ทำไม บลู ถึงตัดสินใจ สร้างทีมใหม่ ในเมื่อ จอร์แดน และ สตาร์ในทีมน่าจะพร้อมลุยต่อ เห็นในสารคดีให้เจ้าของทีมมาพูดเรื่องนี้แล้ว แต่ยังไม่ค่อยเข้าใจครับ

เป็นความคิดและจุดยืนที่แตกต่างกันของนักกีฬา กับ ฝ่ายบริหาร ที่ยังใหม่ ยังไม่มีบทเรียนในอดีตให้เรียนรู้เท่าไหร่ครับ

ฝ่ายบริหารมองว่า นักกีฬาอายุเฉลี่ยแก่เกิน ถึงเวลารีบิ้วสร้างทีมใหม่แล้ว
นักกีฬายังมีราคาเพราะเพิ่งคว้าแชมป์ รีบเทรดเอาสิ่งดีๆ กลับมาก่อน
เพราะไม่มีใครรู้ว่า ฤดูกาลถัดไปจะฟอร์มดีแค่ไหน ถ้าฟอร์มตก มูลค่าในการเทรดก็ตก

*** และสมัยก่อนมีความเชื่อฝังหัว ว่าอายุ30+ คือแก่มาก แก่เกินจะแข่งขันกีฬา (ไม่ใช่แค่บาส กีฬาหลายประเภทเลย)

ส่วนนักกีฬา ความมั่นใจเป็นรากฐานสำคัญ พวกเขายังมองว่ากลุ่มตัวเองเจ๋งที่สุดอยู่ ยังมีโอกาสคว้าแชมป์ได้อีกสมัย

---------------------
ยุคนี้ ฟังสัมภาษณ์ปีที่แล้วของกรีน เคลย์ เคอรี่ พวกนี้ก็ยังคิดว่าตัวเองเจ๋งสุดๆ อยู่ (บอกจะพา CP3คว้าแชมป์แรก)

เขายังมีศักยภาพจะคว้าแชมป์ได้ ขณะที่มุมมองคนนอก
มองว่า เคลย์หมดแล้ว / กรีนก็ไม่ใช่ฟอร์มระดับ DOPY /เคอรี่ คนก็มองว่าไม่ฟิต ไม่เร็วเหมือนแต่ก่อนแล้ว

---------------------

สรุป ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง และไม่มีการเรียกประชุมปรับความเข้าใจกันครับ มันเลยออกมาอย่างที่เห็น

เจอรี่คราว ไม่เอา ฟีล แจ็คสัน แล้วรึเปล่าครับ ไม่แน่ใจ

เป็นความคิดและจุดยืนที่แตกต่างกันของนักกีฬา กับ ฝ่ายบริหาร ที่ยังใหม่ ยังไม่มีบทเรียนในอดีตให้เรียนรู้เท่าไหร่ครับ

ฝ่ายบริหารมองว่า นักกีฬาอายุเฉลี่ยแก่เกิน ถึงเวลารีบิ้วสร้างทีมใหม่แล้ว
นักกีฬายังมีราคาเพราะเพิ่งคว้าแชมป์ รีบเทรดเอาสิ่งดีๆ กลับมาก่อน
เพราะไม่มีใครรู้ว่า ฤดูกาลถัดไปจะฟอร์มดีแค่ไหน ถ้าฟอร์มตก มูลค่าในการเทรดก็ตก

*** และสมัยก่อนมีความเชื่อฝังหัว ว่าอายุ30+ คือแก่มาก แก่เกินจะแข่งขันกีฬา (ไม่ใช่แค่บาส กีฬาหลายประเภทเลย)

ส่วนนักกีฬา ความมั่นใจเป็นรากฐานสำคัญ พวกเขายังมองว่ากลุ่มตัวเองเจ๋งที่สุดอยู่ ยังมีโอกาสคว้าแชมป์ได้อีกสมัย

---------------------
ยุคนี้ ฟังสัมภาษณ์ปีที่แล้วของกรีน เคลย์ เคอรี่ พวกนี้ก็ยังคิดว่าตัวเองเจ๋งสุดๆ อยู่ (บอกจะพา CP3คว้าแชมป์แรก)

เขายังมีศักยภาพจะคว้าแชมป์ได้ ขณะที่มุมมองคนนอก
มองว่า เคลย์หมดแล้ว / กรีนก็ไม่ใช่ฟอร์มระดับ DOPY /เคอรี่ คนก็มองว่าไม่ฟิต ไม่เร็วเหมือนแต่ก่อนแล้ว

---------------------

สรุป ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง และไม่มีการเรียกประชุมปรับความเข้าใจกันครับ มันเลยออกมาอย่างที่เห็น

เข้าใจคิดเยอะครับ ขอบคุณครับ

เพราะเรารู้บทสรุปแล้วไงครับว่าฝ่ายไหนถูก แต่ ณ ตอนนั้นมันยัง debate กันอยู่

เสริมจากท่านประตูขึ้นนำคือ ตอนก่อนซีซั่น 98 ยังมีลังเลว่าจะไปต่อ

แต่ร็อดแมนก็เริ่มปล่อยจอยขึ้นเรื่อยๆ พอพิพเพ่นเจ็บแล้วเจอร์รี่ เคร๊าซ์เลยพยายามเทรดพิพเพ่นเสนอดีลไปให้ทั่วทั้งลีค

ตรงนี้แหละที่ทำให้ทีมแตกหักปิดล็อคทุกอย่างที่ทำให้ไปต่อได้

มันถึงจุดที่ไปต่อไม่ไหวแล้ว

เคราซ์กับฟิล แจ็คสันคือเกินจะต่อกันติด

MJ ไม่เอาเคราซ์อยู่แล้ว ไม่มีฟิล MJ ก็ไม่เล่น

พิพเพนหมดสัญญาที่เซ็นไว้ยาว 7 ปีแบบโคตรถูก แกเรียกร้องสัญญาสูงขึ้นแต่เคราช์คิดว่าแกแก่แล้ว

ร็อดแมน ถ้าไม่มี MJ ก็ไม่มีใครคุมแกได้


ที่จริงคือเข็นมาถึงแชมป์ปี 98 นี่คือเต็มที่แล้ว

ไม่น่ามีอะไรมาก มันก็มองว่าก็ได้แหวนมาแล้ว

ทีมค่อนข้างจะไม่ไหวแล้วด้วย ซึ่งมันก็จริงนะได้แชมป์แบบไม่มีใครคิดว่าจะแชมป์(คือมันก็เก่ง แต่มันมีทีมที่เก่งกว่า) แล้วก็เลยจะระเบิดทีม เตรียมทีมยุคใหม่ แต่พอมาได้แหวน เลยต้องไปกันต่อ จนมาได้อีกวง สตอรี่มันก็ไปอีกทาง มันก็ไปเข้าทางผู้เล่นหมด

document มันมองย้อนหลัง แถมเอาตอนจบแบบตำนานมาทำเนื้อหาชัดเจน ทำมาเพื่อMJ

เจอร์รี่ก็เสียชีวิตด้วย ไม่ได้มีส่วนรวมในการทำสารคดีนี้เลย มันก็เลยเป็นมุมมองฝั่งอวยผู้เล่นทั้งหมด

เรื่องฟิล เรื่องมันสรุปเหมือนว่าเจอรรีเป็นคนกดดันให้ฟิลออก ก็จริง แต่ฟิลก็ไม่ได้อยากจะอยู่สร้างทีมใหม่ด้วย บอกหมดละไม่อยากเป็นโค้ชละวางมือ แต่พอเจอเลเกอร์ จีบ ไปอย่างไวเลย

ถ้าเล่นต่ออีกปี ก็ไม่มีอะไรการันตีแชมป์ แต่ที่แน่ ๆ คือทีมจะอ่อนลงชัวร์ ถ้าเก็บพิพเพ่นไว้แล้วจะเอาใครออก จะเทรดใครเข้ามา ?

แต่ถ้าระเบิดทีม ผู้เล่นก็ยังพอมีค่าเอาไปเทรด แต่เป็นผมคงเลือกเก็บผู้เล่นชุดนี้ไปสุด ๆ ก่อน ให้เต็มที่สมกับที่เขาสร้างตำนานมา