ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออนไลน์
แข้งบุนเดสลีกา
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Oct 2006
ตอบ: 2966
ที่อยู่: เดนมาร์ก
โพสเมื่อ: Thu Sep 12, 2024 22:34
ทำไมวิโรจน์ ไปซัดเศรษฐพุฒิ เรื่อง Call Center ซะล่ะ?
ในมุมที่ เค้าเพิ่มระบบสแกนหน้า ก็มีคนบ่น
ถ้าเพิ่มหน่วงเวลา จะไม่เดือดกันเหรอ?

เพราะ ในทางเดียวกัน DE กับ ตำรวจ ก็ไม่ได้เห็นจะทำอะไรที่ได้เรื่อง

แล้วมันก็เป็นปัญหาที่ Literacy จริงๆ
คือ ป้องกันไปสุดๆ ก็ยังหาเรื่องแหกไปจ่ายกันจนได้

ส่วนนโยบาย Slow Payment ถ้าจะทำจริงๆ
มันต้องมีผลการศึกษา อะไรมายืนยันป่ะหว่า?
แล้วต้องมีการศึกษาผลกระทบแง่ลบด้วย

อย่าง...เอาง่ายๆ ถ้าจะโกง ก้อนใหญ่ด้วย
ก็โอน Hold แล้วดึงกลับ ปัญหาพวกนี้จะโผล่ให้ธนาคาร-ตำรวจ ปวดหัวอีกละ



แก้ไขล่าสุดโดย Adios2nd เมื่อ Thu Sep 12, 2024 22:43, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 08 Apr 2024
ตอบ: 1864
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Sep 12, 2024 23:06
Top Comment [RE: ทำไมวิโรจน์ ไปซัดเศรษฐพุฒิ เรื่อง Call Center ซะล่ะ?]
Tommy Charlotte Jax Shelb พิมพ์ว่า:
ผมไม่เห็นด้วยกับประโยคนี้เท่าไหร่เลย เพราะจริงๆเค้าทำขั้นตอนเพิ่มมาพอสมควรแล้วนะครับ ที่โดนส่วนใหญ่คือโอนไปให้จากการหลอกบ้างละ รีโมทบ้างละ พอถึงรีโมทมันก็เหมือนเรายื่นกุญแจบ้านให้โจรอะหรือโจรปลอมเป็นเราแล้วมากดเงินไปถามว่าธนาคารผิดทั้งหมดไหมก็ไม่ใช่อยู่ดี ผมไม่แน่ใจเรื่องรีโมทนี่ป้องกันไปได้ถึงไหนแล้วนะแต่เหมือนมันมีวิธีอยู่ใช่ไหมครับที่พอรีโมทแล้วมันจะมืดไปเหมือนที่เราแคปหน้าจอเน็ตฟลิกไม่ได้อะ ปัญหาหลักจริงที่ต้องช่วยกันเสริมภูมิต้านทานคือ humans OS มากกว่าครับ

บางอันคนกลัวความผิดว่าเงินหรือพัสดุงี้ๆๆๆคุณอาจจะโดนจับนะเลยต้องทำตามบลาๆๆ อันนี้ก็อีกกรณีนึงอีกที่โดนไม่น้อย

เรื่องเห็นใจแน่นอนเห็นใจอยู่แล้วคนรอบตัวโดนไปแสนนึงมั้งทั้งที่เป็นคนไม่น่าโดนที่สุดเป็นคนที่บอกคนอื่นว่าให้วางเถอะจะไปคุยเล่นมันทำไม สุดท้ายแกเพลี้ยงพล้ำเอง ผมก็เจ็บช้ำแทนแกเหมือนกัน


หน่วงเวลาก็ฉิบหายการค้าขายกันพอดีละมั้งหรือว่าไม่ขนาดครับ

 

ผมขอไม่เห็นด้วยกับท่านนะ ผู้ให้บริการ platform ควรจะออกแบบระบบแบบมีความรับผิดชอบต่อลูกค้าทุกคนครับ ยกตัวอย่างพี่ Mark Zuck เจ้าของ Facebook IG โดนวุฒิสภาและคนใช้งาน(ในบอร์ดนี้ก็บ่นแกอยู่ประจำ)สับเละอยูบ่อยๆเรื่อง scam cyberbully privacy pornography ของ platform ถึงแม้เค้าจะออก feature มาควบคุมก็แล้ว ใช้ AI ก็แล้ว มีcensorshipก็แล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่า Mark จะปัดความรับผิดชอบแล้วบอกว่า เอ้าก็พวกมึงดูกันเอง พวกมึงโดนหลอกกันเอง กดเข้าไปดูเอง platform ตูไม่เกี่ยว

ตัวอย่างอีกอันคือ Apple อะ คุณซื้อ Device เค้ามาคุณก็ต้อง expect feature ที่ช่วยเรื่องความปลอดภัยใช่มั้ย Apple ไม่เคยออกมาบอกว่า ก็เอ๊งคลิ๊กลิงค์เอง ก็เอ๊งโหลดappเถื่อนเอง เอ๊งแชร์ข้อมูลส่วนตัวเอง แต่ Apple และ Facebook ก็ยังต้อง implement และรับผิดชอบความปลอดภัยของผู้ใช้เป็นอันดับ 1 ไม่มีการบ่ายเบี่ยงทั้งนั้น

เพราะอะไรละ? ก็เพราะกฏหมายควบคุม Social Media, PDPA มันแรงไงครับ พวกนี้ถึงกุลีกุจอพยายามทำทุกวิธีปิดช่องโหว่ให้ได้ แม้หลายๆอย่างจะเป็นความประมาทหรือความผิดของผู้ใช้งานเอง ไม่งั้นบริษัทก็โดนฟ้อง เสียชื่อ เสียงเงิน

เพราะฉะนั้นผมเห็นด้วยกับข้อความนี้นะครับ ต้องมีแรงกระตุ้น financial platform พวกนี้เช่นกันครับ ที่ตอนนี้ลอยลำทุกอย่างไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ไม่มีรัฐบาลไปตามจี้ตูดออกกฏหมายควบคุมเหมือนพวก Apple Facebook

ผมเห็นด้วยกับวิโรจน์เลยต้องกล้าออก regulation ให้เหี้ยมกว่านี้กับพวก Bank ทั้งหลาย ไม่ได้หมายถึงเพิ่มขั้นตอนอย่างเดียวนะ แต่ต้องออกกฏหมายให้ Bank มีส่วนได้เสียกับกรณีทั้งหลายไม่ทางใดก็ทางหนึ่งให้มันเสียตังมันถึงจะกระตือรือล้น

แก้ไขล่าสุดโดย MarkZuckerberg เมื่อ Thu Sep 12, 2024 23:12, ทั้งหมด 5 ครั้ง
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status: Let it be me
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 17 Jan 2007
ตอบ: 3197
ที่อยู่: หลังบ้านเวงเกอร์
โพสเมื่อ: Thu Sep 12, 2024 22:46
ทำไมวิโรจน์ ไปซัดเศรษฐพุฒิ เรื่อง Call Center ซะล่ะ?
ฝ่ายค้านแบบแอคทีฟ

ถ้า ธปท ออกแอ็คชั่น ตามที่วิโรจน์ขอนี่ รัฐบาลหน้าชาเลยนะ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ค.
Status: Don't give a f
: 1 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Nov 2010
ตอบ: 6003
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Sep 12, 2024 22:50
[RE: ทำไมวิโรจน์ ไปซัดเศรษฐพุฒิ เรื่อง Call Center ซะล่ะ?]
ผมไม่เห็นด้วยกับประโยคนี้เท่าไหร่เลย เพราะจริงๆเค้าทำขั้นตอนเพิ่มมาพอสมควรแล้วนะครับ ที่โดนส่วนใหญ่คือโอนไปให้จากการหลอกบ้างละ รีโมทบ้างละ พอถึงรีโมทมันก็เหมือนเรายื่นกุญแจบ้านให้โจรอะหรือโจรปลอมเป็นเราแล้วมากดเงินไปถามว่าธนาคารผิดทั้งหมดไหมก็ไม่ใช่อยู่ดี ผมไม่แน่ใจเรื่องรีโมทนี่ป้องกันไปได้ถึงไหนแล้วนะแต่เหมือนมันมีวิธีอยู่ใช่ไหมครับที่พอรีโมทแล้วมันจะมืดไปเหมือนที่เราแคปหน้าจอเน็ตฟลิกไม่ได้อะ ปัญหาหลักจริงที่ต้องช่วยกันเสริมภูมิต้านทานคือ humans OS มากกว่าครับ

บางอันคนกลัวความผิดว่าเงินหรือพัสดุงี้ๆๆๆคุณอาจจะโดนจับนะเลยต้องทำตามบลาๆๆ อันนี้ก็อีกกรณีนึงอีกที่โดนไม่น้อย

เรื่องเห็นใจแน่นอนเห็นใจอยู่แล้วคนรอบตัวโดนไปแสนนึงมั้งทั้งที่เป็นคนไม่น่าโดนที่สุดเป็นคนที่บอกคนอื่นว่าให้วางเถอะจะไปคุยเล่นมันทำไม สุดท้ายแกเพลี้ยงพล้ำเอง ผมก็เจ็บช้ำแทนแกเหมือนกัน


หน่วงเวลาก็ฉิบหายการค้าขายกันพอดีละมั้งหรือว่าไม่ขนาดครับ

3
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Oct 2019
ตอบ: 15563
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Sep 12, 2024 22:58
[RE: ทำไมวิโรจน์ ไปซัดเศรษฐพุฒิ เรื่อง Call Center ซะล่ะ?]
Tommy Charlotte Jax Shelb พิมพ์ว่า:
ผมไม่เห็นด้วยกับประโยคนี้เท่าไหร่เลย เพราะจริงๆเค้าทำขั้นตอนเพิ่มมาพอสมควรแล้วนะครับ ที่โดนส่วนใหญ่คือโอนไปให้จากการหลอกบ้างละ รีโมทบ้างละ พอถึงรีโมทมันก็เหมือนเรายื่นกุญแจบ้านให้โจรอะหรือโจรปลอมเป็นเราแล้วมากดเงินไปถามว่าธนาคารผิดทั้งหมดไหมก็ไม่ใช่อยู่ดี ผมไม่แน่ใจเรื่องรีโมทนี่ป้องกันไปได้ถึงไหนแล้วนะแต่เหมือนมันมีวิธีอยู่ใช่ไหมครับที่พอรีโมทแล้วมันจะมืดไปเหมือนที่เราแคปหน้าจอเน็ตฟลิกไม่ได้อะ ปัญหาหลักจริงที่ต้องช่วยกันเสริมภูมิต้านทานคือ humans OS มากกว่าครับ

บางอันคนกลัวความผิดว่าเงินหรือพัสดุงี้ๆๆๆคุณอาจจะโดนจับนะเลยต้องทำตามบลาๆๆ อันนี้ก็อีกกรณีนึงอีกที่โดนไม่น้อย

เรื่องเห็นใจแน่นอนเห็นใจอยู่แล้วคนรอบตัวโดนไปแสนนึงมั้งทั้งที่เป็นคนไม่น่าโดนที่สุดเป็นคนที่บอกคนอื่นว่าให้วางเถอะจะไปคุยเล่นมันทำไม สุดท้ายแกเพลี้ยงพล้ำเอง ผมก็เจ็บช้ำแทนแกเหมือนกัน


หน่วงเวลาก็ฉิบหายการค้าขายกันพอดีละมั้งหรือว่าไม่ขนาดครับ

 


อันนี้ผมเห็นด้วยนะ ธนาคารมันจะไปทำไรได้อะ ทั้งที่มันก็มี procedure ของมันอยู่แล้ว

คือมันเป็น External factor ที่ธนาคารควบคุมไม่ได้อะ
4
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 08 Apr 2024
ตอบ: 1864
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Sep 12, 2024 23:06
[RE: ทำไมวิโรจน์ ไปซัดเศรษฐพุฒิ เรื่อง Call Center ซะล่ะ?]
Tommy Charlotte Jax Shelb พิมพ์ว่า:
ผมไม่เห็นด้วยกับประโยคนี้เท่าไหร่เลย เพราะจริงๆเค้าทำขั้นตอนเพิ่มมาพอสมควรแล้วนะครับ ที่โดนส่วนใหญ่คือโอนไปให้จากการหลอกบ้างละ รีโมทบ้างละ พอถึงรีโมทมันก็เหมือนเรายื่นกุญแจบ้านให้โจรอะหรือโจรปลอมเป็นเราแล้วมากดเงินไปถามว่าธนาคารผิดทั้งหมดไหมก็ไม่ใช่อยู่ดี ผมไม่แน่ใจเรื่องรีโมทนี่ป้องกันไปได้ถึงไหนแล้วนะแต่เหมือนมันมีวิธีอยู่ใช่ไหมครับที่พอรีโมทแล้วมันจะมืดไปเหมือนที่เราแคปหน้าจอเน็ตฟลิกไม่ได้อะ ปัญหาหลักจริงที่ต้องช่วยกันเสริมภูมิต้านทานคือ humans OS มากกว่าครับ

บางอันคนกลัวความผิดว่าเงินหรือพัสดุงี้ๆๆๆคุณอาจจะโดนจับนะเลยต้องทำตามบลาๆๆ อันนี้ก็อีกกรณีนึงอีกที่โดนไม่น้อย

เรื่องเห็นใจแน่นอนเห็นใจอยู่แล้วคนรอบตัวโดนไปแสนนึงมั้งทั้งที่เป็นคนไม่น่าโดนที่สุดเป็นคนที่บอกคนอื่นว่าให้วางเถอะจะไปคุยเล่นมันทำไม สุดท้ายแกเพลี้ยงพล้ำเอง ผมก็เจ็บช้ำแทนแกเหมือนกัน


หน่วงเวลาก็ฉิบหายการค้าขายกันพอดีละมั้งหรือว่าไม่ขนาดครับ

 

ผมขอไม่เห็นด้วยกับท่านนะ ผู้ให้บริการ platform ควรจะออกแบบระบบแบบมีความรับผิดชอบต่อลูกค้าทุกคนครับ ยกตัวอย่างพี่ Mark Zuck เจ้าของ Facebook IG โดนวุฒิสภาและคนใช้งาน(ในบอร์ดนี้ก็บ่นแกอยู่ประจำ)สับเละอยูบ่อยๆเรื่อง scam cyberbully privacy pornography ของ platform ถึงแม้เค้าจะออก feature มาควบคุมก็แล้ว ใช้ AI ก็แล้ว มีcensorshipก็แล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่า Mark จะปัดความรับผิดชอบแล้วบอกว่า เอ้าก็พวกมึงดูกันเอง พวกมึงโดนหลอกกันเอง กดเข้าไปดูเอง platform ตูไม่เกี่ยว

ตัวอย่างอีกอันคือ Apple อะ คุณซื้อ Device เค้ามาคุณก็ต้อง expect feature ที่ช่วยเรื่องความปลอดภัยใช่มั้ย Apple ไม่เคยออกมาบอกว่า ก็เอ๊งคลิ๊กลิงค์เอง ก็เอ๊งโหลดappเถื่อนเอง เอ๊งแชร์ข้อมูลส่วนตัวเอง แต่ Apple และ Facebook ก็ยังต้อง implement และรับผิดชอบความปลอดภัยของผู้ใช้เป็นอันดับ 1 ไม่มีการบ่ายเบี่ยงทั้งนั้น

เพราะอะไรละ? ก็เพราะกฏหมายควบคุม Social Media, PDPA มันแรงไงครับ พวกนี้ถึงกุลีกุจอพยายามทำทุกวิธีปิดช่องโหว่ให้ได้ แม้หลายๆอย่างจะเป็นความประมาทหรือความผิดของผู้ใช้งานเอง ไม่งั้นบริษัทก็โดนฟ้อง เสียชื่อ เสียงเงิน

เพราะฉะนั้นผมเห็นด้วยกับข้อความนี้นะครับ ต้องมีแรงกระตุ้น financial platform พวกนี้เช่นกันครับ ที่ตอนนี้ลอยลำทุกอย่างไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ไม่มีรัฐบาลไปตามจี้ตูดออกกฏหมายควบคุมเหมือนพวก Apple Facebook

ผมเห็นด้วยกับวิโรจน์เลยต้องกล้าออก regulation ให้เหี้ยมกว่านี้กับพวก Bank ทั้งหลาย ไม่ได้หมายถึงเพิ่มขั้นตอนอย่างเดียวนะ แต่ต้องออกกฏหมายให้ Bank มีส่วนได้เสียกับกรณีทั้งหลายไม่ทางใดก็ทางหนึ่งให้มันเสียตังมันถึงจะกระตือรือล้น

แก้ไขล่าสุดโดย MarkZuckerberg เมื่อ Thu Sep 12, 2024 23:12, ทั้งหมด 5 ครั้ง
ออฟไลน์
นักเตะหมู่บ้าน
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 02 Oct 2013
ตอบ: 618
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Sep 12, 2024 23:11
[RE: ทำไมวิโรจน์ ไปซัดเศรษฐพุฒิ เรื่อง Call Center ซะล่ะ?]
ถ้าจากที่โดนหลอกกันท่างแก้เดียวคือยกเลิก mobile banking หละมั้งหนะ
เอาแบบเมืองนอกที่ได้เงินคืนคือหน่วงเงินไว้ก่อน ถ้าโอนเงินแล้วต้องรอ 1 วันเงินค่อยเข้าจะรอกันมั้ย
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ค.
Status: Don't give a f
: 1 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Nov 2010
ตอบ: 6003
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Sep 12, 2024 23:22
[RE: ทำไมวิโรจน์ ไปซัดเศรษฐพุฒิ เรื่อง Call Center ซะล่ะ?]
MarkZuckerberg พิมพ์ว่า:
Tommy Charlotte Jax Shelb พิมพ์ว่า:
ผมไม่เห็นด้วยกับประโยคนี้เท่าไหร่เลย เพราะจริงๆเค้าทำขั้นตอนเพิ่มมาพอสมควรแล้วนะครับ ที่โดนส่วนใหญ่คือโอนไปให้จากการหลอกบ้างละ รีโมทบ้างละ พอถึงรีโมทมันก็เหมือนเรายื่นกุญแจบ้านให้โจรอะหรือโจรปลอมเป็นเราแล้วมากดเงินไปถามว่าธนาคารผิดทั้งหมดไหมก็ไม่ใช่อยู่ดี ผมไม่แน่ใจเรื่องรีโมทนี่ป้องกันไปได้ถึงไหนแล้วนะแต่เหมือนมันมีวิธีอยู่ใช่ไหมครับที่พอรีโมทแล้วมันจะมืดไปเหมือนที่เราแคปหน้าจอเน็ตฟลิกไม่ได้อะ ปัญหาหลักจริงที่ต้องช่วยกันเสริมภูมิต้านทานคือ humans OS มากกว่าครับ

บางอันคนกลัวความผิดว่าเงินหรือพัสดุงี้ๆๆๆคุณอาจจะโดนจับนะเลยต้องทำตามบลาๆๆ อันนี้ก็อีกกรณีนึงอีกที่โดนไม่น้อย

เรื่องเห็นใจแน่นอนเห็นใจอยู่แล้วคนรอบตัวโดนไปแสนนึงมั้งทั้งที่เป็นคนไม่น่าโดนที่สุดเป็นคนที่บอกคนอื่นว่าให้วางเถอะจะไปคุยเล่นมันทำไม สุดท้ายแกเพลี้ยงพล้ำเอง ผมก็เจ็บช้ำแทนแกเหมือนกัน


หน่วงเวลาก็ฉิบหายการค้าขายกันพอดีละมั้งหรือว่าไม่ขนาดครับ

 

ผมขอไม่เห็นด้วยกับท่านนะ ผู้ให้บริการ platform ควรจะออกแบบระบบแบบมีความรับผิดชอบต่อลูกค้าทุกคนครับ ยกตัวอย่างพี่ Mark Zuck เจ้าของ Facebook IG โดนวุฒิสภาและคนใช้งาน(ในบอร์ดนี้ก็บ่นแกอยู่ประจำ)สับเละอยูบ่อยๆเรื่อง scam cyberbully privacy pornography ของ platform ถึงแม้เค้าจะออก feature มาควบคุมก็แล้ว ใช้ AI ก็แล้ว มีcensorshipก็แล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่า Mark จะปัดความรับผิดชอบแล้วบอกว่า เอ้าก็พวกมึงดูกันเอง พวกมึงโดนหลอกกันเอง กดเข้าไปดูเอง platform ตูไม่เกี่ยว

ตัวอย่างอีกอันคือ Apple อะ คุณซื้อ Device เค้ามาคุณก็ต้อง expect feature ที่ช่วยเรื่องความปลอดภัยใช่มั้ย Apple ไม่เคยออกมาบอกว่า ก็เอ๊งคลิ๊กลิงค์เอง ก็เอ๊งโหลดappเถื่อนเอง เอ๊งแชร์ข้อมูลส่วนตัวเอง แต่ Apple และ Facebook ก็ยังต้อง implement และรับผิดชอบความปลอดภัยของผู้ใช้เป็นอันดับ 1 ไม่มีการบ่ายเบี่ยงทั้งนั้น

เพราะอะไรละ? ก็เพราะกฏหมายควบคุม Social Media, PDPA มันแรงไงครับ พวกนี้ถึงกุลีกุจอพยายามทำทุกวิธีปิดช่องโหว่ให้ได้ แม้หลายๆอย่างจะเป็นความประมาทหรือความผิดของผู้ใช้งานเอง ไม่งั้นบริษัทก็โดนฟ้อง เสียชื่อ เสียงเงิน

เพราะฉะนั้นผมเห็นด้วยกับข้อความนี้นะครับ ต้องมีแรงกระตุ้น financial platform พวกนี้เช่นกันครับ ที่ตอนนี้ลอยลำทุกอย่างไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ไม่มีรัฐบาลไปตามจี้ตูดออกกฏหมายควบคุมเหมือนพวก Apple Facebook

 
ป้องกันให้ตายสุดท้ายยื่นกุญแจบ้านให้โจรมันจะช่วยอะไรละครับ กรณีส่วนมากที่โดนคือโอนไปให้ กับรีโมทแทบทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าธนาคารปัดความรับผิดทั้งหมดซะที่ไหนละครับป้องกันไปก็ไม่ใช่น้อย ส่วนเรื่องappleผมไม่เข้าใจต้องการจะสื่ออะไรหรอครับ ประมาณว่าใช้แอปธนาคารมันต้องคาดหวังความปลอดภัยได้ในระดับเดียวกับที่แอปเปิ้ลทำเรื่องความปลอดภัยหรือปล่าวครับ

ผมว่าไม่ได้ลอยลำอะไรเลยนะเหมือนคุณให้บัตรatmพร้อมรหัสกับโจรไปกดตังอะครับ ธนาคารมันก็ป้องกันไว้แล้วทั้งบัตรมีชิพทั้งใส่รหัสผ่าน แต่คุณให้มันไปหมดเลยจากการที่มันหลอกคุณผ่านการคุย เรื่องรีโมทผมไม่แน่ใจว่าเค้าได้ทำการป้องหรือพัฒนาอะไรไปขั้นไหนแล้วนะถ้าตรงเรื่องนี้ก็พอเข้าเค้ากับประโยคที่บอกว่าไม่พัฒนาอยู่

ส่วนเรื่องสว.นั่นผมไม่ทราบเคยดูแบบละเอียดของมาร์ดเห็นต่ที่จะให้ceoติ๊กเป็นคนจีนให้ได้
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ค.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 3458
ที่อยู่: BKK Thailand.
โพสเมื่อ: Thu Sep 12, 2024 23:24
[RE: ทำไมวิโรจน์ ไปซัดเศรษฐพุฒิ เรื่อง Call Center ซะล่ะ?]
จริงๆแล้วจุดร่วมทั้งหมดทุกเรื่องราวคือบัญชีม้าครับ วันนี้มีเหยื่อ พรุ่งนี้มีเหยื่อล้วนผ่าน บัญชีม้า.
จับติดคุกทันที ปรับเท่าความเสียหาย แล้วออกข่าวทุกวัน ไม่ถึง 3 เดือนเด๋ยวพวกนีั้ก็หายไปเองครับ.


ทำได้ไม่เห็นทำ มัวแต่ลีลาหาไรไม่รู้.
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Jan 2009
ตอบ: 5165
ที่อยู่: Chiang Mai
โพสเมื่อ: Thu Sep 12, 2024 23:32
[RE: ทำไมวิโรจน์ ไปซัดเศรษฐพุฒิ เรื่อง Call Center ซะล่ะ?]
MarkZuckerberg พิมพ์ว่า:
Tommy Charlotte Jax Shelb พิมพ์ว่า:
ผมไม่เห็นด้วยกับประโยคนี้เท่าไหร่เลย เพราะจริงๆเค้าทำขั้นตอนเพิ่มมาพอสมควรแล้วนะครับ ที่โดนส่วนใหญ่คือโอนไปให้จากการหลอกบ้างละ รีโมทบ้างละ พอถึงรีโมทมันก็เหมือนเรายื่นกุญแจบ้านให้โจรอะหรือโจรปลอมเป็นเราแล้วมากดเงินไปถามว่าธนาคารผิดทั้งหมดไหมก็ไม่ใช่อยู่ดี ผมไม่แน่ใจเรื่องรีโมทนี่ป้องกันไปได้ถึงไหนแล้วนะแต่เหมือนมันมีวิธีอยู่ใช่ไหมครับที่พอรีโมทแล้วมันจะมืดไปเหมือนที่เราแคปหน้าจอเน็ตฟลิกไม่ได้อะ ปัญหาหลักจริงที่ต้องช่วยกันเสริมภูมิต้านทานคือ humans OS มากกว่าครับ

บางอันคนกลัวความผิดว่าเงินหรือพัสดุงี้ๆๆๆคุณอาจจะโดนจับนะเลยต้องทำตามบลาๆๆ อันนี้ก็อีกกรณีนึงอีกที่โดนไม่น้อย

เรื่องเห็นใจแน่นอนเห็นใจอยู่แล้วคนรอบตัวโดนไปแสนนึงมั้งทั้งที่เป็นคนไม่น่าโดนที่สุดเป็นคนที่บอกคนอื่นว่าให้วางเถอะจะไปคุยเล่นมันทำไม สุดท้ายแกเพลี้ยงพล้ำเอง ผมก็เจ็บช้ำแทนแกเหมือนกัน


หน่วงเวลาก็ฉิบหายการค้าขายกันพอดีละมั้งหรือว่าไม่ขนาดครับ

 

ผมขอไม่เห็นด้วยกับท่านนะ ผู้ให้บริการ platform ควรจะออกแบบระบบแบบมีความรับผิดชอบต่อลูกค้าทุกคนครับ ยกตัวอย่างพี่ Mark Zuck เจ้าของ Facebook IG โดนวุฒิสภาและคนใช้งาน(ในบอร์ดนี้ก็บ่นแกอยู่ประจำ)สับเละอยูบ่อยๆเรื่อง scam cyberbully privacy pornography ของ platform ถึงแม้เค้าจะออก feature มาควบคุมก็แล้ว ใช้ AI ก็แล้ว มีcensorshipก็แล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่า Mark จะปัดความรับผิดชอบแล้วบอกว่า เอ้าก็พวกมึงดูกันเอง พวกมึงโดนหลอกกันเอง กดเข้าไปดูเอง platform ตูไม่เกี่ยว

ตัวอย่างอีกอันคือ Apple อะ คุณซื้อ Device เค้ามาคุณก็ต้อง expect feature ที่ช่วยเรื่องความปลอดภัยใช่มั้ย Apple ไม่เคยออกมาบอกว่า ก็เอ๊งคลิ๊กลิงค์เอง ก็เอ๊งโหลดappเถื่อนเอง เอ๊งแชร์ข้อมูลส่วนตัวเอง แต่ Apple และ Facebook ก็ยังต้อง implement และรับผิดชอบความปลอดภัยของผู้ใช้เป็นอันดับ 1 ไม่มีการบ่ายเบี่ยงทั้งนั้น

เพราะอะไรละ? ก็เพราะกฏหมายควบคุม Social Media, PDPA มันแรงไงครับ พวกนี้ถึงกุลีกุจอพยายามทำทุกวิธีปิดช่องโหว่ให้ได้ แม้หลายๆอย่างจะเป็นความประมาทหรือความผิดของผู้ใช้งานเอง ไม่งั้นบริษัทก็โดนฟ้อง เสียชื่อ เสียงเงิน

เพราะฉะนั้นผมเห็นด้วยกับข้อความนี้นะครับ ต้องมีแรงกระตุ้น financial platform พวกนี้เช่นกันครับ ที่ตอนนี้ลอยลำทุกอย่างไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ไม่มีรัฐบาลไปตามจี้ตูดออกกฏหมายควบคุมเหมือนพวก Apple Facebook

ผมเห็นด้วยกับวิโรจน์เลยต้องกล้าออก regulation ให้เหี้ยมกว่านี้กับพวก Bank ทั้งหลาย ไม่ได้หมายถึงเพิ่มขั้นตอนอย่างเดียวนะ แต่ต้องออกกฏหมายให้ Bank มีส่วนได้เสียกับกรณีทั้งหลายไม่ทางใดก็ทางหนึ่งให้มันเสียตังมันถึงจะกระตือรือล้น

 


ตัวระบบมันปลอดภัยมากขึ้นเยอะแล้วครับ ก่อนหน้านี้ที่ลงแอปจากลิงค์แปลกๆ ให้คนเข้ามารีโมทดูจอได้ปัจจุบันก็ทำไม่ได้แล้ว

ทุกวันนี้ปัญหามาจากตัว user เองล้วนๆ
บางคนไปโอนเงินที่ธนาคารเอง เจ้าหน้าที่เตือนแล้วยังไงก็ไม่ฟัง ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ app เลยด้วยซ้ำ
พอรัฐออกมาตรการให้คนไปยืนยันซิมก็ด่ากัน แล้วจะป้องกันยังไง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 08 Apr 2024
ตอบ: 1864
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Sep 12, 2024 23:34
[RE: ทำไมวิโรจน์ ไปซัดเศรษฐพุฒิ เรื่อง Call Center ซะล่ะ?]
Tommy Charlotte Jax Shelb พิมพ์ว่า:
MarkZuckerberg พิมพ์ว่า:
Tommy Charlotte Jax Shelb พิมพ์ว่า:
ผมไม่เห็นด้วยกับประโยคนี้เท่าไหร่เลย เพราะจริงๆเค้าทำขั้นตอนเพิ่มมาพอสมควรแล้วนะครับ ที่โดนส่วนใหญ่คือโอนไปให้จากการหลอกบ้างละ รีโมทบ้างละ พอถึงรีโมทมันก็เหมือนเรายื่นกุญแจบ้านให้โจรอะหรือโจรปลอมเป็นเราแล้วมากดเงินไปถามว่าธนาคารผิดทั้งหมดไหมก็ไม่ใช่อยู่ดี ผมไม่แน่ใจเรื่องรีโมทนี่ป้องกันไปได้ถึงไหนแล้วนะแต่เหมือนมันมีวิธีอยู่ใช่ไหมครับที่พอรีโมทแล้วมันจะมืดไปเหมือนที่เราแคปหน้าจอเน็ตฟลิกไม่ได้อะ ปัญหาหลักจริงที่ต้องช่วยกันเสริมภูมิต้านทานคือ humans OS มากกว่าครับ

บางอันคนกลัวความผิดว่าเงินหรือพัสดุงี้ๆๆๆคุณอาจจะโดนจับนะเลยต้องทำตามบลาๆๆ อันนี้ก็อีกกรณีนึงอีกที่โดนไม่น้อย

เรื่องเห็นใจแน่นอนเห็นใจอยู่แล้วคนรอบตัวโดนไปแสนนึงมั้งทั้งที่เป็นคนไม่น่าโดนที่สุดเป็นคนที่บอกคนอื่นว่าให้วางเถอะจะไปคุยเล่นมันทำไม สุดท้ายแกเพลี้ยงพล้ำเอง ผมก็เจ็บช้ำแทนแกเหมือนกัน


หน่วงเวลาก็ฉิบหายการค้าขายกันพอดีละมั้งหรือว่าไม่ขนาดครับ

 

ผมขอไม่เห็นด้วยกับท่านนะ ผู้ให้บริการ platform ควรจะออกแบบระบบแบบมีความรับผิดชอบต่อลูกค้าทุกคนครับ ยกตัวอย่างพี่ Mark Zuck เจ้าของ Facebook IG โดนวุฒิสภาและคนใช้งาน(ในบอร์ดนี้ก็บ่นแกอยู่ประจำ)สับเละอยูบ่อยๆเรื่อง scam cyberbully privacy pornography ของ platform ถึงแม้เค้าจะออก feature มาควบคุมก็แล้ว ใช้ AI ก็แล้ว มีcensorshipก็แล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่า Mark จะปัดความรับผิดชอบแล้วบอกว่า เอ้าก็พวกมึงดูกันเอง พวกมึงโดนหลอกกันเอง กดเข้าไปดูเอง platform ตูไม่เกี่ยว

ตัวอย่างอีกอันคือ Apple อะ คุณซื้อ Device เค้ามาคุณก็ต้อง expect feature ที่ช่วยเรื่องความปลอดภัยใช่มั้ย Apple ไม่เคยออกมาบอกว่า ก็เอ๊งคลิ๊กลิงค์เอง ก็เอ๊งโหลดappเถื่อนเอง เอ๊งแชร์ข้อมูลส่วนตัวเอง แต่ Apple และ Facebook ก็ยังต้อง implement และรับผิดชอบความปลอดภัยของผู้ใช้เป็นอันดับ 1 ไม่มีการบ่ายเบี่ยงทั้งนั้น

เพราะอะไรละ? ก็เพราะกฏหมายควบคุม Social Media, PDPA มันแรงไงครับ พวกนี้ถึงกุลีกุจอพยายามทำทุกวิธีปิดช่องโหว่ให้ได้ แม้หลายๆอย่างจะเป็นความประมาทหรือความผิดของผู้ใช้งานเอง ไม่งั้นบริษัทก็โดนฟ้อง เสียชื่อ เสียงเงิน

เพราะฉะนั้นผมเห็นด้วยกับข้อความนี้นะครับ ต้องมีแรงกระตุ้น financial platform พวกนี้เช่นกันครับ ที่ตอนนี้ลอยลำทุกอย่างไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ไม่มีรัฐบาลไปตามจี้ตูดออกกฏหมายควบคุมเหมือนพวก Apple Facebook

 
ป้องกันให้ตายสุดท้ายยื่นกุญแจบ้านให้โจรมันจะช่วยอะไรละครับ กรณีส่วนมากที่โดนคือโอนไปให้ กับรีโมทแทบทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าธนาคารปัดความรับผิดทั้งหมดซะที่ไหนละครับป้องกันไปก็ไม่ใช่น้อย ส่วนเรื่องappleผมไม่เข้าใจต้องการจะสื่ออะไรหรอครับ ประมาณว่าใช้แอปธนาคารมันต้องคาดหวังความปลอดภัยได้ในระดับเดียวกับที่แอปเปิ้ลทำเรื่องความปลอดภัยหรือปล่าวครับ

ผมว่าไม่ได้ลอยลำอะไรเลยนะเหมือนคุณให้บัตรatmพร้อมรหัสกับโจรไปกดตังอะครับ ธนาคารมันก็ป้องกันไว้แล้วทั้งบัตรมีชิพทั้งใส่รหัสผ่าน แต่คุณให้มันไปหมดเลยจากการที่มันหลอกคุณผ่านการคุย เรื่องรีโมทผมไม่แน่ใจว่าเค้าได้ทำการป้องหรือพัฒนาอะไรไปขั้นไหนแล้วนะถ้าตรงเรื่องนี้ก็พอเข้าเค้ากับประโยคที่บอกว่าไม่พัฒนาอยู่

ส่วนเรื่องสว.นั่นผมไม่ทราบเคยดูแบบละเอียดของมาร์ดเห็นต่ที่จะให้ceoติ๊กเป็นคนจีนให้ได้  

ลอยลำดิครับ ผมไม่เคยเห็น Bank ใหญ่ๆโดนรัฐบาลซักฟอกหรือบี้สักครั้งเดียว เทียบกับเคส Apple Google Facebook ถ้าไปดูคือโดนไล่บี้ตลอดทั้งจากผู้ใช้งานและรัฐบาล สว สส เค้าไม่มีมาบอกว่า "ป้องกันให้ตายสุดท้ายยื่นกุญแจบ้านให้โจรมันจะช่วยอะไรละครับ" หรอกครับ ผมแค่ไม่เห็นด้วยกับ mindset นี้
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 27 Oct 2005
ตอบ: 1265
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Sep 12, 2024 23:35
[RE: ทำไมวิโรจน์ ไปซัดเศรษฐพุฒิ เรื่อง Call Center ซะล่ะ?]
MemberMe พิมพ์ว่า:
จริงๆแล้วจุดร่วมทั้งหมดทุกเรื่องราวคือบัญชีม้าครับ วันนี้มีเหยื่อ พรุ่งนี้มีเหยื่อล้วนผ่าน บัญชีม้า.
จับติดคุกทันที ปรับเท่าความเสียหาย แล้วออกข่าวทุกวัน ไม่ถึง 3 เดือนเด๋ยวพวกนีั้ก็หายไปเองครับ.


ทำได้ไม่เห็นทำ มัวแต่ลีลาหาไรไม่รู้.  


เคยมีข่าวตำรวจบังคับให้พวกที่ทำผิดเล็กๆน้อย เปิดบัญชีม้า แลกกับเพื่อไม่ต้องโดนจับ แล้วแก๊งตำรวจก็เอาบัญชีม้าไปขายพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์

1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
โค้ช UEFA PRO-License
Status: ไม่ได้มากมายเลย !!
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Mar 2018
ตอบ: 40727
ที่อยู่: เกาะแคนดี้
โพสเมื่อ: Thu Sep 12, 2024 23:49
[RE: ทำไมวิโรจน์ ไปซัดเศรษฐพุฒิ เรื่อง Call Center ซะล่ะ?]
Spoil
MarkZuckerberg พิมพ์ว่า:
Tommy Charlotte Jax Shelb พิมพ์ว่า:
MarkZuckerberg พิมพ์ว่า:
Tommy Charlotte Jax Shelb พิมพ์ว่า:
ผมไม่เห็นด้วยกับประโยคนี้เท่าไหร่เลย เพราะจริงๆเค้าทำขั้นตอนเพิ่มมาพอสมควรแล้วนะครับ ที่โดนส่วนใหญ่คือโอนไปให้จากการหลอกบ้างละ รีโมทบ้างละ พอถึงรีโมทมันก็เหมือนเรายื่นกุญแจบ้านให้โจรอะหรือโจรปลอมเป็นเราแล้วมากดเงินไปถามว่าธนาคารผิดทั้งหมดไหมก็ไม่ใช่อยู่ดี ผมไม่แน่ใจเรื่องรีโมทนี่ป้องกันไปได้ถึงไหนแล้วนะแต่เหมือนมันมีวิธีอยู่ใช่ไหมครับที่พอรีโมทแล้วมันจะมืดไปเหมือนที่เราแคปหน้าจอเน็ตฟลิกไม่ได้อะ ปัญหาหลักจริงที่ต้องช่วยกันเสริมภูมิต้านทานคือ humans OS มากกว่าครับ

บางอันคนกลัวความผิดว่าเงินหรือพัสดุงี้ๆๆๆคุณอาจจะโดนจับนะเลยต้องทำตามบลาๆๆ อันนี้ก็อีกกรณีนึงอีกที่โดนไม่น้อย

เรื่องเห็นใจแน่นอนเห็นใจอยู่แล้วคนรอบตัวโดนไปแสนนึงมั้งทั้งที่เป็นคนไม่น่าโดนที่สุดเป็นคนที่บอกคนอื่นว่าให้วางเถอะจะไปคุยเล่นมันทำไม สุดท้ายแกเพลี้ยงพล้ำเอง ผมก็เจ็บช้ำแทนแกเหมือนกัน


หน่วงเวลาก็ฉิบหายการค้าขายกันพอดีละมั้งหรือว่าไม่ขนาดครับ

 

ผมขอไม่เห็นด้วยกับท่านนะ ผู้ให้บริการ platform ควรจะออกแบบระบบแบบมีความรับผิดชอบต่อลูกค้าทุกคนครับ ยกตัวอย่างพี่ Mark Zuck เจ้าของ Facebook IG โดนวุฒิสภาและคนใช้งาน(ในบอร์ดนี้ก็บ่นแกอยู่ประจำ)สับเละอยูบ่อยๆเรื่อง scam cyberbully privacy pornography ของ platform ถึงแม้เค้าจะออก feature มาควบคุมก็แล้ว ใช้ AI ก็แล้ว มีcensorshipก็แล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่า Mark จะปัดความรับผิดชอบแล้วบอกว่า เอ้าก็พวกมึงดูกันเอง พวกมึงโดนหลอกกันเอง กดเข้าไปดูเอง platform ตูไม่เกี่ยว

ตัวอย่างอีกอันคือ Apple อะ คุณซื้อ Device เค้ามาคุณก็ต้อง expect feature ที่ช่วยเรื่องความปลอดภัยใช่มั้ย Apple ไม่เคยออกมาบอกว่า ก็เอ๊งคลิ๊กลิงค์เอง ก็เอ๊งโหลดappเถื่อนเอง เอ๊งแชร์ข้อมูลส่วนตัวเอง แต่ Apple และ Facebook ก็ยังต้อง implement และรับผิดชอบความปลอดภัยของผู้ใช้เป็นอันดับ 1 ไม่มีการบ่ายเบี่ยงทั้งนั้น

เพราะอะไรละ? ก็เพราะกฏหมายควบคุม Social Media, PDPA มันแรงไงครับ พวกนี้ถึงกุลีกุจอพยายามทำทุกวิธีปิดช่องโหว่ให้ได้ แม้หลายๆอย่างจะเป็นความประมาทหรือความผิดของผู้ใช้งานเอง ไม่งั้นบริษัทก็โดนฟ้อง เสียชื่อ เสียงเงิน

เพราะฉะนั้นผมเห็นด้วยกับข้อความนี้นะครับ ต้องมีแรงกระตุ้น financial platform พวกนี้เช่นกันครับ ที่ตอนนี้ลอยลำทุกอย่างไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ไม่มีรัฐบาลไปตามจี้ตูดออกกฏหมายควบคุมเหมือนพวก Apple Facebook

 
ป้องกันให้ตายสุดท้ายยื่นกุญแจบ้านให้โจรมันจะช่วยอะไรละครับ กรณีส่วนมากที่โดนคือโอนไปให้ กับรีโมทแทบทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าธนาคารปัดความรับผิดทั้งหมดซะที่ไหนละครับป้องกันไปก็ไม่ใช่น้อย ส่วนเรื่องappleผมไม่เข้าใจต้องการจะสื่ออะไรหรอครับ ประมาณว่าใช้แอปธนาคารมันต้องคาดหวังความปลอดภัยได้ในระดับเดียวกับที่แอปเปิ้ลทำเรื่องความปลอดภัยหรือปล่าวครับ

ผมว่าไม่ได้ลอยลำอะไรเลยนะเหมือนคุณให้บัตรatmพร้อมรหัสกับโจรไปกดตังอะครับ ธนาคารมันก็ป้องกันไว้แล้วทั้งบัตรมีชิพทั้งใส่รหัสผ่าน แต่คุณให้มันไปหมดเลยจากการที่มันหลอกคุณผ่านการคุย เรื่องรีโมทผมไม่แน่ใจว่าเค้าได้ทำการป้องหรือพัฒนาอะไรไปขั้นไหนแล้วนะถ้าตรงเรื่องนี้ก็พอเข้าเค้ากับประโยคที่บอกว่าไม่พัฒนาอยู่

ส่วนเรื่องสว.นั่นผมไม่ทราบเคยดูแบบละเอียดของมาร์ดเห็นต่ที่จะให้ceoติ๊กเป็นคนจีนให้ได้  

ลอยลำดิครับ ผมไม่เคยเห็น Bank ใหญ่ๆโดนรัฐบาลซักฟอกหรือบี้สักครั้งเดียว เทียบกับเคส Apple Google Facebook ถ้าไปดูคือโดนไล่บี้ตลอดทั้งจากผู้ใช้งานและรัฐบาล สว สส เค้าไม่มีมาบอกว่า "ป้องกันให้ตายสุดท้ายยื่นกุญแจบ้านให้โจรมันจะช่วยอะไรละครับ" หรอกครับ ผมแค่ไม่เห็นด้วยกับ mindset นี้
 
 


งง ไปเทียบกับเฟส แล้วทำไมไม่ไปเทียบกับแบงค์ในเมกา

คนโดนคอลเซนเตอร์หลอก แบงค์โดนรัฐบาลปรับเงิน หรือชดใช้ให้ผู้เสียหายไหมไหม
แก้ไขล่าสุดโดย แฟล็ปแจ็ค ยอดนักผจญภัย เมื่อ Thu Sep 12, 2024 23:51, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ค.
Status: Don't give a f
: 1 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Nov 2010
ตอบ: 6003
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Sep 13, 2024 00:00
[RE: ทำไมวิโรจน์ ไปซัดเศรษฐพุฒิ เรื่อง Call Center ซะล่ะ?]
MarkZuckerberg พิมพ์ว่า:
Tommy Charlotte Jax Shelb พิมพ์ว่า:
MarkZuckerberg พิมพ์ว่า:
Tommy Charlotte Jax Shelb พิมพ์ว่า:
ผมไม่เห็นด้วยกับประโยคนี้เท่าไหร่เลย เพราะจริงๆเค้าทำขั้นตอนเพิ่มมาพอสมควรแล้วนะครับ ที่โดนส่วนใหญ่คือโอนไปให้จากการหลอกบ้างละ รีโมทบ้างละ พอถึงรีโมทมันก็เหมือนเรายื่นกุญแจบ้านให้โจรอะหรือโจรปลอมเป็นเราแล้วมากดเงินไปถามว่าธนาคารผิดทั้งหมดไหมก็ไม่ใช่อยู่ดี ผมไม่แน่ใจเรื่องรีโมทนี่ป้องกันไปได้ถึงไหนแล้วนะแต่เหมือนมันมีวิธีอยู่ใช่ไหมครับที่พอรีโมทแล้วมันจะมืดไปเหมือนที่เราแคปหน้าจอเน็ตฟลิกไม่ได้อะ ปัญหาหลักจริงที่ต้องช่วยกันเสริมภูมิต้านทานคือ humans OS มากกว่าครับ

บางอันคนกลัวความผิดว่าเงินหรือพัสดุงี้ๆๆๆคุณอาจจะโดนจับนะเลยต้องทำตามบลาๆๆ อันนี้ก็อีกกรณีนึงอีกที่โดนไม่น้อย

เรื่องเห็นใจแน่นอนเห็นใจอยู่แล้วคนรอบตัวโดนไปแสนนึงมั้งทั้งที่เป็นคนไม่น่าโดนที่สุดเป็นคนที่บอกคนอื่นว่าให้วางเถอะจะไปคุยเล่นมันทำไม สุดท้ายแกเพลี้ยงพล้ำเอง ผมก็เจ็บช้ำแทนแกเหมือนกัน


หน่วงเวลาก็ฉิบหายการค้าขายกันพอดีละมั้งหรือว่าไม่ขนาดครับ

 

ผมขอไม่เห็นด้วยกับท่านนะ ผู้ให้บริการ platform ควรจะออกแบบระบบแบบมีความรับผิดชอบต่อลูกค้าทุกคนครับ ยกตัวอย่างพี่ Mark Zuck เจ้าของ Facebook IG โดนวุฒิสภาและคนใช้งาน(ในบอร์ดนี้ก็บ่นแกอยู่ประจำ)สับเละอยูบ่อยๆเรื่อง scam cyberbully privacy pornography ของ platform ถึงแม้เค้าจะออก feature มาควบคุมก็แล้ว ใช้ AI ก็แล้ว มีcensorshipก็แล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่า Mark จะปัดความรับผิดชอบแล้วบอกว่า เอ้าก็พวกมึงดูกันเอง พวกมึงโดนหลอกกันเอง กดเข้าไปดูเอง platform ตูไม่เกี่ยว

ตัวอย่างอีกอันคือ Apple อะ คุณซื้อ Device เค้ามาคุณก็ต้อง expect feature ที่ช่วยเรื่องความปลอดภัยใช่มั้ย Apple ไม่เคยออกมาบอกว่า ก็เอ๊งคลิ๊กลิงค์เอง ก็เอ๊งโหลดappเถื่อนเอง เอ๊งแชร์ข้อมูลส่วนตัวเอง แต่ Apple และ Facebook ก็ยังต้อง implement และรับผิดชอบความปลอดภัยของผู้ใช้เป็นอันดับ 1 ไม่มีการบ่ายเบี่ยงทั้งนั้น

เพราะอะไรละ? ก็เพราะกฏหมายควบคุม Social Media, PDPA มันแรงไงครับ พวกนี้ถึงกุลีกุจอพยายามทำทุกวิธีปิดช่องโหว่ให้ได้ แม้หลายๆอย่างจะเป็นความประมาทหรือความผิดของผู้ใช้งานเอง ไม่งั้นบริษัทก็โดนฟ้อง เสียชื่อ เสียงเงิน

เพราะฉะนั้นผมเห็นด้วยกับข้อความนี้นะครับ ต้องมีแรงกระตุ้น financial platform พวกนี้เช่นกันครับ ที่ตอนนี้ลอยลำทุกอย่างไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ไม่มีรัฐบาลไปตามจี้ตูดออกกฏหมายควบคุมเหมือนพวก Apple Facebook

 
ป้องกันให้ตายสุดท้ายยื่นกุญแจบ้านให้โจรมันจะช่วยอะไรละครับ กรณีส่วนมากที่โดนคือโอนไปให้ กับรีโมทแทบทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าธนาคารปัดความรับผิดทั้งหมดซะที่ไหนละครับป้องกันไปก็ไม่ใช่น้อย ส่วนเรื่องappleผมไม่เข้าใจต้องการจะสื่ออะไรหรอครับ ประมาณว่าใช้แอปธนาคารมันต้องคาดหวังความปลอดภัยได้ในระดับเดียวกับที่แอปเปิ้ลทำเรื่องความปลอดภัยหรือปล่าวครับ

ผมว่าไม่ได้ลอยลำอะไรเลยนะเหมือนคุณให้บัตรatmพร้อมรหัสกับโจรไปกดตังอะครับ ธนาคารมันก็ป้องกันไว้แล้วทั้งบัตรมีชิพทั้งใส่รหัสผ่าน แต่คุณให้มันไปหมดเลยจากการที่มันหลอกคุณผ่านการคุย เรื่องรีโมทผมไม่แน่ใจว่าเค้าได้ทำการป้องหรือพัฒนาอะไรไปขั้นไหนแล้วนะถ้าตรงเรื่องนี้ก็พอเข้าเค้ากับประโยคที่บอกว่าไม่พัฒนาอยู่

ส่วนเรื่องสว.นั่นผมไม่ทราบเคยดูแบบละเอียดของมาร์ดเห็นต่ที่จะให้ceoติ๊กเป็นคนจีนให้ได้  

ลอยลำดิครับ ผมไม่เคยเห็น Bank ใหญ่ๆโดนรัฐบาลซักฟอกหรือบี้สักครั้งเดียว เทียบกับเคส Apple Google Facebook ถ้าไปดูคือโดนไล่บี้ตลอดทั้งจากผู้ใช้งานและรัฐบาล สว สส เค้าไม่มีมาบอกว่า "ป้องกันให้ตายสุดท้ายยื่นกุญแจบ้านให้โจรมันจะช่วยอะไรละครับ" หรอกครับ ผมแค่ไม่เห็นด้วยกับ mindset นี้
 

ผมไม่ได้หมายถึงไม่ให้ป้องกันอะไรแค่เห็นว่าเค้าก็เพิ่มขั้นตอนเพิ่มกระบวนการไปเยอะแล้วแต่สุดท้ายเค้าก็ยังยื่นกุญแจบ้านให้โจรอยู่ดีกระบวนป้องกันเหล่านี้ที่ป้องกันมามันไร้ค่าทันทีครับ จะเรียกลอยลำก็ได้ครับไม่ว่ากัน สว สสที่ไหนมันจะมาพูดแบบนี้เสียคะแนนตายห่า คำพูดนี้มีแต่คนปกติที่พูดได้ครับ วิธีแก้ไม่ให้คนเอากุญแจบ้านไปให้โจรหรือแม้แต่คนไปถึงธนาคารคนเตือนแล้วไม่ฟังแบงค์จะแก้ไงอะครับ มีแต่ต้องอัพเดท human OS ที่ผมนึกออก
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 10 Mar 2007
ตอบ: 668
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Sep 13, 2024 00:11
[RE: ทำไมวิโรจน์ ไปซัดเศรษฐพุฒิ เรื่อง Call Center ซะล่ะ?]
พูดไปงั้นแหละ ตัวเองก็ทำไม่ได้ เรื่องแบบนี้แก้ที่ "สติ" ล้วนๆ ออกข่าวกันขนาดนี้ก็ยังมีคนหลงเชื่อ เกินเยียวยาแล้ว
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 852
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Sep 13, 2024 00:24
[RE: ทำไมวิโรจน์ ไปซัดเศรษฐพุฒิ เรื่อง Call Center ซะล่ะ?]
นึกถึงเคสที่มีคุณลุงคุณป้าโดนหลอก
แล้วไปโอนที่ธนาคาร เจ้าหน้าที่บอกอย่าโอน มิจจี้แน่ๆ
เค้าก็ไม่ฟัง จะโอนให้ได้ เจ้าหน้าที่ก็ทำไรไม่ได้เพราะเค้าคือเจ้าของบัญชี
แบบนี้ธนาคารจะทำอะไรได้อะ เคสทางแอพก็คือกดโอนให้เค้าเองไม่โดนแฮคอะไรเลย
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel