ท่านว่ามีส่วนไหม ที่เลือกกันๆ เพราะตอนนั้น
คนกลุ่มหนึ่งเลือกก้าวไกลเพราะอุดมกาลพรรค+อยากเห็นแนวทางประเทศใหม่ (คนรุ่นใหม่)
คนกลุ่มหนึ่งเลือกก้าวไกลเพราะไม่เอาประยุทธ์

มีเพื่อนบอกผมว่า ที่ได้เยอะเพราะไม่เอาประยุทธ์ส่วนหนึ่ง ไม่ใช่เพราะเลือกพรรคทั้งหมด
ไม่ได้หมายความว่า ไม่ได้เอาระบบเก่าๆแบบทักษิณ (สังคมผู้สูงอายุ)
เห็นไหม อบจ ท้องถิ่นแพ้หมด สสซ่อมก็ยังแพ้

เพราะตอนนี้มันเป็น พรรคประชาชนvsพรรคแดง คะแนนมันเลยเป็นแบบที่เห็น

ผมละเถียงไปก็เปล่าประโยชน์อยากให้ถึง3ปีไวๆวะ
ความคิดไม่ตรงกัน ก็ต้องมีคนเสียเงินละวะ

แยกเป็นเรื่องๆ

ปี 66 เรื่องคนมาเลือกเพราะไม่เอาลุง เกี่ยวมากๆ ก้าวไกลคือพรรคเดียวที่ชัดว่าไม่เอาลุง + เสน่ห์และความสามารถส่วนตัวของพิธา

ส่วนเรื่องเลือกตั้งซ่อมพิษณุโลก แพ้เพราะนายกอบจ. พลังประชารัฐ กลุ่มประชาธิปัตย์ กลุ่มเหลือง มาทุ่มให้เพื่อไทยหมด อย่าดํถูกพลังเครือข่ายท้องถิ่น อสม. พวกนี้มาเป็นหัวคะแนนให้เพื่อไทยหมด

มีส่วนเยอะมากครับ เพราะเพื่อไทยแทงกั๊ก คะแนนเลยมาส้ม

รอบหน้าก็ไม่แน่ สิงี้

มันคนละสนามกันนะสิ

สนามใหญ่ 66 มีเราไม่มีลุง ก็ชัดเจนว่าเป็นพรรคเดียวที่น่าเชื่อถือที่สุดว่าจะไม่เอาลุงจริงๆ คนเลือกจากจุดนี้เยอะ
สนามท้องถิ่น เลือกตั้งซ่อม มันไม่มีภาพลุงละ มันเป็นเรื่องงบท้องถิ่น กับรัฐบาลที่ยังมีอำนาจอย่างมาก 3 ปี เพราะงั้นฝ่ายค้านมันสู้ยาก แถมเจอ 1 vs all ไม่มีเลือกตั้งนอกเขตล่วงหน้า ยิ่งยากไปอีก

คะแนนก้าวไกล (ผมคิดเอาเองนะ อาจผิดมากกว่าถูก)
1. กระแสความต้องการพรรคใหม่ คนรุ่นใหม่ เข้ามาทำงาน
2. เสน่ห์คุณพิธา
(1+2 กลุ่มใหญ่สุด)

3. เบื่อลุงสุดๆ
4. อุดมการณ์ นโยบาย

รอบหน้า
-แม้เสน่ห์คุณพิธาจะหายไป แต่ยังได้กระแสความต้องการพรรคใหม่ คนรุ่นใหม่อยู่
-กลุ่มอุดมการณ์ ก็เพิ่มขึ้น

ถ้าเพิ่มกลุ่มคนเบื่อทักษิณ เบื่อเพื่อไทย ไม่ชอบอุ๊งอิ๊ง ให้มากขึ้นๆ ก็แทบการันตีว่าชนะถล่มทลาย

เรียกว่า ชัยชนะอยู่ในพรรคส้มแล้ว

ที่เหลืออยู่ที่ว่า จะปิดเกมส์ได้ไหม หรือพรรคอื่นจะแก้เกมส์ แก้กติกา ยังไงแล้วล่ะครับ

เอาเฉพาะคนรู้จักหรือคนที่ทำงานด้วย เลือกเพราะไม่เอาลุง ไม่ได้สนว่านโยบายอะไร เพราะไม่ดู ไม่ตาม แค่ไปเลือก และไม่ติดตามผลงานหลังจากนั้นด้วย

แค่เลือกเพราะไม่เอาลุงเท่านั้น หลายคนที่ได้รู้จักส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ตามการเมือง ไม่รู้ว่าโซนอื่นเยอะไม่ แต่ตรงผมเยอะประมาณนึงเลย บางคนตอนนี้จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ากาใครไป สส ชื่ออะไร

ผมเลือกก้าวไกล 2 ใบ เหตุผลเพราะ คิดว่าแดงจะแลนด์สไลด์ อยากให้ก้าวไกลได้เยอะๆ ชอบเชียร์มวยรอง

ทำไมอ่านแล้วเข้าใจว่า "ถ้าเพื่อไทยไม่แทงกั๊ก แบบว่าเอาลุงแน่นอน คะแนนจะไหลไปเพื่อไทย"

อันนี้ผมเข้าใจถูกมั๊ย

น่าจะหมายถึง ถ้า พท ชัดเจนว่าไม่เอาลุง คนแดงเดิม หรือส้มบางกลุ่ม อาจเลือกแดงในปีที่แล้ว

ใช่ครับ ไม่แน่ อยู่ที่ผลงานของเพื่อไทยด้วย ถ้าประชาชนรู้สึกว่าดีขึ้น (ซึ่งน่าจะดีขึ้นไม่ยาก เพราะไอตูบมันแย่สุดๆแล้ว) ก็มีโอกาสที่คนจะยังเลือกเพื่อไทย

ที่เค้าว่าคนไทยลืมง่ายผมว่าจริง แล้วผลประโยชน์เฉพาะตัวมันมาเหนืออุดมการณ์อยู่แล้ว ขนาดกระทู้โพลใน SS คนยังเลือกรับผลประโยชน์ก่อนอุดมการณ์เสมอ

ถ้าปี 70 เพื่อไทยบอกว่าเลือกฉันสิแล้วจะแจกอีกหมื่นนึง ยิ่งรวมกับการสนธิกำลังกันกับพรรคอื่น ผมว่าเพื่อไทยมีโอกาสชนะสูง เพราะชาวบ้านที่ยากจนมีเยอะ เค้าไม่คิดหรอกว่าจะกู้มาแจกหรือเงินจะมาจากไหน จะเป็นภาระให้ลูกหลานไปอีกเท่าไหร่ ขอแค่ได้เงินมาใช้ก่อน งานศพมีคนมาใส่ซอง มีคนฝากลูกเข้าโรงเรียน มีคนเคลียร์ใบสั่ง บางครั้งบางคราวก็มาแจกเงินให้ อยู่แบบนี้ก็ดีอยู่แล้วนี่นา จะเปลี่ยนแปลงไปทำไม

เกรงว่าเลือกตั้งรอบหน้าจะไม่ได้เท่าเดิมอะดิ ต้องยอมรับว่า คนชอบพิธาเยอะ อยากให้เป็นนายก ดูเป็นผู้นำยุคใหม่ที่คนอยากเห็นเป็นนายก พอเป็นเท้งกระแสเงียบเลย และถ้าอุ้งอิ้งทำผลงานได้ดีคะแนนยิ่งหาย

กระแสคนเบื่อลุงเยอะนะ คนอยากเปลี่ยน อยากลองอะไรใหม่ๆ แล้วได้กระแสพิธามาด้วยช่วงนั้นโคตรปัง
จะเห็นได้ชัดจากผลโพล ช่วงแรกตามเพื่อไทยอยู่เยอะ พอพิธาออกรายการ รึอออกหน้าสื่อเยอะ
ได้แสดงวิสัยทัศน์ คนเลยชอบ แถมเพื่อไทยกั๊กๆเรื่องลุง รึเรื่องแคนดิเดตนายยกว่าคนไหน นี้ก็เป็นอีกตัวช่วยนึ่งดันคะแนน

ก็ถูกส่วนนึงนะครับ

เอางี้ สมมุติเหมือนเกมส์ฟุตบอลก็ได้ เกมส์ที่หงส์แพ้ ฟอเรส หรือ หงส์ชนะผี คือทั้ง 2 เกมส์เหมือนกันคือ ผู้ชนะเลือกวิธีการได้ถูกต้อง ทำให้ผลลัพธ์มันออกมาตามที่เห็น

เช่นเดียวกับก้าวไกลครับ เค้าเลือกวิธีการ เวลา ได้เหมาะเจาะ จุดเปลี่ยนคือ 3 ย่านมิตรทาวน์อะ พอ กก บอก มีลุงไม่มีเรา แล้ว เพื่อไทย อ้ำๆอึ้งๆ คือ เลือกวิธีการผิด

เพราะ เพื่อไทยคิดถึงโอกาสที่จะได้เป็นรัฐบาล มันต้องเผื่อเหลือเผื่อขาดในการจับกับสักลุง หรือ ทั้ง 2 ลุงไปเลย โดยไม่มี กก ......

พอมันเป็นแบบนั้น แนวทางที่สื่อสารออกมามันก็ไม่ชัดเจนสักอย่าง จนต้องมาพูดว่าไม่เอาลุงด้วยตอนไม่กี่วันท้ายๆ ซึ่งเจตนาคนมันก็ดูออกแล้ว

ผมมองคล้ายคุณแต่ต่างไปอีกนิดคือ ไม่ใช่ต่างกันแบบฟุตบอลคนละแมตซ์ แต่มันคือ เหมือนฟุตบอล กับ ฟุตซอล มากกว่า

1. เลือกตั้งระดับประเทศ < ชาวบ้านมองว่าผลกระทบต่อเค้าทั้งในแง่ให้คุณให้คุณให้โทษรายบุคคล คือได้ก็ได้กันหมด เสียก็เสียกันหมด = คนเลยเลือกด้วยอารมณ์ความรู้สึก/ความหวังในอนาคต มากกว่าสิ่งตรงหน้า
2. เลือกตั้งท้องถิ่น < มันคือผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ มันมีผลจริงกับชีวิตมากกว่า หลายๆพื้นที่บ้านเรากฏหมาย/สิทธิประโยชน์ มันเข้าไม่ค่อยถึง เช่นเกิดคดีอะไรขึ้นใครรู้จักนักการเมืองท้องถิ่นโอกาสได้รับความช่วยเหลือก็สูงกกว่า ลูกจะเข้าโรงเรียนก็ได้พวกนี้ช่วย มีงานศพงานบวชพวกนี้ก็ทำบุญเยอะ แต่ถ้าไปผิดใจกับพวกมันก็จะได้ผลตรงข้าม = คนเลยต้องคำนวณเอาผลกระทบต่อชีวิตตรงหน้ามาคิดด้วยมากกว่า ไม่ใช่ว่าเค้าโง่ดักดานกันทุกคนผลเลยออกมาแบบนี้

ถ้าก้าวไกลจะชนะได้ ก็ต้องทำงานหนัก บุคคลากรที่เอามาลงต้องทำงานเสียสละจริงๆจนชาวบ้านเห็น ก็ต้องใช้เวลาจนกว่าจะเจอแผนการเล่นที่ลงตัว