เจมี่ คาร์ราเกอร์ ตำนานลิเวอร์พูล เตือนบรรดานักฟุตบอลกำลังถูกใช้งานเหมือนวัวเหมือนควาย หลังมีการเพิ่มโปรแกรมฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลกเข้ามาในซัมเมอร์นี้

ทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวจะจัดขึ้นเป็นหนแรกระหว่าง 15 มิ.ย. - 13 ก.ค. ปีหน้า โดยจะลงสนามกันที่สหรัฐอเมริกา

ปัจจุบันโปรแกรมการลงสนามฟุตบอลทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างมาก และในฤดูกาลนี้มีการขยายแชมเปี้ยนส์ ลีก รวมถึงฟุตบอลโลก 2026 ก็จะเตะกันถึง 48 ทีม

"นานมาแล้วฟุตบอลคือการเล่นเกมลีกในประเทศ การแข่งขันฟุตบอลยุโรป และเราทุกคนรู้ดีว่ามีทัวร์นาเมนต์ทีมชาติทุกๆ 2 ปี" คาร์ราเกอร์ กล่าว

"ผมคิดนะว่า ผู้คนส่วนใหญ่ก็โอเคกับอะไรแบบนี้"

"ปัญหาของผมคือเมื่อคุณเริ่มก่อร่างสร้างทัวร์นาเมนต์ใหม่ๆ ขึ้นมา มันเป็นเพียงเพื่อเงินเท่านั้น"

"ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ตอนจบฤดูกาล ถูกคาดว่าจะเป็นการให้สโมสรที่ดีที่สุดในโลกมาร่วมกันสร้างทัวร์นาเมนต์ใหม่ แต่ไม่มีใครอยากลงเตะหรอกนะ"

"ไม่มีใครสักคนที่ตื่นเต้น ไม่มีทางเลยที่คุณจะมีทัวร์นาเมนต์ที่นั่นแล้วบอกนักเตะระดับท็อปของโลกว่า นายมีเวลาพักแค่ซัมเมอร์เดียวทุกๆ 4 ปี"

"เป็นไปไม่ได้ นักเตะที่เก่งที่สุดในโลกกำลังถูกปฏิบัติเหมือนวัวเหมือนควาย และเป็นสโมสรต่างๆ ที่พวกเขาเล่นให้อนุญาตให้มันเกิดขึ้น"

"สำหรับพวกเขาแล้วนี่คือรายการปั่นเงินอีกทัวร์นาเมนต์เท่านั้น หนทางเดียวที่จะหยุดได้คือ คนที่มีชื่อเสียงอย่างโรดรี้ หรือนักเตะดังคนอื่นๆ ต้องร่วมมือกันแล้วพูดว่า "มันพอแล้ว"

"ลืมเรื่องไร้สาระที่ว่าพวกเขาได้เงินมากมายเท่าไหร่ไปได้เลย เหมือนที่อองรีบอก คุณอยากเห็นนักเตะที่เก่งที่สุดในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด และเราจะไม่ได้เห็นเพราะพวกเขาโดนฉุดลงมา"

ยังมีอีกหลายอาชีพที่ควรเรียกแบบนั้นมากว่าทะ้งจำนวนงานเทียบกับค่าจ้างที่น้อยเท่า...มด
แต่สโมสรก็ควรจัดการเรื่องขนาดทีมกับจำนวนแข่งให้ดีนั่นแหล่ะ ไม่งั้นก็แย่กันหมด

พี่ช่วยไปดูสลิบเงินเดือนด้วย
คนทั่วไปเงินเดือนหลักพันยูโร
นี่วีคเดียวได้กันหลายแสน

ถ้ามันไร้สาระมาก งั้นเริ่มจากลดค่าจ้างก่อนเลย เดี๋ยวเกมลดตามมาเอง

ตอน nba บ่นแบบนี้ ลีคบอกลดเกมก็ต้องลดเงิน เงียบกริ๊บเลย

ก็เพราะสโมสรพวกพี่หักหลังยูฟ่า จะไปจัด Super leauge มิใช่รึ ทำให้ยูฟ่าไม่มีทางเลือก

แล้วถ้า Super leauge เกิดขึ้นจริง คิดว่าจำนวนนัดที่ลงแข่ง จะน้อยกว่านี้หรือ

โกยได้รีบโกย อาชีพนักบอลมันสั้น อายุ 30 กว่าก็เลิกเตะแล้ว

อ๋อ พอได้เงินเดือนเยอะ ก็ต้องออกแรงเยอะว่างั้น อย่าเอาคุณค่าตัวเองซึ่งไม่มีค่าอะไรเลย ไปเทียบกับนักเตะที่ไปค้าแข้งระดับโลกเลยครับ เขาฝ่าฟันอะไรมาบ้างกว่าจะไปยืนที่จุดนั้น กว่าจะได้ค่าจ้างเท่านั้น ไม่ต้องดูอะไรให้ไกลนะ ตรงจุดนั้น เคยมีคนไทยมีค่าพอจะได้ไปยืนไปรับค่าจ้างระดับนั้นแล้วกี่คน พูดอย่างกับเขาทำงานแบกข้าวสาร

สำหรับผมเรื่องนี้มันก็เหมือนกันทุกอาชีพ เดี๋ยวถ้ามันไม่คุ้มเหนื่อยก็ไม่อยากเป็นกันเอง ไม่ว่าอยากมีความฝันเป็นนักบอลหรือเป็นแล้วไม่ทุ่มเทเต็มร้อย สำหรับผมอาชีพที่มีค่าเหนื่อยมหาศาลมันต้องดิ้นรนแข่งขันกันอยู่แล้ว ถ้าคิดว่าเหนื่อยเกินก็ไม่ต้องทุ่มเท เดี๋ยวถ้าคนอื่นทุ่มเทกว่าแซงก็ยอมรับกันไป ถ้าเกินใช้แรงงานหนักเกินจนมีผลตามมาไม่ว่าคุณภาพตกหรืออะไร ถ้ารายได้ลดจนการแข่งขันน่าเบื่อ รายได้ลด เดี๋ยวองค์กรก็ต้องปรับตัวเอง

งานเพิ่ม ค่าจ้างเพิ่ม แค่นั้นเองเพิ่มแมทช์ก็จ่ายเพิ่มไป ใครไม่อยากเตะก็ไม่ต้องเอา

ที่บ่นๆเผลอๆมันก็จะไปเตะกันหมดนั้นแหละ ก็คงไม่เหนื่อยไม่กลัวเจ็บอีกต่อไป 55555555

ควรลดโปรแกรมทีมชาติ

เอาจริงๆ พูดแบบใช้เหตุผล

ถ้าไม่อยากเตะก็ ก็บอกสโมสรไปเลยว่าผมไม่เตะรายการนี้ ผมเหนื่อยอยากพัก

มาบ่นผู้จัด เขาก็ไม่ได้บังคับคุณเตะ แต่จุดเริ่มต้นก็คือผู้จัดหิวเงิน

ค่าแรงเพิ่ม หาเงินเพิ่ม ยูฟ่าเลยจัดให้ เพิ่มทีมเพิ่มการแข่ง ส่วนตัว ระบบใหม่ ucl แข่งกัน 8 นัดทีมเล็กน่าจะไม่ได้เกิด ส่วนที่ม 9-24 ต้องมาเพลย์ออฟเหย้าเยือนอีก โปรแกรมซุก เพิ่มจากเดิมจากที่แข่ง 6 นัดเข้ารอบ 16 ทีมเป็นแข่ง 10 นัดฮ่าๆ

ก็ใช้เงินกันอย่างกับเป็นโรงพิมพ์ธนบัตรละ

คนจ่ายค่าแรงก็ต้องอยากได้รายได้เยอะๆมาจ่ายค่าแรง

ถ้าจะเพิ่มเกมก็น่าจะปรับเปลี่ยนกฎอื่นๆ ให้มันสอดคล้องกันนะ เช่น เพิ่มจำนวนนักเตะที่ลงทะเบียนได้ จำนวนตัวสำรองข้ามสนามและที่สามารถเปลี่ยนได้ในแต่ละเกม คราวนี้ทีมต่างๆ จะได้มีนักเตะหมุนเวียนได้มากพอ เหมาะสมกับจำนวนเกมที่ต้องเล่น

เรื่องอื่นๆ ที่ควรจะต้องทำไปด้วยก็คือเรื่องเพดานค่าเหนื่อย เรื่องการเงินอื่นๆ ด้วย ไม่งั้นทีมเล็กก็ตายหมดเหมือนกัน

ส่วนตัวไม่รู้รายละเอียดทั้งหมด แต่คิดว่าแนวทางของ Salary Cap ของ NFL ก็น่าจะเอาศึกษา/ปรับใช้อยู่นะ

คือถ้าเพิ่มเกมอย่างเดียว แล้วทุกอย่างเหมือนเดิมแบบนี้มันก็กลายเป็นบังคับให้นักเตะลงเตะมากขึ้นเรื่อยๆ เสี่ยงบาดเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ โดยที่ตัวนักเตะไม่ได้อะไรกลับมา

แต่ค่าเหนื่อย7วัน ของนักเตะสมัยนี้ โดยเฉพาะในระดับตัวหลักของทีมชั้นนำที่เจอโปรแกรมเตะเยอะ เนี่ย 100,000ป ++ ทั้งนั้นเลยนะ


มันคนละเรื่องกับค่าเหนื่อยสมัยก่อนเลย

ค่าตอบแทนสูงขึ้นมันก็ต้องทำงานมากหน่อยแหละ


มันไม่เกี่ยวกับคุณค่าอะไรหรอก
ไม่เกี่ยวกับโลกสวยหรือไม่ด้วย

มันคือ demand - supply
ถ้างานมันไม่คุ้มเงิน หรือเงินมันไม่คุ้มเหนื่อย
คนจ้างก็จ่ายไม่ไหว หรือคนทำงานก็ไม่โง่ทำงานต่อหรอก

ลองเสนอสิว่า จะลดเงินค่าจ้าง ถ้าลดโปรแกรมลง
ผมว่านักบอลเลือกเงินอ่ะ เวลาทองเค้ามีค่า

โค้ชสามานถโรเตชั่นได้นะ

เงินเดือนนักบอลก็เยอะกว่าอาชีพอื่น แถมเขาห้ามขาดลามาสาย

ส่วนนักบอลในทีมมีคนแทนตลอด แค่นี้บ่นเหนื่อย