อันเดอร์ส ลินเดการ์ด ออกโรงแนะนำ อังเดร โอนาน่า เกี่ยวกับการรับมือกับแรงกดดันในการเป็นผู้รักษาประตูของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังเคยประสบอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าวสมัยเฝ้าเสาในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

ลินเดการ์ด กลับมาเยือนโรงละครแห่งความฝันเพื่อลงเฝ้าเสาให้ "ปีศาจแดง" ในเกมการกุศลที่เสมอกับ กลาสโกว์ เซลติก 1-1 ก่อนแพ้จุดโทษเมื่อคืนที่ผ่านมา

อดีตนายทวารชาวเดนมาร์กรู้สึกดีใจมาก ๆ ที่ได้กลับมาเยือนถิ่นเก่าอีกครั้ง กระนั้นหลังจบเกมเขาพูดถึง โอนาน่า ว่า "เขาฟื้นตัวจากช่วงเริ่มต้นที่ยากลำบาก และตอนนี้เขากำลังทำได้ดีขึ้นมาก"

"แต่ไม่มีสูตรวิเศษใด ๆ ที่จะเอาชนะแรงกดดันนั้นได้ นั่นคือหน้าที่ หน้าที่คือการจัดการกับแรงกดดันนั้นให้ได้ ถ้าคุณทำไม่ได้ หรือไม่ทำ งานนี้มันก็ไม่ใช่สำหรับคุณแล้ว"

ลินเดการ์ด ย้ายมาอยู่กับ "ปีศาจแดง" เมื่อเดือนมกราคม 2011 ก่อนจะย้ายออกไปในช่วงซัมเมอร์ปี 2015

โอนาน่า ลง โดนยิงจนพรุน

ปัญหาโอนาน่าไม่ใช่แรงกดดันแต่มันคือปฏิกิริยา​ รีเฟลค การสปริงตัว​ การสื่อสารกับกองหลังที่ดี​ มันเหมือนกับการเล่นเกมที่ผู้เล่นเกมรับทุกคนต้องรู้ตำแหน่งคู่แข่ง​ ต้องช่วยกันบอก​ โกลต้องบอกต้องมองต้องสื่อสารได้ว่าเฮ้ยมีใครมาทางไหนบ้างเพราะเป็นคนเดียวที่มองเห็นได้กว้างมากสุดในเกมรับเวลาโดนสวน​

แต่ตอนนี้เหมือนมันไม่สื่อสารกันหลายครั้งหลายคนเลยหงตำแหน่งกันเละเทะไปหมด​ เทไปอยู่ฝั่งเดียวกันบ้าง​ มองไม่เห็นคนที่สอดมายิงบ้าง​ เจอเกมรุกที่รวดเร็วตั้งรับไม่ทันบ้าง​ ทั้งโกล์และโค้ช​เละเทะพอกัน​ แทคติกเกมรับล้วนๆที่ควรมีดันขาดหายไป

ส่วนแทคติกเกมรุกนั้นมัวแต่จะตั้งเกมจากหลังเลยกลายเป็นบอลไม่ขึ้นไปข้างหน้า​ จะล่อเค้าเพรสซิ่งเพื่อเปิดพื้นที่แต่กลับกลายเป็นโดนเพรสจนเสียบอลเองบ่อยครั้ง

บอลบุกเลยครึ่งสนามแต่ดันส่งกลับหลังจนถึงโกล์เพืาอสร้างเกมแล้วโยนบอลทิ้งออกข้าง​แทนที่จะได้มีโอกาสยิงหรือเข้าทำ

ความกดดันไม่น่าใช่ปัญหาของโอนาน่านะ
ผมว่าโอนาน่าเป็นคนที่น่าจะมั่นใจในตัวเองสูงเลย

ดูค่า XG ด้วยจั๊ฟ

สาบานได้ ผมเข้ามาเพราะนึกว่า “ เจสซี่ บีนส์ บีนส์ ลินการ์ด ”เป็นคนแนะนำ

ง้างมาเต็มที่เลยผม

ลินเดการ์ดตอนย้ายมาปีแรกช่วงมกรา 2011 ต้องปรับตัวและแย่งมือ2 จากโทมัส คุสแชก ไม่ค่อยได้โอกาสลง เพราะน้าซาร์เล่นปีสุดท้ายยังยืนหนึ่ง

ซีซั่นเต็มถัดมา 2011-2012 แย่งตำแหน่งมือ 2 จากคุสแชกมาได้สำเร็จ จนถึงขั้นคุสแชกต้องออกไปเล่นแบบยืมตัวที่วัตฟอร์ต และเบียดๆ เดเกอา สลับมาเป็นมือ1ได้อยู่เป็นบางช่วง เพราะเดเกอา ยังมีจุดอ่อนเรื่องลูกกลางอากาศ ซึ่งลินเดการ์ดทำได้ดีกว่า

ซีซั่น 2012-2013 แทบจะเรียกได้ว่า มือ 1.5 สลับกันลงแบบ ใครลงก็อุ่นใจ เปลี่ยนจากเบอร์ 34 มาเป็น 13 ซีซั่นสุดท้ายของเซอร์อเล็กซ์

2013-2014 เปลี่ยนโค้ชเป็นเดวิด มอยส์ ก็ใช้แต่เดเกอาคนเดียว ทั้งปีได้ลงอยู่ 3 นัด

2014-2015 เปลี่ยนโค้ชเป็นจารย์หลุยส์ ก็ใช้แต่เดเกอาคนเดียว เหมือนกัน แถมดึงวิคตอร์ บัลเดส มาอีก ขนาดดีกรีโกลแชมป์โลก แชมป์ยูโร ยังได้ลงแค่ 2 นัด ส่วนลินเดการ์ด ดับสนิท ไม่ได้ลงเลย

สุดท้ายคือ ลินเดการ์ดคงจะสื่อว่า เมื่อโค้ชมั่นใจในตัวคุณ(แบบที่เทนฮาคไว้ใจโอนาน่า) ต้องชนะแรงกดดันให้ได้ ทำผลงานตอนแข่งจริงให้ดี แบบที่ตัวเค้าพิสูจน์มาได้ช่วงปี 2011-2012 และ 2012-2013 แต่ถ้าโค้ชไม่มั่นใจในตัวคุณเมื่อไหร่ ต่อให้ได้ลงบ้าง ก็อย่าหวังว่าเค้าจะให้ได้ลงต่อเนื่อง

แฟนหงส์เห็นตอนมันพุ่งแล้วรู้สึกว่า การพุ่งเซฟมันเหมือนคนตัวหนักอ่ะ อารมณ์แบบว่าไม่ทันแน่ๆแล้วจวนตัวล้มตัวไปส่งๆแบบนั้นเลย ไม่ได้ใช้สปริงข้อเท้าในการพุ่งเลยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งปกติแล้วปีเตอร์ เช็คเคยพูดว่าโกลจะยืนไม่เต็มเท้า ยืนแบบเขย่งปลายเท้าให้พร้อมสปริงตัวสปริ้นท์ตัวไปป้องกันได้อย่างรวดเร็ว แต่กับโอนาน่าแล้วไม่ใช่เลยเห็นทั้งสามลูกมันเซฟไม่ได้ก็จริงแต่ควรพุ่งไปได้ใกล้เคียงลูกบอลมากกว่านี้ อย่างลูกซาล่าห์ควรปัดโดนด้วยซ้ำ