ที่น่าจะโค้ชกองหน้าแบบใช้ประสบการณ์ ถ้าไม่ได้ก็เอาต่างชาติแบบของจริงลงทุนไปเลยเพราะฟุตบอลมันชนะกันด้วยประตูควรลงทุนตรงนี้มากๆหน่อย

เห็นชื่อชาญวิทย์แล้วหงุดหงิดชิบ

เอา ปธ เทคนิคไปเก็บก่อน มันไม่มีดีกว่านี้จริงๆดิ

ค่อนข้างมั่นใจ ว่าไม่ได้เรื่อง เหมือนเดิม

การยังเรียกสตาฟฟ์โค้ชว่าโค้ชกองหน้า โค้ชกองหลัง แสดงว่าเอาใจแฟนบอล ทั้งที่สากลเขาไม่มีกันหรอก โค้ชกองหน้า โค้ชกองกลาง โค้ชกองหลัง

ยกเว้นโค้ชประตู โอเค อันนั้นตำแหน่งเฉพาะ มีมานาน

ก็เดิมๆ ตามมีตามเกิดกันไป