เจาะลึกTYPEกลางรับ✅ และ LFC นิดหน่อย
ว่าด้วยเรื่องของกลางรับ 4 ประเภทในโลกฟุตบอล
.
วันก่อนผมไปเจอโพสต์ ๆ หนึ่งใน เอ็กซ์ เขาพูดถึงตำแหน่งแม่แบบของกองกลางตัวรับ 4 ประเภท ประกอบด้วย Destroyer, Space Eater, Anchor, Quarterback
คำว่าแม่แบบหมายความว่า ผู้เล่นที่เล่นตำแหน่งกองกลางตัวรับ ในปัจจุบันจะมีหน้าที่หลักไม่พ้น 4 หน้าที่นี้
แต่ก่อนที่เราจะไปดูกันว่าทั้ง 4 ประเภทเป็นอย่างไร เราไปนิยามคำว่า กองกลางตัวรับกันก่อนครับ
คำว่า
กองกลางตัวรับ หมายถึงผู้เล่น Outfield ที่ยืนตำแหน่งในพื้นที่ต่ำสุดของมิดฟิลด์ ต่อให้ผู้เล่นคนนั้นจะเล่นเป็นเพลย์เมกเกอร์ในแนวลึก ก็จะถือว่าเป็นกลางรับเหมือนกับตัวตัดเกม เพราะฉะนั้น เราจะเข้าใจตรงกันก่อนว่า มิดฟิลด์ที่ยืนต่ำสุดในแผง ถือเป็นกองกลางตัวรับ
ทีนี้ เราจะเริ่มกันที่ กลางรับทั้ง 4 ประเภท ก่อนจะตบเข้าเรื่องของกลางรับที่ลิเวอร์พูลมี
Destroyer กลางรับตัวตัดเกม หรือ ทำลายเกม เป็นบทบาทที่เข้าใจง่ายที่สุดตามชื่อ มีหน้าที่ในการปะทะ ตัดบอล ป้องกันเกมรุกก่อนถึงแผงหลัง มีความสามารถในการแย่งบอลคืนมาให้ทีม หรือที่เรียกว่า Ball Winners
ตัวอย่างเช่น กัตตูโซ่, รอย คีน, มาสเคราโน่, กองเต้, กาเซมิโร่, ฟาบินโญ่
Quarterbacks เหมือนในอเมริกันฟุตบอลเลยครับ เป็นมิดฟิลด์ตัววางบอลจากแนวลึก ไม่ได้มีหน้าที่หลักในการตัดเกม แต่คอยซัพพอร์ตเกมรับ อาจจะเป็นการช่วยแซะ ช่วย intercept พอได้บอลคืนแล้วก็จะมองหาพื้นที่วางบอลสวย ๆ ไปข้างหน้า โดยส่วนใหญ่จะเล่นคู่กับ Destroyer
เช่น ปิร์โล่ คู่ กัตตูโซ่, พอล สโคล คู่ รอย คีน, โทนี่ โครส คู่ กาเซมิโร่ หรือ Destroyer บางคนก็ทำได้ 2 หน้าที่ในตัว เช่น ฟาบินโญ่, เจอร์ราร์ด
Anchor เป็นมิดฟิลด์ตัวคุม tempo คุมจังหวะ ช้า/เร็ว หรือที่เรียกว่าห้องเครื่อง เป็นมิดฟิลด์ที่ไม่จำเป็นต้องเด่นในการวางบอลยาว แต่บอลสั้นต้องแม่นยำ มีความเข้าใจในเกมสูง และในปัจจุบันต้องสามารถแกะเพรสซิ่งได้ด้วยครับ
ตัวอย่างเช่น ธอมัส ปาร์เตย์, บุสเกตต์, ชาบี อลองโซ่, ซูบิเมนดี้, โรดรี้, จอจินโญ่
Space Eater มิดฟิลด์ตัวกินแดน กำลังเป็นที่พูดถึงในฟุตบอลยุคใหม่ คือเป็น Destroyer ที่พาบอลขึ้นไปแดนบนได้ด้วย หลังจากที่แย่งบอลคืนมาได้แล้ว อาจไม่ต้องรอให้เพื่อนทำเกม เปลี่ยนรับเป็นรุกได้ด้วยตัวเองเลย
เช่น เจอร์ราร์ด, วิเอร่า, กองเต้, เอ็มเร่ จัน, เดแคลน ไรซ์, อมาดู โอนาน่า
มิดฟิลด์บางคนก็เด่นมาก ๆ สำหรับการทำ 1 หน้าที่ บางคนทำได้ 2-3 หน้าที่ในตัว และมีน้อยมากแต่ก็มีที่ทำได้ทุกอย่าง
.
ลิเวอร์พูลมีแบบไหนบ้าง
ลิเวอร์พูล มีสุดยอดกองกลางถึง 2 ยุค คือ ยุคของเบนิเตซ และยุคของคล็อปป์ รวมถึงยุคล่าสุดที่กำลังไต่ระดับ ยุคของชล็อต
ราฟา เบนิเตซ มีกองกลางชุดตำนาน ประกอบด้วย
มาสเคราโน่, อลองโซ่, เจอร์ราร์ด โดยที่ทั้ง 3 คนมีความเป็นกลางรับทั้งหมดเลย แน่นอนว่า มาสเค คือ Destroyer, อลองโซ่ คือ Anchor ผสมกับ Quarterback
และ เจอร์ราร์ด ที่เป็นทั้ง Destroyer, Space Eater, และ Quarterback ถือว่าสมดุลมาก ๆ
เยอร์เก้น คล็อปป์ มี
จอร์จินิโอ ไวนัลจ์ดุม, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่ ทำ Dirty Job ปัดกวาดเกมรับ เอาบอลคืนให้เกมรุก โดยที่ จินี่ ทำหน้าที่ Space Eater, ฟาบินโญ่ เป็น Destroyer ที่ผสม Quarterback เข้าไปเล็กน้อย และ เฮนเดอร์สัน เป็น Anchor แต่สิ่งที่มิดฟิลด์ของคล็อปป์ขาดไปอย่างชัดเจนคือ Anchor ที่แก้เพรสซิ่งเก่ง จึงต้องมี เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาโนลด์ ช่วยใช้บอลยาวของเขาแก้เพรส ร่วมถึง โรแบร์โต้ ฟิมิร์โน่ ถอยลงมาช่วยด้วยอีกคน (นาบี เกอิต้า และ ติอาโก อัลกันตารา ทำหน้าที่ Anchor ได้อย่างสมบูรณ์แต่ดันโดนอาการบาดเจ็บสกัดไว้)
อาร์เน่อ ชล็อต ได้รับสืบทอดผู้เล่นมาจากคล็อปป์ มี
วาตารุ เอ็นโด เป็น Destroyer พันธ์ุแท้เพียงคนเดียว เพียงแต่เขาไม่นิยมกลางรับที่ทำได้เพียงแค่ตัดเกม จึงอยากได้ มาร์ติน ซูบิเมนดี้ ผู้ซึ่งเป็นได้ทั้ง Anchor, Space Eater, และ Quarterback แต่เมื่อคว้าตัวมาไม่ได้ ชล็อตจึงใช้การฝึกซ้อมและระบบสร้างชุดกองกลางในฝันของเขาขึ้นมา
อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ เป็น Anchor ของทีมด้วยที่ทำหน้าที่ Destroyer ไปด้วย หน้าที่คือ เข้าปะทะ ตัดเกม จ่ายบอลให้ง่าย คอยคุมจังหวะทีม เขาถูกลิมิตการเล่นเกมรุกแต่ยังมีบางช่วงที่เขาแสดงความเป็นเพลย์เมกเกอร์ออกมา
ไรอัน กราเฟนแบร์ก เป็น Anchor และ Space Eater อย่างชัดเจน เกมรับเน้น อินเตอร์เซ็ป และเกะกะคู่ต่อสู้ แก้เพรสซิ่งและเซ็ตเกมด้วยการพลิกบอล พาบอลขึ้นหน้า จ่ายบอลเร็วตามระบบ แต่ยังมีหนึ่งความสามารถที่เขายังไม่ได้แสดงออกมาในสโมสรคือการวางบอลยาวแบบ Quarterback ซึ่งแท้จริงแล้วคือทีเด็ดของกราฟ และทีมชาติเนเธอร์แลนด์ก็ได้อานิสงส์ไปเต็ม ๆ
เทรนต์ ในบางช่วงของเกมถูกดันขึ้นมาเป็น Inverted Fullback ทำหน้าที่ Quarterback วางบอลยาวจากแนวลึก นอกจากนี้ เทรนต์ยังเพิ่มมิติในเล่นเกมรับได้ดุดันมากขึ้น ทีมชาติอังกฤษของกุนซือ ลี คาร์สลีย์ ได้ประโยชน์อย่างมากจากการใช้เทรนต์ในรูปแบบเดียวกับสโมสร
ส่วน
โดมินิก โซโบสไล นั้นไม่ใช่กลางรับ แต่ความขยันของกลางรุกคนนี้ช่วยปิดช่องว่างในเกมรับในจังหวะที่ กราฟ เติมเกมสูง โซโบ้วิ่งขึ้นและวิ่งลง รวมถึงเลือกจังหวะการเล่นอย่างเยือกเย็น ช่วยให้ระบบของชล็อตเป็นไปตามสั่งได้ตลอดทั้งเกม
สิ่งที่น่าจับตาดูคือ เกมที่ชล็อตไม่สามารถใช้ผู้เล่นเบอร์ 8, 10, 38, หรือ 66 ลงสนามได้ ไทเลอร์ มอร์ตัน, เคอร์ติส โจนส์, เอ็นโด จะถูกปรับใช้อย่างไรในระบบของชล็อต ซึ่งต้องการกองกลางที่ทำได้มากกว่า 1 บทบาท
ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของ กองกลางตัวรับ 4 ประเภท และสไตล์กลางรับที่ ชล็อต ต้องการ
คุณคิดว่าลิเวอร์พูลยังขาดอะไร ในตลาดรอบหน้า มีผู้เล่นกลางรับคนไหนในใจที่อยากให้ลิเวอร์พูลเสริมเข้าทีมบ้างครับ
Cr.เพจไดอารี่คนบ้าบอล
: 0 ใบ
: 0 ใบ
My Locker