ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออนไลน์
นักบอลลีกภูมิภาค
Status: อิอิ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Mar 2020
ตอบ: 10058
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Sep 13, 2024 00:28
ทำไมวิโรจน์ ไปซัดเศรษฐพุฒิ เรื่อง Call Center ซะล่ะ?
แบ้งต้องเข้มบัญชีม้ามากกว่านี้ หรือแบบใครมีประเด็นต้องอายัติมันทุกบัญชี ทุกธนาคารเลย ให้มันแสดงตัว แล้วมาอธิบายกันไปอะไรยังไง อาจจะดูโหดนะ แต่มันหนักจริงปัญหานี้
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักเตะหมู่บ้าน
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 02 Oct 2013
ตอบ: 621
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Sep 13, 2024 00:33
[RE: ทำไมวิโรจน์ ไปซัดเศรษฐพุฒิ เรื่อง Call Center ซะล่ะ?]
Spoil
MarkZuckerberg พิมพ์ว่า:
Tommy Charlotte Jax Shelb พิมพ์ว่า:
MarkZuckerberg พิมพ์ว่า:
Tommy Charlotte Jax Shelb พิมพ์ว่า:
ผมไม่เห็นด้วยกับประโยคนี้เท่าไหร่เลย เพราะจริงๆเค้าทำขั้นตอนเพิ่มมาพอสมควรแล้วนะครับ ที่โดนส่วนใหญ่คือโอนไปให้จากการหลอกบ้างละ รีโมทบ้างละ พอถึงรีโมทมันก็เหมือนเรายื่นกุญแจบ้านให้โจรอะหรือโจรปลอมเป็นเราแล้วมากดเงินไปถามว่าธนาคารผิดทั้งหมดไหมก็ไม่ใช่อยู่ดี ผมไม่แน่ใจเรื่องรีโมทนี่ป้องกันไปได้ถึงไหนแล้วนะแต่เหมือนมันมีวิธีอยู่ใช่ไหมครับที่พอรีโมทแล้วมันจะมืดไปเหมือนที่เราแคปหน้าจอเน็ตฟลิกไม่ได้อะ ปัญหาหลักจริงที่ต้องช่วยกันเสริมภูมิต้านทานคือ humans OS มากกว่าครับ

บางอันคนกลัวความผิดว่าเงินหรือพัสดุงี้ๆๆๆคุณอาจจะโดนจับนะเลยต้องทำตามบลาๆๆ อันนี้ก็อีกกรณีนึงอีกที่โดนไม่น้อย

เรื่องเห็นใจแน่นอนเห็นใจอยู่แล้วคนรอบตัวโดนไปแสนนึงมั้งทั้งที่เป็นคนไม่น่าโดนที่สุดเป็นคนที่บอกคนอื่นว่าให้วางเถอะจะไปคุยเล่นมันทำไม สุดท้ายแกเพลี้ยงพล้ำเอง ผมก็เจ็บช้ำแทนแกเหมือนกัน


หน่วงเวลาก็ฉิบหายการค้าขายกันพอดีละมั้งหรือว่าไม่ขนาดครับ

 

ผมขอไม่เห็นด้วยกับท่านนะ ผู้ให้บริการ platform ควรจะออกแบบระบบแบบมีความรับผิดชอบต่อลูกค้าทุกคนครับ ยกตัวอย่างพี่ Mark Zuck เจ้าของ Facebook IG โดนวุฒิสภาและคนใช้งาน(ในบอร์ดนี้ก็บ่นแกอยู่ประจำ)สับเละอยูบ่อยๆเรื่อง scam cyberbully privacy pornography ของ platform ถึงแม้เค้าจะออก feature มาควบคุมก็แล้ว ใช้ AI ก็แล้ว มีcensorshipก็แล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่า Mark จะปัดความรับผิดชอบแล้วบอกว่า เอ้าก็พวกมึงดูกันเอง พวกมึงโดนหลอกกันเอง กดเข้าไปดูเอง platform ตูไม่เกี่ยว

ตัวอย่างอีกอันคือ Apple อะ คุณซื้อ Device เค้ามาคุณก็ต้อง expect feature ที่ช่วยเรื่องความปลอดภัยใช่มั้ย Apple ไม่เคยออกมาบอกว่า ก็เอ๊งคลิ๊กลิงค์เอง ก็เอ๊งโหลดappเถื่อนเอง เอ๊งแชร์ข้อมูลส่วนตัวเอง แต่ Apple และ Facebook ก็ยังต้อง implement และรับผิดชอบความปลอดภัยของผู้ใช้เป็นอันดับ 1 ไม่มีการบ่ายเบี่ยงทั้งนั้น

เพราะอะไรละ? ก็เพราะกฏหมายควบคุม Social Media, PDPA มันแรงไงครับ พวกนี้ถึงกุลีกุจอพยายามทำทุกวิธีปิดช่องโหว่ให้ได้ แม้หลายๆอย่างจะเป็นความประมาทหรือความผิดของผู้ใช้งานเอง ไม่งั้นบริษัทก็โดนฟ้อง เสียชื่อ เสียงเงิน

เพราะฉะนั้นผมเห็นด้วยกับข้อความนี้นะครับ ต้องมีแรงกระตุ้น financial platform พวกนี้เช่นกันครับ ที่ตอนนี้ลอยลำทุกอย่างไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ไม่มีรัฐบาลไปตามจี้ตูดออกกฏหมายควบคุมเหมือนพวก Apple Facebook

 
ป้องกันให้ตายสุดท้ายยื่นกุญแจบ้านให้โจรมันจะช่วยอะไรละครับ กรณีส่วนมากที่โดนคือโอนไปให้ กับรีโมทแทบทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าธนาคารปัดความรับผิดทั้งหมดซะที่ไหนละครับป้องกันไปก็ไม่ใช่น้อย ส่วนเรื่องappleผมไม่เข้าใจต้องการจะสื่ออะไรหรอครับ ประมาณว่าใช้แอปธนาคารมันต้องคาดหวังความปลอดภัยได้ในระดับเดียวกับที่แอปเปิ้ลทำเรื่องความปลอดภัยหรือปล่าวครับ

ผมว่าไม่ได้ลอยลำอะไรเลยนะเหมือนคุณให้บัตรatmพร้อมรหัสกับโจรไปกดตังอะครับ ธนาคารมันก็ป้องกันไว้แล้วทั้งบัตรมีชิพทั้งใส่รหัสผ่าน แต่คุณให้มันไปหมดเลยจากการที่มันหลอกคุณผ่านการคุย เรื่องรีโมทผมไม่แน่ใจว่าเค้าได้ทำการป้องหรือพัฒนาอะไรไปขั้นไหนแล้วนะถ้าตรงเรื่องนี้ก็พอเข้าเค้ากับประโยคที่บอกว่าไม่พัฒนาอยู่

ส่วนเรื่องสว.นั่นผมไม่ทราบเคยดูแบบละเอียดของมาร์ดเห็นต่ที่จะให้ceoติ๊กเป็นคนจีนให้ได้  

ลอยลำดิครับ ผมไม่เคยเห็น Bank ใหญ่ๆโดนรัฐบาลซักฟอกหรือบี้สักครั้งเดียว เทียบกับเคส Apple Google Facebook ถ้าไปดูคือโดนไล่บี้ตลอดทั้งจากผู้ใช้งานและรัฐบาล สว สส เค้าไม่มีมาบอกว่า "ป้องกันให้ตายสุดท้ายยื่นกุญแจบ้านให้โจรมันจะช่วยอะไรละครับ" หรอกครับ ผมแค่ไม่เห็นด้วยกับ mindset นี้
 
 

ท่านเอา social platform ไปเทียบกับ ธนาคารไม่ได้ได้มั้ยอะครับ ในเมื่อ mindset นี้ยังเป็นจริงอยู่อะ มันไม่ใช่การยื่นกุญแจให้โจรด้วยซ้ำมันคือโจรยืนพูดอยู่หน้าบ้านแล้วท่านเอาเงินออกมาให้เลย บ้านท่านเองจะกันรั้วประตูเป็นร้อยชั้นก็ได้แต่ถ้าท่านเป็นคนเปิดยังไงท่านก็เข้าได้อะ
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 08 Apr 2024
ตอบ: 1868
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Sep 13, 2024 00:47
[RE: ทำไมวิโรจน์ ไปซัดเศรษฐพุฒิ เรื่อง Call Center ซะล่ะ?]
kaiitongs พิมพ์ว่า:
Spoil
MarkZuckerberg พิมพ์ว่า:
Tommy Charlotte Jax Shelb พิมพ์ว่า:
MarkZuckerberg พิมพ์ว่า:
Tommy Charlotte Jax Shelb พิมพ์ว่า:
ผมไม่เห็นด้วยกับประโยคนี้เท่าไหร่เลย เพราะจริงๆเค้าทำขั้นตอนเพิ่มมาพอสมควรแล้วนะครับ ที่โดนส่วนใหญ่คือโอนไปให้จากการหลอกบ้างละ รีโมทบ้างละ พอถึงรีโมทมันก็เหมือนเรายื่นกุญแจบ้านให้โจรอะหรือโจรปลอมเป็นเราแล้วมากดเงินไปถามว่าธนาคารผิดทั้งหมดไหมก็ไม่ใช่อยู่ดี ผมไม่แน่ใจเรื่องรีโมทนี่ป้องกันไปได้ถึงไหนแล้วนะแต่เหมือนมันมีวิธีอยู่ใช่ไหมครับที่พอรีโมทแล้วมันจะมืดไปเหมือนที่เราแคปหน้าจอเน็ตฟลิกไม่ได้อะ ปัญหาหลักจริงที่ต้องช่วยกันเสริมภูมิต้านทานคือ humans OS มากกว่าครับ

บางอันคนกลัวความผิดว่าเงินหรือพัสดุงี้ๆๆๆคุณอาจจะโดนจับนะเลยต้องทำตามบลาๆๆ อันนี้ก็อีกกรณีนึงอีกที่โดนไม่น้อย

เรื่องเห็นใจแน่นอนเห็นใจอยู่แล้วคนรอบตัวโดนไปแสนนึงมั้งทั้งที่เป็นคนไม่น่าโดนที่สุดเป็นคนที่บอกคนอื่นว่าให้วางเถอะจะไปคุยเล่นมันทำไม สุดท้ายแกเพลี้ยงพล้ำเอง ผมก็เจ็บช้ำแทนแกเหมือนกัน


หน่วงเวลาก็ฉิบหายการค้าขายกันพอดีละมั้งหรือว่าไม่ขนาดครับ

 

ผมขอไม่เห็นด้วยกับท่านนะ ผู้ให้บริการ platform ควรจะออกแบบระบบแบบมีความรับผิดชอบต่อลูกค้าทุกคนครับ ยกตัวอย่างพี่ Mark Zuck เจ้าของ Facebook IG โดนวุฒิสภาและคนใช้งาน(ในบอร์ดนี้ก็บ่นแกอยู่ประจำ)สับเละอยูบ่อยๆเรื่อง scam cyberbully privacy pornography ของ platform ถึงแม้เค้าจะออก feature มาควบคุมก็แล้ว ใช้ AI ก็แล้ว มีcensorshipก็แล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่า Mark จะปัดความรับผิดชอบแล้วบอกว่า เอ้าก็พวกมึงดูกันเอง พวกมึงโดนหลอกกันเอง กดเข้าไปดูเอง platform ตูไม่เกี่ยว

ตัวอย่างอีกอันคือ Apple อะ คุณซื้อ Device เค้ามาคุณก็ต้อง expect feature ที่ช่วยเรื่องความปลอดภัยใช่มั้ย Apple ไม่เคยออกมาบอกว่า ก็เอ๊งคลิ๊กลิงค์เอง ก็เอ๊งโหลดappเถื่อนเอง เอ๊งแชร์ข้อมูลส่วนตัวเอง แต่ Apple และ Facebook ก็ยังต้อง implement และรับผิดชอบความปลอดภัยของผู้ใช้เป็นอันดับ 1 ไม่มีการบ่ายเบี่ยงทั้งนั้น

เพราะอะไรละ? ก็เพราะกฏหมายควบคุม Social Media, PDPA มันแรงไงครับ พวกนี้ถึงกุลีกุจอพยายามทำทุกวิธีปิดช่องโหว่ให้ได้ แม้หลายๆอย่างจะเป็นความประมาทหรือความผิดของผู้ใช้งานเอง ไม่งั้นบริษัทก็โดนฟ้อง เสียชื่อ เสียงเงิน

เพราะฉะนั้นผมเห็นด้วยกับข้อความนี้นะครับ ต้องมีแรงกระตุ้น financial platform พวกนี้เช่นกันครับ ที่ตอนนี้ลอยลำทุกอย่างไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ไม่มีรัฐบาลไปตามจี้ตูดออกกฏหมายควบคุมเหมือนพวก Apple Facebook

 
ป้องกันให้ตายสุดท้ายยื่นกุญแจบ้านให้โจรมันจะช่วยอะไรละครับ กรณีส่วนมากที่โดนคือโอนไปให้ กับรีโมทแทบทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าธนาคารปัดความรับผิดทั้งหมดซะที่ไหนละครับป้องกันไปก็ไม่ใช่น้อย ส่วนเรื่องappleผมไม่เข้าใจต้องการจะสื่ออะไรหรอครับ ประมาณว่าใช้แอปธนาคารมันต้องคาดหวังความปลอดภัยได้ในระดับเดียวกับที่แอปเปิ้ลทำเรื่องความปลอดภัยหรือปล่าวครับ

ผมว่าไม่ได้ลอยลำอะไรเลยนะเหมือนคุณให้บัตรatmพร้อมรหัสกับโจรไปกดตังอะครับ ธนาคารมันก็ป้องกันไว้แล้วทั้งบัตรมีชิพทั้งใส่รหัสผ่าน แต่คุณให้มันไปหมดเลยจากการที่มันหลอกคุณผ่านการคุย เรื่องรีโมทผมไม่แน่ใจว่าเค้าได้ทำการป้องหรือพัฒนาอะไรไปขั้นไหนแล้วนะถ้าตรงเรื่องนี้ก็พอเข้าเค้ากับประโยคที่บอกว่าไม่พัฒนาอยู่

ส่วนเรื่องสว.นั่นผมไม่ทราบเคยดูแบบละเอียดของมาร์ดเห็นต่ที่จะให้ceoติ๊กเป็นคนจีนให้ได้  

ลอยลำดิครับ ผมไม่เคยเห็น Bank ใหญ่ๆโดนรัฐบาลซักฟอกหรือบี้สักครั้งเดียว เทียบกับเคส Apple Google Facebook ถ้าไปดูคือโดนไล่บี้ตลอดทั้งจากผู้ใช้งานและรัฐบาล สว สส เค้าไม่มีมาบอกว่า "ป้องกันให้ตายสุดท้ายยื่นกุญแจบ้านให้โจรมันจะช่วยอะไรละครับ" หรอกครับ ผมแค่ไม่เห็นด้วยกับ mindset นี้
 
 

ท่านเอา social platform ไปเทียบกับ ธนาคารไม่ได้ได้มั้ยอะครับ ในเมื่อ mindset นี้ยังเป็นจริงอยู่อะ มันไม่ใช่การยื่นกุญแจให้โจรด้วยซ้ำมันคือโจรยืนพูดอยู่หน้าบ้านแล้วท่านเอาเงินออกมาให้เลย บ้านท่านเองจะกันรั้วประตูเป็นร้อยชั้นก็ได้แต่ถ้าท่านเป็นคนเปิดยังไงท่านก็เข้าได้อะ  

มีเหตุผลใดเอามาเทียบไม่ได้ครับ

ผู้ใช้เป็นคนควบคุมทุกอย่างเช่นเดียวกัน (โหลดแอปเอง คลิ๊กLinkเอง เปิดอ่านข้อความbullyเอง สมัครใช้งานเอง ต่อไวไฟเอง โพสเรื่องส่วนตัวลงเองอย่างเต็มใจ) มันก็เหมือนคุณ "เปิดประตูเป็นร้อยชั้นเอง" ทั้งนั้นมั้ยละครับ ลองคิดดูดีๆ

ไม่งั้นอธิบายมาหน่อยว่าแตกต่างกันยังไงระหว่าง platform ที่ผมว่ากับ financial platform
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 10 Mar 2007
ตอบ: 687
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Sep 13, 2024 01:47
[RE: ทำไมวิโรจน์ ไปซัดเศรษฐพุฒิ เรื่อง Call Center ซะล่ะ?]
MarkZuckerberg พิมพ์ว่า:
kaiitongs พิมพ์ว่า:
Spoil
MarkZuckerberg พิมพ์ว่า:
Tommy Charlotte Jax Shelb พิมพ์ว่า:
MarkZuckerberg พิมพ์ว่า:
Tommy Charlotte Jax Shelb พิมพ์ว่า:
ผมไม่เห็นด้วยกับประโยคนี้เท่าไหร่เลย เพราะจริงๆเค้าทำขั้นตอนเพิ่มมาพอสมควรแล้วนะครับ ที่โดนส่วนใหญ่คือโอนไปให้จากการหลอกบ้างละ รีโมทบ้างละ พอถึงรีโมทมันก็เหมือนเรายื่นกุญแจบ้านให้โจรอะหรือโจรปลอมเป็นเราแล้วมากดเงินไปถามว่าธนาคารผิดทั้งหมดไหมก็ไม่ใช่อยู่ดี ผมไม่แน่ใจเรื่องรีโมทนี่ป้องกันไปได้ถึงไหนแล้วนะแต่เหมือนมันมีวิธีอยู่ใช่ไหมครับที่พอรีโมทแล้วมันจะมืดไปเหมือนที่เราแคปหน้าจอเน็ตฟลิกไม่ได้อะ ปัญหาหลักจริงที่ต้องช่วยกันเสริมภูมิต้านทานคือ humans OS มากกว่าครับ

บางอันคนกลัวความผิดว่าเงินหรือพัสดุงี้ๆๆๆคุณอาจจะโดนจับนะเลยต้องทำตามบลาๆๆ อันนี้ก็อีกกรณีนึงอีกที่โดนไม่น้อย

เรื่องเห็นใจแน่นอนเห็นใจอยู่แล้วคนรอบตัวโดนไปแสนนึงมั้งทั้งที่เป็นคนไม่น่าโดนที่สุดเป็นคนที่บอกคนอื่นว่าให้วางเถอะจะไปคุยเล่นมันทำไม สุดท้ายแกเพลี้ยงพล้ำเอง ผมก็เจ็บช้ำแทนแกเหมือนกัน


หน่วงเวลาก็ฉิบหายการค้าขายกันพอดีละมั้งหรือว่าไม่ขนาดครับ

 

ผมขอไม่เห็นด้วยกับท่านนะ ผู้ให้บริการ platform ควรจะออกแบบระบบแบบมีความรับผิดชอบต่อลูกค้าทุกคนครับ ยกตัวอย่างพี่ Mark Zuck เจ้าของ Facebook IG โดนวุฒิสภาและคนใช้งาน(ในบอร์ดนี้ก็บ่นแกอยู่ประจำ)สับเละอยูบ่อยๆเรื่อง scam cyberbully privacy pornography ของ platform ถึงแม้เค้าจะออก feature มาควบคุมก็แล้ว ใช้ AI ก็แล้ว มีcensorshipก็แล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่า Mark จะปัดความรับผิดชอบแล้วบอกว่า เอ้าก็พวกมึงดูกันเอง พวกมึงโดนหลอกกันเอง กดเข้าไปดูเอง platform ตูไม่เกี่ยว

ตัวอย่างอีกอันคือ Apple อะ คุณซื้อ Device เค้ามาคุณก็ต้อง expect feature ที่ช่วยเรื่องความปลอดภัยใช่มั้ย Apple ไม่เคยออกมาบอกว่า ก็เอ๊งคลิ๊กลิงค์เอง ก็เอ๊งโหลดappเถื่อนเอง เอ๊งแชร์ข้อมูลส่วนตัวเอง แต่ Apple และ Facebook ก็ยังต้อง implement และรับผิดชอบความปลอดภัยของผู้ใช้เป็นอันดับ 1 ไม่มีการบ่ายเบี่ยงทั้งนั้น

เพราะอะไรละ? ก็เพราะกฏหมายควบคุม Social Media, PDPA มันแรงไงครับ พวกนี้ถึงกุลีกุจอพยายามทำทุกวิธีปิดช่องโหว่ให้ได้ แม้หลายๆอย่างจะเป็นความประมาทหรือความผิดของผู้ใช้งานเอง ไม่งั้นบริษัทก็โดนฟ้อง เสียชื่อ เสียงเงิน

เพราะฉะนั้นผมเห็นด้วยกับข้อความนี้นะครับ ต้องมีแรงกระตุ้น financial platform พวกนี้เช่นกันครับ ที่ตอนนี้ลอยลำทุกอย่างไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ไม่มีรัฐบาลไปตามจี้ตูดออกกฏหมายควบคุมเหมือนพวก Apple Facebook

 
ป้องกันให้ตายสุดท้ายยื่นกุญแจบ้านให้โจรมันจะช่วยอะไรละครับ กรณีส่วนมากที่โดนคือโอนไปให้ กับรีโมทแทบทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าธนาคารปัดความรับผิดทั้งหมดซะที่ไหนละครับป้องกันไปก็ไม่ใช่น้อย ส่วนเรื่องappleผมไม่เข้าใจต้องการจะสื่ออะไรหรอครับ ประมาณว่าใช้แอปธนาคารมันต้องคาดหวังความปลอดภัยได้ในระดับเดียวกับที่แอปเปิ้ลทำเรื่องความปลอดภัยหรือปล่าวครับ

ผมว่าไม่ได้ลอยลำอะไรเลยนะเหมือนคุณให้บัตรatmพร้อมรหัสกับโจรไปกดตังอะครับ ธนาคารมันก็ป้องกันไว้แล้วทั้งบัตรมีชิพทั้งใส่รหัสผ่าน แต่คุณให้มันไปหมดเลยจากการที่มันหลอกคุณผ่านการคุย เรื่องรีโมทผมไม่แน่ใจว่าเค้าได้ทำการป้องหรือพัฒนาอะไรไปขั้นไหนแล้วนะถ้าตรงเรื่องนี้ก็พอเข้าเค้ากับประโยคที่บอกว่าไม่พัฒนาอยู่

ส่วนเรื่องสว.นั่นผมไม่ทราบเคยดูแบบละเอียดของมาร์ดเห็นต่ที่จะให้ceoติ๊กเป็นคนจีนให้ได้  

ลอยลำดิครับ ผมไม่เคยเห็น Bank ใหญ่ๆโดนรัฐบาลซักฟอกหรือบี้สักครั้งเดียว เทียบกับเคส Apple Google Facebook ถ้าไปดูคือโดนไล่บี้ตลอดทั้งจากผู้ใช้งานและรัฐบาล สว สส เค้าไม่มีมาบอกว่า "ป้องกันให้ตายสุดท้ายยื่นกุญแจบ้านให้โจรมันจะช่วยอะไรละครับ" หรอกครับ ผมแค่ไม่เห็นด้วยกับ mindset นี้
 
 

ท่านเอา social platform ไปเทียบกับ ธนาคารไม่ได้ได้มั้ยอะครับ ในเมื่อ mindset นี้ยังเป็นจริงอยู่อะ มันไม่ใช่การยื่นกุญแจให้โจรด้วยซ้ำมันคือโจรยืนพูดอยู่หน้าบ้านแล้วท่านเอาเงินออกมาให้เลย บ้านท่านเองจะกันรั้วประตูเป็นร้อยชั้นก็ได้แต่ถ้าท่านเป็นคนเปิดยังไงท่านก็เข้าได้อะ  

มีเหตุผลใดเอามาเทียบไม่ได้ครับ

ผู้ใช้เป็นคนควบคุมทุกอย่างเช่นเดียวกัน (โหลดแอปเอง คลิ๊กLinkเอง เปิดอ่านข้อความbullyเอง สมัครใช้งานเอง ต่อไวไฟเอง โพสเรื่องส่วนตัวลงเองอย่างเต็มใจ) มันก็เหมือนคุณ "เปิดประตูเป็นร้อยชั้นเอง" ทั้งนั้นมั้ยละครับ ลองคิดดูดีๆ

ไม่งั้นอธิบายมาหน่อยว่าแตกต่างกันยังไงระหว่าง platform ที่ผมว่ากับ financial platform  


ระบบธนาคารอะมันปลอดภัยแล้ว ไม่ได้โดน hack มี monitor จาก soc ตลอด 24 ชั่วโมง ระบบมันก็ปลอดภัยไม่ต่างกับ facebook เลย กันแคป กันการ remote สารพัดจะทำเท่าที่เทคโนโลยีปัจจุบันมันจะทำได้ละ ที่เหลือเป็นเรื่อง business flow ยิ่งยุ่งยากลูกค้าก็หนี แล้วคนที่โดนเทียบกับแอคเคาท์ทั้งหมดมีใครเคาะออกมาหรือยังว่าเป็นกี่ % ของผู้ใช้ทั้งหมด

สภาพตอนนี้คือสมมติได้ว่า โจรอยากได้รูป private ในเฟสเหยื่อ เลยคุยกับเจ้าของเฟสจนเจ้าของเข้าไปเซฟรูปมาส่งให้โจร คุณจะเอาอะไรมากันพฤติกรรมนี้ คนโดนหลอกเพราะเค้าไม่ฉลาดพอจะใช้เทคโนโลยีนั้น วิธีแก้คือให้สอบวัด IQ ก่อนใช้ Mobile Banking เลยดีมั้ย 555 มันก็เป็นไปไม่ได้หรอก เพราะตอนโดนมันไม่ได้ใช้สมอง มันใช้แต่อารมณ์นำแล้ว อารมณ์แห่งความกลัวบ้างหละ ความโลภบ้างหละ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Apr 2020
ตอบ: 92
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Sep 13, 2024 02:01
[RE: ทำไมวิโรจน์ ไปซัดเศรษฐพุฒิ เรื่อง Call Center ซะล่ะ?]
แฟล็ปแจ็ค ยอดนักผจญภัย พิมพ์ว่า:
Spoil
MarkZuckerberg พิมพ์ว่า:
Tommy Charlotte Jax Shelb พิมพ์ว่า:
MarkZuckerberg พิมพ์ว่า:
Tommy Charlotte Jax Shelb พิมพ์ว่า:
ผมไม่เห็นด้วยกับประโยคนี้เท่าไหร่เลย เพราะจริงๆเค้าทำขั้นตอนเพิ่มมาพอสมควรแล้วนะครับ ที่โดนส่วนใหญ่คือโอนไปให้จากการหลอกบ้างละ รีโมทบ้างละ พอถึงรีโมทมันก็เหมือนเรายื่นกุญแจบ้านให้โจรอะหรือโจรปลอมเป็นเราแล้วมากดเงินไปถามว่าธนาคารผิดทั้งหมดไหมก็ไม่ใช่อยู่ดี ผมไม่แน่ใจเรื่องรีโมทนี่ป้องกันไปได้ถึงไหนแล้วนะแต่เหมือนมันมีวิธีอยู่ใช่ไหมครับที่พอรีโมทแล้วมันจะมืดไปเหมือนที่เราแคปหน้าจอเน็ตฟลิกไม่ได้อะ ปัญหาหลักจริงที่ต้องช่วยกันเสริมภูมิต้านทานคือ humans OS มากกว่าครับ

บางอันคนกลัวความผิดว่าเงินหรือพัสดุงี้ๆๆๆคุณอาจจะโดนจับนะเลยต้องทำตามบลาๆๆ อันนี้ก็อีกกรณีนึงอีกที่โดนไม่น้อย

เรื่องเห็นใจแน่นอนเห็นใจอยู่แล้วคนรอบตัวโดนไปแสนนึงมั้งทั้งที่เป็นคนไม่น่าโดนที่สุดเป็นคนที่บอกคนอื่นว่าให้วางเถอะจะไปคุยเล่นมันทำไม สุดท้ายแกเพลี้ยงพล้ำเอง ผมก็เจ็บช้ำแทนแกเหมือนกัน


หน่วงเวลาก็ฉิบหายการค้าขายกันพอดีละมั้งหรือว่าไม่ขนาดครับ

 

ผมขอไม่เห็นด้วยกับท่านนะ ผู้ให้บริการ platform ควรจะออกแบบระบบแบบมีความรับผิดชอบต่อลูกค้าทุกคนครับ ยกตัวอย่างพี่ Mark Zuck เจ้าของ Facebook IG โดนวุฒิสภาและคนใช้งาน(ในบอร์ดนี้ก็บ่นแกอยู่ประจำ)สับเละอยูบ่อยๆเรื่อง scam cyberbully privacy pornography ของ platform ถึงแม้เค้าจะออก feature มาควบคุมก็แล้ว ใช้ AI ก็แล้ว มีcensorshipก็แล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่า Mark จะปัดความรับผิดชอบแล้วบอกว่า เอ้าก็พวกมึงดูกันเอง พวกมึงโดนหลอกกันเอง กดเข้าไปดูเอง platform ตูไม่เกี่ยว

ตัวอย่างอีกอันคือ Apple อะ คุณซื้อ Device เค้ามาคุณก็ต้อง expect feature ที่ช่วยเรื่องความปลอดภัยใช่มั้ย Apple ไม่เคยออกมาบอกว่า ก็เอ๊งคลิ๊กลิงค์เอง ก็เอ๊งโหลดappเถื่อนเอง เอ๊งแชร์ข้อมูลส่วนตัวเอง แต่ Apple และ Facebook ก็ยังต้อง implement และรับผิดชอบความปลอดภัยของผู้ใช้เป็นอันดับ 1 ไม่มีการบ่ายเบี่ยงทั้งนั้น

เพราะอะไรละ? ก็เพราะกฏหมายควบคุม Social Media, PDPA มันแรงไงครับ พวกนี้ถึงกุลีกุจอพยายามทำทุกวิธีปิดช่องโหว่ให้ได้ แม้หลายๆอย่างจะเป็นความประมาทหรือความผิดของผู้ใช้งานเอง ไม่งั้นบริษัทก็โดนฟ้อง เสียชื่อ เสียงเงิน

เพราะฉะนั้นผมเห็นด้วยกับข้อความนี้นะครับ ต้องมีแรงกระตุ้น financial platform พวกนี้เช่นกันครับ ที่ตอนนี้ลอยลำทุกอย่างไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ไม่มีรัฐบาลไปตามจี้ตูดออกกฏหมายควบคุมเหมือนพวก Apple Facebook

 
ป้องกันให้ตายสุดท้ายยื่นกุญแจบ้านให้โจรมันจะช่วยอะไรละครับ กรณีส่วนมากที่โดนคือโอนไปให้ กับรีโมทแทบทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าธนาคารปัดความรับผิดทั้งหมดซะที่ไหนละครับป้องกันไปก็ไม่ใช่น้อย ส่วนเรื่องappleผมไม่เข้าใจต้องการจะสื่ออะไรหรอครับ ประมาณว่าใช้แอปธนาคารมันต้องคาดหวังความปลอดภัยได้ในระดับเดียวกับที่แอปเปิ้ลทำเรื่องความปลอดภัยหรือปล่าวครับ

ผมว่าไม่ได้ลอยลำอะไรเลยนะเหมือนคุณให้บัตรatmพร้อมรหัสกับโจรไปกดตังอะครับ ธนาคารมันก็ป้องกันไว้แล้วทั้งบัตรมีชิพทั้งใส่รหัสผ่าน แต่คุณให้มันไปหมดเลยจากการที่มันหลอกคุณผ่านการคุย เรื่องรีโมทผมไม่แน่ใจว่าเค้าได้ทำการป้องหรือพัฒนาอะไรไปขั้นไหนแล้วนะถ้าตรงเรื่องนี้ก็พอเข้าเค้ากับประโยคที่บอกว่าไม่พัฒนาอยู่

ส่วนเรื่องสว.นั่นผมไม่ทราบเคยดูแบบละเอียดของมาร์ดเห็นต่ที่จะให้ceoติ๊กเป็นคนจีนให้ได้  

ลอยลำดิครับ ผมไม่เคยเห็น Bank ใหญ่ๆโดนรัฐบาลซักฟอกหรือบี้สักครั้งเดียว เทียบกับเคส Apple Google Facebook ถ้าไปดูคือโดนไล่บี้ตลอดทั้งจากผู้ใช้งานและรัฐบาล สว สส เค้าไม่มีมาบอกว่า "ป้องกันให้ตายสุดท้ายยื่นกุญแจบ้านให้โจรมันจะช่วยอะไรละครับ" หรอกครับ ผมแค่ไม่เห็นด้วยกับ mindset นี้
 
 


งง ไปเทียบกับเฟส แล้วทำไมไม่ไปเทียบกับแบงค์ในเมกา

คนโดนคอลเซนเตอร์หลอก แบงค์โดนรัฐบาลปรับเงิน หรือชดใช้ให้ผู้เสียหายไหมไหม  


https://aite-novarica.com/JBL_Payment_Scam_Regulation

จากลิงค์นี้บอกว่าตั้งแต่ปีที่แล้ว อเมริกาและอังกฤษเริ่มพิจารณาให้สถาบันการเงินมีหน้าที่รับผิดชอบแล้วครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 4852
ที่อยู่: Buzz lightyear of star command
โพสเมื่อ: Fri Sep 13, 2024 02:10
[RE: ทำไมวิโรจน์ ไปซัดเศรษฐพุฒิ เรื่อง Call Center ซะล่ะ?]
แฟล็ปแจ็ค ยอดนักผจญภัย พิมพ์ว่า:
Spoil
MarkZuckerberg พิมพ์ว่า:
Tommy Charlotte Jax Shelb พิมพ์ว่า:
MarkZuckerberg พิมพ์ว่า:
Tommy Charlotte Jax Shelb พิมพ์ว่า:
ผมไม่เห็นด้วยกับประโยคนี้เท่าไหร่เลย เพราะจริงๆเค้าทำขั้นตอนเพิ่มมาพอสมควรแล้วนะครับ ที่โดนส่วนใหญ่คือโอนไปให้จากการหลอกบ้างละ รีโมทบ้างละ พอถึงรีโมทมันก็เหมือนเรายื่นกุญแจบ้านให้โจรอะหรือโจรปลอมเป็นเราแล้วมากดเงินไปถามว่าธนาคารผิดทั้งหมดไหมก็ไม่ใช่อยู่ดี ผมไม่แน่ใจเรื่องรีโมทนี่ป้องกันไปได้ถึงไหนแล้วนะแต่เหมือนมันมีวิธีอยู่ใช่ไหมครับที่พอรีโมทแล้วมันจะมืดไปเหมือนที่เราแคปหน้าจอเน็ตฟลิกไม่ได้อะ ปัญหาหลักจริงที่ต้องช่วยกันเสริมภูมิต้านทานคือ humans OS มากกว่าครับ

บางอันคนกลัวความผิดว่าเงินหรือพัสดุงี้ๆๆๆคุณอาจจะโดนจับนะเลยต้องทำตามบลาๆๆ อันนี้ก็อีกกรณีนึงอีกที่โดนไม่น้อย

เรื่องเห็นใจแน่นอนเห็นใจอยู่แล้วคนรอบตัวโดนไปแสนนึงมั้งทั้งที่เป็นคนไม่น่าโดนที่สุดเป็นคนที่บอกคนอื่นว่าให้วางเถอะจะไปคุยเล่นมันทำไม สุดท้ายแกเพลี้ยงพล้ำเอง ผมก็เจ็บช้ำแทนแกเหมือนกัน


หน่วงเวลาก็ฉิบหายการค้าขายกันพอดีละมั้งหรือว่าไม่ขนาดครับ

 

ผมขอไม่เห็นด้วยกับท่านนะ ผู้ให้บริการ platform ควรจะออกแบบระบบแบบมีความรับผิดชอบต่อลูกค้าทุกคนครับ ยกตัวอย่างพี่ Mark Zuck เจ้าของ Facebook IG โดนวุฒิสภาและคนใช้งาน(ในบอร์ดนี้ก็บ่นแกอยู่ประจำ)สับเละอยูบ่อยๆเรื่อง scam cyberbully privacy pornography ของ platform ถึงแม้เค้าจะออก feature มาควบคุมก็แล้ว ใช้ AI ก็แล้ว มีcensorshipก็แล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่า Mark จะปัดความรับผิดชอบแล้วบอกว่า เอ้าก็พวกมึงดูกันเอง พวกมึงโดนหลอกกันเอง กดเข้าไปดูเอง platform ตูไม่เกี่ยว

ตัวอย่างอีกอันคือ Apple อะ คุณซื้อ Device เค้ามาคุณก็ต้อง expect feature ที่ช่วยเรื่องความปลอดภัยใช่มั้ย Apple ไม่เคยออกมาบอกว่า ก็เอ๊งคลิ๊กลิงค์เอง ก็เอ๊งโหลดappเถื่อนเอง เอ๊งแชร์ข้อมูลส่วนตัวเอง แต่ Apple และ Facebook ก็ยังต้อง implement และรับผิดชอบความปลอดภัยของผู้ใช้เป็นอันดับ 1 ไม่มีการบ่ายเบี่ยงทั้งนั้น

เพราะอะไรละ? ก็เพราะกฏหมายควบคุม Social Media, PDPA มันแรงไงครับ พวกนี้ถึงกุลีกุจอพยายามทำทุกวิธีปิดช่องโหว่ให้ได้ แม้หลายๆอย่างจะเป็นความประมาทหรือความผิดของผู้ใช้งานเอง ไม่งั้นบริษัทก็โดนฟ้อง เสียชื่อ เสียงเงิน

เพราะฉะนั้นผมเห็นด้วยกับข้อความนี้นะครับ ต้องมีแรงกระตุ้น financial platform พวกนี้เช่นกันครับ ที่ตอนนี้ลอยลำทุกอย่างไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ไม่มีรัฐบาลไปตามจี้ตูดออกกฏหมายควบคุมเหมือนพวก Apple Facebook

 
ป้องกันให้ตายสุดท้ายยื่นกุญแจบ้านให้โจรมันจะช่วยอะไรละครับ กรณีส่วนมากที่โดนคือโอนไปให้ กับรีโมทแทบทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าธนาคารปัดความรับผิดทั้งหมดซะที่ไหนละครับป้องกันไปก็ไม่ใช่น้อย ส่วนเรื่องappleผมไม่เข้าใจต้องการจะสื่ออะไรหรอครับ ประมาณว่าใช้แอปธนาคารมันต้องคาดหวังความปลอดภัยได้ในระดับเดียวกับที่แอปเปิ้ลทำเรื่องความปลอดภัยหรือปล่าวครับ

ผมว่าไม่ได้ลอยลำอะไรเลยนะเหมือนคุณให้บัตรatmพร้อมรหัสกับโจรไปกดตังอะครับ ธนาคารมันก็ป้องกันไว้แล้วทั้งบัตรมีชิพทั้งใส่รหัสผ่าน แต่คุณให้มันไปหมดเลยจากการที่มันหลอกคุณผ่านการคุย เรื่องรีโมทผมไม่แน่ใจว่าเค้าได้ทำการป้องหรือพัฒนาอะไรไปขั้นไหนแล้วนะถ้าตรงเรื่องนี้ก็พอเข้าเค้ากับประโยคที่บอกว่าไม่พัฒนาอยู่

ส่วนเรื่องสว.นั่นผมไม่ทราบเคยดูแบบละเอียดของมาร์ดเห็นต่ที่จะให้ceoติ๊กเป็นคนจีนให้ได้  

ลอยลำดิครับ ผมไม่เคยเห็น Bank ใหญ่ๆโดนรัฐบาลซักฟอกหรือบี้สักครั้งเดียว เทียบกับเคส Apple Google Facebook ถ้าไปดูคือโดนไล่บี้ตลอดทั้งจากผู้ใช้งานและรัฐบาล สว สส เค้าไม่มีมาบอกว่า "ป้องกันให้ตายสุดท้ายยื่นกุญแจบ้านให้โจรมันจะช่วยอะไรละครับ" หรอกครับ ผมแค่ไม่เห็นด้วยกับ mindset นี้
 
 


งง ไปเทียบกับเฟส แล้วทำไมไม่ไปเทียบกับแบงค์ในเมกา

คนโดนคอลเซนเตอร์หลอก แบงค์โดนรัฐบาลปรับเงิน หรือชดใช้ให้ผู้เสียหายไหมไหม  


อิงจากรายการที่วิโรจน์พูดในรายการที่กายเป้นพิธีกร อังกฤษเจอเคสแบบนี้ธนาคารต้องรับผิดชอบครึ่งนึงครับ
เหมือนมีข้อบังคับจากแบงก์ชาติ จนทำให้แบงก์สร้างระบบ slow payment ขึ้นมา วิโรจน์แกเลยอยากเอามาใช้

ละถ้าจำไม่ผิด ศาลไทย ตีความเคสแบบนี้ให้ธนาคารรับผิดชอบครึ่งนึงเหมือนกัน
แค่ของไทยคือคนต้องไปฟ้องสู้กับธนาคารผ่านระบบศาลเอาเอง ยังไม่ได้มีข้อบังคับจากฝั่งรัฐ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status: ถ้าคุณกรีดเลือดผมออกมา มันคงเป็นสีฟ้าแน่ๆ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Dec 2016
ตอบ: 8169
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Sep 13, 2024 02:26
[RE: ทำไมวิโรจน์ ไปซัดเศรษฐพุฒิ เรื่อง Call Center ซะล่ะ?]
ในส่วนนี้ธนาคารเค้าไม่ได้ปล่อยผ่าน หรือลอยตัวเฉยๆแบบที่คุณคิดอ่ะ
เค้าพยายามอัปเดต แก้ไข และพัฒนาอยู่ตลอด
ทุกวันนี้แอปธนาคารหลายๆธนาคารปิดกั้นหมดนะ ทั้งรีโมทแอป ทั้งการแชร์หน้าจอ
บางธนาคารยกเลิกอินเตอร์เน็ตแบงก์กิ้งไปแล้วด้วยซ้ำ

สุดท้ายปัญหาจริงๆเกิดจากยูสเซอร์เออเร่อทั้งนั้น
ลองดูข่าวในรอบปีที่ผ่านมาสิ แทบไม่เจอข่าวโดนดูดเงินจากแอปธนาคารแล้ว
ส่วนใหญ่ที่โดนคือไปโหลดแอปตามที่พี่มิจบอก หรือไม่ก็โอนด้วยตัวเองทั้งนั้น
แล้วทำไมธนาคารต้องมารับผิดชอบอะไรกับความผิดพลาดส่วนบุคคลด้วยอ่ะ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน



ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Apr 2020
ตอบ: 2030
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Sep 13, 2024 06:58
[RE: ทำไมวิโรจน์ ไปซัดเศรษฐพุฒิ เรื่อง Call Center ซะล่ะ?]
จับแพะชนแกะ ธนาคารหลังบ้านทำงานแทบตายกัน เหนื่อยทุกแบงค์ มีคอลกลางที่ต้องส่งเข้าแบงก์ชาติ มี ซีเคียวริตี้ ไกด์ไลน์ ก่อนถึง launch โปรดักส์ ได้
มี SLA มี commit สัญญา แค่แอปล้มกี่นาทีโดนค่าปรับ อีกเยอะแยะครับ

สเกล แอปโซลเชี่ยว กับ แอป ธนาคาร ก็ไม่เหมือนกันละ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status: เสียเหงื่อให้กีฬา ดีกว่าเสียน้ำตาให้คนหลอกลวง.
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Oct 2009
ตอบ: 2992
ที่อยู่: Old Trafford
โพสเมื่อ: Fri Sep 13, 2024 07:02
[RE: ทำไมวิโรจน์ ไปซัดเศรษฐพุฒิ เรื่อง Call Center ซะล่ะ?]
ผมพอเข้าใจที่อยากให้แบ้งมีการรับผิดชอบครึ่งหนึ่งกรณีคนที่โดนแบบ ป้องกันทุกอย่างแล้วจริงๆ แบบไม่ได้ยอมโอนเพราะเชื่อใจเขานะ แต่ก็ยังโดนอะ แต่สุดท้ายเกือบ 99% เลยคือ ยูสเซอร์เออเรอร์จริงๆครับ อย่างที่หลายๆเม้นบนยกตัวอย่างมา แอปตอนนี้ก็ป้องกันทุกอย่าง เตือนทุกอย่างแล้ว จนบางคนโดนล็อคบ่อยจนยังมาบ่นกับแบ้งเลยว่า ทำไมจะล็อคอะไรขนาดนั้น (ก็ตัวคุณเองใช้แบบไม่ระวังเองอะ) แต่สุดท้ายต้นตอจริงๆ ของแก๊ง Call Cemter คือใครละ ทำไมเราถึงไม่สามารถสาวไปแตะได้ถึงตรงนั้นได้ ซึ่งถ้าคิดง่ายๆก็น่าจะรู้ๆอยู่ว่ามูลมันออกมาว่าเป็นใคร อาชีพ อะไร ผมว่าตราบใดที่เราสาวไม่ถึงต้นน้ำ แก้ปลายน้ำไปก็เท่านั้นครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ค.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Aug 2009
ตอบ: 2693
ที่อยู่: ข้างๆOld Trafford
โพสเมื่อ: Fri Sep 13, 2024 07:09
[RE: ทำไมวิโรจน์ ไปซัดเศรษฐพุฒิ เรื่อง Call Center ซะล่ะ?]
บัญชีม้า มันก็คือ ธนาคารเปิดให้ ไหมเอ่ย ???

ถ้าธนาคารมีส่วนต้องรับผิดชอบ เรื่องบัญชีม้า จะเข้มขึ้นไหม

ส่วนเรื่อง ยูสเซอร์ นี่ปวดหัวจริง แล้วชอบเปิดmobile บัญชีหลักด้วยนะ ถ้า กำหนด บัญชีผูกmobile ห้ามเกิน5แสน
และ ไม่มีการลิ้งทุกบัญชี มารวมที่mobile หมด จะได้ไหม

เพราะมีช่วงนึงเหมือนมีการทำยอด ให้ผู้ใช้เปิดmobile โดย พนักงานธนาคาร ซึ่งก็น่าจะเป็นนโยบาย ของธนาคารเอง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

New Era of Tero
ออนไลน์
ผู้ช่วยแมวมอง
Status: ประชาชน
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Sep 2009
ตอบ: 40867
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Sep 13, 2024 07:40
[RE: ทำไมวิโรจน์ ไปซัดเศรษฐพุฒิ เรื่อง Call Center ซะล่ะ?]
zinman พิมพ์ว่า:
แบ้งต้องเข้มบัญชีม้ามากกว่านี้ หรือแบบใครมีประเด็นต้องอายัติมันทุกบัญชี ทุกธนาคารเลย ให้มันแสดงตัว แล้วมาอธิบายกันไปอะไรยังไง อาจจะดูโหดนะ แต่มันหนักจริงปัญหานี้  
บช ม้า ต้องมาจาก ปปง สั่งแบงค์ครับ

1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด "รถไฟ สุนัข เครื่องบิน สกอตแลนด์ และชัยชนะ"


tenHag,Rashford,Sancho,Antony => OUT... ค
ออนไลน์
ผู้ช่วยแมวมอง
Status: ประชาชน
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Sep 2009
ตอบ: 40867
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Sep 13, 2024 07:43
[RE: ทำไมวิโรจน์ ไปซัดเศรษฐพุฒิ เรื่อง Call Center ซะล่ะ?]
ArctiCz-AiR พิมพ์ว่า:
บัญชีม้า มันก็คือ ธนาคารเปิดให้ ไหมเอ่ย ???

ถ้าธนาคารมีส่วนต้องรับผิดชอบ เรื่องบัญชีม้า จะเข้มขึ้นไหม

ส่วนเรื่อง ยูสเซอร์ นี่ปวดหัวจริง แล้วชอบเปิดmobile บัญชีหลักด้วยนะ ถ้า กำหนด บัญชีผูกmobile ห้ามเกิน5แสน
และ ไม่มีการลิ้งทุกบัญชี มารวมที่mobile หมด จะได้ไหม

เพราะมีช่วงนึงเหมือนมีการทำยอด ให้ผู้ใช้เปิดmobile โดย พนักงานธนาคาร ซึ่งก็น่าจะเป็นนโยบาย ของธนาคารเอง  
ธ ต้องเปิด ถ้า ปชช เดินมาขอเปิดเอง กรณีคนไม่มีประวัติ

แต่ถ้ามีประวัตืแล้ว มันจะแจ้งเตือนในระบบอยู่แล้วครับ

บช ม้าจะมีข้อมูลมาจาก ปปง เลย
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด "รถไฟ สุนัข เครื่องบิน สกอตแลนด์ และชัยชนะ"


tenHag,Rashford,Sancho,Antony => OUT... ค
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 08 Mar 2024
ตอบ: 78
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Sep 13, 2024 09:14
[RE: ทำไมวิโรจน์ ไปซัดเศรษฐพุฒิ เรื่อง Call Center ซะล่ะ?]
รอบนี้ผมไม่เห็นด้วยกับคุณวิโรจน์แฮะ เคสส่วนใหญ่ก็คือโดนหลอกให้โอนกับไปติดตั้งแอพที่อนุญาตให้รีโมทเข้ามาในเครื่องทั้งนั้น เกมนี้มันเหมือนแมวจับหนูอะ คือป้องกันไม่ให้โกง มิจฉาชีพมันก็ไปหาวิธีใหม่ๆมา แน่นอนว่าธนาคารก็ควรต้องหาวิธีป้องกันให้ได้มากที่สุดซึ่งผมก็เห็นว่าเค้าก็พยายามปรับปรุงอยู่ตลอด ไม่ได้ปล่อยไปเฉยๆ แล้วเค้าเองก็ต้อง Balance ระหว่างการป้องกันคนโดนหลอกโอนเงินกับ User experience ที่ดี ถ้าคิดแต่จะป้องกันจนทำให้กระทบการใช้งานของลูกค้าส่วนใหญ่ ก็ไม่ถูกต้องรึเปล่า
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักเตะเทศบาล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Jan 2022
ตอบ: 1515
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Sep 13, 2024 09:43
[RE: ทำไมวิโรจน์ ไปซัดเศรษฐพุฒิ เรื่อง Call Center ซะล่ะ?]
เทียบเคสนี้เหมือนกับว่า
คุณโดนหลอกให้รหัสผ่านแอปเปิ้ลไอดีกับโจรอะครับ

ถ้ามันถึงขั้นนั้นแอปเปิ้ลก็หมดปัญญาจะช่วยคุณละครับ

คือความยาก คนเรามีสิทธิเปิดบัญชี แบงค์ก็พยายามบอกแล้วอย่าทำๆ
คนแม่มเห็นแก่เงินหลักร้อยจะเอาให้ได้ คุณอยากได้อะไรจากตรงนี้ล่ะ
แบงค์ก็มีระบบป้องกันคนมีประวัติประมาณนึงละ
แก้ไขล่าสุดโดย เราเป็นใครหรอ เมื่อ Fri Sep 13, 2024 09:44, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักเตะหมู่บ้าน
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 02 Oct 2013
ตอบ: 621
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Sep 13, 2024 09:47
[RE: ทำไมวิโรจน์ ไปซัดเศรษฐพุฒิ เรื่อง Call Center ซะล่ะ?]
MarkZuckerberg พิมพ์ว่า:
kaiitongs พิมพ์ว่า:
Spoil
MarkZuckerberg พิมพ์ว่า:
Tommy Charlotte Jax Shelb พิมพ์ว่า:
MarkZuckerberg พิมพ์ว่า:
Tommy Charlotte Jax Shelb พิมพ์ว่า:
ผมไม่เห็นด้วยกับประโยคนี้เท่าไหร่เลย เพราะจริงๆเค้าทำขั้นตอนเพิ่มมาพอสมควรแล้วนะครับ ที่โดนส่วนใหญ่คือโอนไปให้จากการหลอกบ้างละ รีโมทบ้างละ พอถึงรีโมทมันก็เหมือนเรายื่นกุญแจบ้านให้โจรอะหรือโจรปลอมเป็นเราแล้วมากดเงินไปถามว่าธนาคารผิดทั้งหมดไหมก็ไม่ใช่อยู่ดี ผมไม่แน่ใจเรื่องรีโมทนี่ป้องกันไปได้ถึงไหนแล้วนะแต่เหมือนมันมีวิธีอยู่ใช่ไหมครับที่พอรีโมทแล้วมันจะมืดไปเหมือนที่เราแคปหน้าจอเน็ตฟลิกไม่ได้อะ ปัญหาหลักจริงที่ต้องช่วยกันเสริมภูมิต้านทานคือ humans OS มากกว่าครับ

บางอันคนกลัวความผิดว่าเงินหรือพัสดุงี้ๆๆๆคุณอาจจะโดนจับนะเลยต้องทำตามบลาๆๆ อันนี้ก็อีกกรณีนึงอีกที่โดนไม่น้อย

เรื่องเห็นใจแน่นอนเห็นใจอยู่แล้วคนรอบตัวโดนไปแสนนึงมั้งทั้งที่เป็นคนไม่น่าโดนที่สุดเป็นคนที่บอกคนอื่นว่าให้วางเถอะจะไปคุยเล่นมันทำไม สุดท้ายแกเพลี้ยงพล้ำเอง ผมก็เจ็บช้ำแทนแกเหมือนกัน


หน่วงเวลาก็ฉิบหายการค้าขายกันพอดีละมั้งหรือว่าไม่ขนาดครับ

 

ผมขอไม่เห็นด้วยกับท่านนะ ผู้ให้บริการ platform ควรจะออกแบบระบบแบบมีความรับผิดชอบต่อลูกค้าทุกคนครับ ยกตัวอย่างพี่ Mark Zuck เจ้าของ Facebook IG โดนวุฒิสภาและคนใช้งาน(ในบอร์ดนี้ก็บ่นแกอยู่ประจำ)สับเละอยูบ่อยๆเรื่อง scam cyberbully privacy pornography ของ platform ถึงแม้เค้าจะออก feature มาควบคุมก็แล้ว ใช้ AI ก็แล้ว มีcensorshipก็แล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่า Mark จะปัดความรับผิดชอบแล้วบอกว่า เอ้าก็พวกมึงดูกันเอง พวกมึงโดนหลอกกันเอง กดเข้าไปดูเอง platform ตูไม่เกี่ยว

ตัวอย่างอีกอันคือ Apple อะ คุณซื้อ Device เค้ามาคุณก็ต้อง expect feature ที่ช่วยเรื่องความปลอดภัยใช่มั้ย Apple ไม่เคยออกมาบอกว่า ก็เอ๊งคลิ๊กลิงค์เอง ก็เอ๊งโหลดappเถื่อนเอง เอ๊งแชร์ข้อมูลส่วนตัวเอง แต่ Apple และ Facebook ก็ยังต้อง implement และรับผิดชอบความปลอดภัยของผู้ใช้เป็นอันดับ 1 ไม่มีการบ่ายเบี่ยงทั้งนั้น

เพราะอะไรละ? ก็เพราะกฏหมายควบคุม Social Media, PDPA มันแรงไงครับ พวกนี้ถึงกุลีกุจอพยายามทำทุกวิธีปิดช่องโหว่ให้ได้ แม้หลายๆอย่างจะเป็นความประมาทหรือความผิดของผู้ใช้งานเอง ไม่งั้นบริษัทก็โดนฟ้อง เสียชื่อ เสียงเงิน

เพราะฉะนั้นผมเห็นด้วยกับข้อความนี้นะครับ ต้องมีแรงกระตุ้น financial platform พวกนี้เช่นกันครับ ที่ตอนนี้ลอยลำทุกอย่างไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ไม่มีรัฐบาลไปตามจี้ตูดออกกฏหมายควบคุมเหมือนพวก Apple Facebook

 
ป้องกันให้ตายสุดท้ายยื่นกุญแจบ้านให้โจรมันจะช่วยอะไรละครับ กรณีส่วนมากที่โดนคือโอนไปให้ กับรีโมทแทบทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าธนาคารปัดความรับผิดทั้งหมดซะที่ไหนละครับป้องกันไปก็ไม่ใช่น้อย ส่วนเรื่องappleผมไม่เข้าใจต้องการจะสื่ออะไรหรอครับ ประมาณว่าใช้แอปธนาคารมันต้องคาดหวังความปลอดภัยได้ในระดับเดียวกับที่แอปเปิ้ลทำเรื่องความปลอดภัยหรือปล่าวครับ

ผมว่าไม่ได้ลอยลำอะไรเลยนะเหมือนคุณให้บัตรatmพร้อมรหัสกับโจรไปกดตังอะครับ ธนาคารมันก็ป้องกันไว้แล้วทั้งบัตรมีชิพทั้งใส่รหัสผ่าน แต่คุณให้มันไปหมดเลยจากการที่มันหลอกคุณผ่านการคุย เรื่องรีโมทผมไม่แน่ใจว่าเค้าได้ทำการป้องหรือพัฒนาอะไรไปขั้นไหนแล้วนะถ้าตรงเรื่องนี้ก็พอเข้าเค้ากับประโยคที่บอกว่าไม่พัฒนาอยู่

ส่วนเรื่องสว.นั่นผมไม่ทราบเคยดูแบบละเอียดของมาร์ดเห็นต่ที่จะให้ceoติ๊กเป็นคนจีนให้ได้  

ลอยลำดิครับ ผมไม่เคยเห็น Bank ใหญ่ๆโดนรัฐบาลซักฟอกหรือบี้สักครั้งเดียว เทียบกับเคส Apple Google Facebook ถ้าไปดูคือโดนไล่บี้ตลอดทั้งจากผู้ใช้งานและรัฐบาล สว สส เค้าไม่มีมาบอกว่า "ป้องกันให้ตายสุดท้ายยื่นกุญแจบ้านให้โจรมันจะช่วยอะไรละครับ" หรอกครับ ผมแค่ไม่เห็นด้วยกับ mindset นี้
 
 

ท่านเอา social platform ไปเทียบกับ ธนาคารไม่ได้ได้มั้ยอะครับ ในเมื่อ mindset นี้ยังเป็นจริงอยู่อะ มันไม่ใช่การยื่นกุญแจให้โจรด้วยซ้ำมันคือโจรยืนพูดอยู่หน้าบ้านแล้วท่านเอาเงินออกมาให้เลย บ้านท่านเองจะกันรั้วประตูเป็นร้อยชั้นก็ได้แต่ถ้าท่านเป็นคนเปิดยังไงท่านก็เข้าได้อะ  

มีเหตุผลใดเอามาเทียบไม่ได้ครับ

ผู้ใช้เป็นคนควบคุมทุกอย่างเช่นเดียวกัน (โหลดแอปเอง คลิ๊กLinkเอง เปิดอ่านข้อความbullyเอง สมัครใช้งานเอง ต่อไวไฟเอง โพสเรื่องส่วนตัวลงเองอย่างเต็มใจ) มันก็เหมือนคุณ "เปิดประตูเป็นร้อยชั้นเอง" ทั้งนั้นมั้ยละครับ ลองคิดดูดีๆ

ไม่งั้นอธิบายมาหน่อยว่าแตกต่างกันยังไงระหว่าง platform ที่ผมว่ากับ financial platform  

ก็นั่นแหละครับเฟสบุคก็ทำเองทุกอย่าง โดน scam ทุกอย่างอยู่บนเฟซ คนโดนก็แจ้งฟ้องได้ถามว่าเฟซบุคต้องชดใช้เงินมั้ยถ้าโดนบนโกงบนเฟสหรือเค้าต้องแก้ป้องกันแบนพวกนี้ออกเพราะต้องการให้คนยังใช้ paltform ตัวเองอยู่ หรือผิดที่ธนาคารอีกเพราะโอนออกจากธนาคารทำไมไม่รู้ว่าคนนี้โดนโกงอะ คิดง่ายถ้าเปลี่ยนจากโทรมาหลอกเป็นแชทเฟสปลอมมาหลอกแล้วคนกดโอนเงินออกไปให้โจร แบบนี้ผิดที่ใครครับธนาคารใช่มั้ยต้องคืนเงินผู้เสียหาย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel