[RE: (กามิน-ชาลี) สรุปประเด็นดราม่า กามิน-ชาลี]
Moonlight_Flower พิมพ์ว่า:
สรุปประเด็นดราม่า กามิน-ชาลี
เท่าที่ตามดูมานาน สาเหตุหลักๆที่ทำให้ซีรีย์เรื่องนี้ต้องจบลง มีแค่เรื่องเดียวเลยครับ คือเรื่องที่กามินแอบไปคุย งานและตกลงเซ็นสัญญากับเอเจนซี่ โดยไม่บอกชาลี
ซึ่งในมุมของกามิน การ pk มันคืองานของเค้า อาชีพของเค้าที่เค้าทำมาตั้งแต่แรก เค้าคงไม่อยากทิ้งอาชีพนี้ ยิ่งตอนที่ดังได้เงินมหาศาลมาก ดังนั้นการตัดสินใจทำอะไร คงเห็นว่าไม่จำเป็นต้องเล่าหรือถามอะไรใคร เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว
Spoil
ถ้าใครตามนางมานานก็จะรู้ว่า กามินจะค่อนข้างไม่เปิดเผยเรื่องส่วนตัวเท่าไร ถ้าไม่จำเป็นหรือมีประเด็นให้ต้องชี้แจ้ง ก็ตามนิสัยคนเกาหลีทั่วไปละนะ
แต่ในมุมมองของชาลี การทำแบบนี้เท่ากับเป็นการแทงข้างหลังกัน ทั้งๆที่เค้าเป็นคนสร้างและเริ่มอะไรต่างๆมามากมาย แต่เอเจนซี่กับจะมาชุบมือเปิบเอาทุกอย่างที่ชาลีพยายามสร้างมาไปเป็นของตัวเอง แถมดูท่าจะใช้เรื่องความรักของชาลีเป็นตัวหาผลประโยชน์เข้ากระเป๋าตัวเองซะด้วย แม้ต้นเหตุความคิดอาจจะไม่ได้มาจากกามิน แต่กามินก็ร่วมมือกับเอเจนซี่ด้วย ชาลีก็คงมองว่าสมรู้ร่วมคิดกันเพื่อมาหาผลประโยชน์นั่นละ
อีกอย่างชาลี ไม่ค่อยอยากให้กามินทำอาชีพนี้เท่าไรด้วย เพราะ
1. มันไม่ยั่งยืน
2. มันเหมือนการหลอกลวงเอาเงินจากแฟนคลับ โดยที่แฟนคลับไม่ได้อะไรเลย ได้แค่นั่งดูแล้วก็โยนเงินไปให้โฮส บริษัท TT และเอเจนซี่ เอาเงินไปแบ่งกันใช้ตามสบาย ผ่านการวางแผน การจัดการของโฮสและเอเจนซี่ ที่ล้ำเส้นชาลี ด้วยการเอาความรักและมิตรภาพที่ชาลีพยายามสร้างมาไปกอบโกยเอาผลประโยชน์ โดยที่ชาลีไม่ได้อะไรด้วยเลย ชาลีจึงยอมไม่ได้ ผมเลยมองว่าจุดแตกหักมันอยู่ตรงนี้ละ
แล้วเรื่องนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดครั้งนี้นะ ผมว่ากามินมีการพูดคุย มีการเซ็นสัญญาและเตรียมงานกันมาตั้งแต่ดราม่าเดือนเมษายนแล้วละ ที่ชาลีเดาว่าน่าจะกับไปตั้งบริษัท และงอแงทำทัวร์ลงกามินรอบก่อนหน้านี้
ซึ่งก็น่าจะเรื่องเดียวกันนี่ละ ดังนั้นที่กามินออกมาแจ้งผ่านดิสคอร์ทว่า ไม่รู้เรื่องที่เอเจนซี่จะไปเปิดที่ไทย คงพูดแก้ตัวมากกว่า เรื่องแบบนี้ทำวันสองวันไม่ได้หรอก ต้องมีการเตรียมตัวและพูดคุยกันมาเป็นเดือนแล้วละ ยิ่งบริษัทข้ามชาติด้วยแล้ว
แต่ถ้าถามว่า กามินหลอกคบชาลี เพื่อหวังกอบโกยเอาผลประโยชน์แล้วชิ่งหรือเปล่า ผมมองว่าไม่จริงหรอกครับ คนสองคนอยู่ด้วยกันมาร่วม 6-7 เดือนขนาดนั้น ถ้าไม่มีพื้นฐานมาจากความรักที่มีให้กัน มันอยู่ด้วยกันไม่ได้นานขนาดนั้นหรอก แล้วพ่อ แม่ พี่ น้อง ชาลี ก็คงไม่ให้อยู่และไม่ทนให้คบกันจนถึงทุกวันนี้ด้วย ยิ่งถ้าหวังแต่จะกอบโกยเอาผลประโยชน์อย่างเดียว ชาลีและคนรอบข้างเตะกระเด็นกับเกาหลีตั้งแต่เดือนแรกแล้วครับ แม้จะมีความคิดเห็นไม่ตรงกันบ้าง กามินทำเพื่อปกป้องผลประโยชน์ตัวเองบ้าง แต่ทั้งคู่ก็ดูพยายามปรับตัวเข้าหากันแล้ว แต่สุดท้ายถ้ามันไม่ไหวก็คือไม่ไหวแหล่ะครับ มันฝืนโชคชะตากันไม่ได้
ถามว่าเรื่องนี้ใครผิด ส่วนตัวผมมองว่าไม่มีใครผิดหรอกครับ แล้วแต่มุมมองว่าจะมองจากฝั่งไหน เป็นเรื่องของคนสองคนที่มีความคิดเห็นและมุมมองที่ไม่ตรงกัน เพราะต่างคนต่างโตในรูปแบบทางสังคมและวัฒนธรรมที่ต่างกันเท่านั้นเอง
ฝั่งชาลีก็มองว่า กามินไม่จริงใจ มาเพื่อกอบโกยหาผลประโยชน์แล้วชิ่ง ซึ่งไม่แปลกถ้าจะมองแบบนั้น เพราะ 1.เรื่องกีดกันโฮสคนอื่น 2.เรื่องไปวางแผน เซ็นสัญญากับเอเจนซี่ เพื่อเปิดบริษัทในไทยลับหลังชาลี ล้วนเป็นเรื่องทำเพื่อปกป้องผลประโยนชน์ของตัวกามินเองทั้งนั้น ฝั่งชาลีจึงมองว่า ผลประโยชน์มีมากกว่าความรัก = หลอกลวง
ส่วนฝั่งกามินก็มองว่า ตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด เพราะมองว่าเรื่องความรัก = เรื่องผลประโยชน์ สามารถทำควบคู่กันไปได้ เพราะเรื่องงานก็ส่วนเรื่องงาน ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เงินมาเลี้ยงชีพ ต่อสู้ดิ้นรนเพื่อเอาชีวีตรอด แม้จะต้องแลกมาด้วยการเอาเรื่องความรักของตนเองมาหาผลประโยชน์บ้างก็ตาม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ากามินไม่จริงใจกับชาลี ไม่รักชาลี การที่เค้ายอมทิ้งการเรียนป.โท ทั้งๆที่อีกไม่กี่เดือนก็จะจบอยู่แล้ว ยอมทิ้งชีวิตในเกาหลี 6-7 เดือนมาอยู่เมืองไทยถือว่านานมากนะครับ ครึ่งนึงก็เพื่อจะได้ใช้เวลาเรียนรู้และอยู่กับชาลีนั่นแหล่ะ และการที่ยอมให้โฮสคนอื่นมาบ้านชาลี ทั้งๆที่ตอนแรกกีดกัน และกามินเองก็ยอมลดการ PK ลงอย่างมากมาย ยอมทิ้งรายได้วันละหลายแสนบาท ตลอดเวลาที่อยู่เมืองไทยกับชาลี เลือกที่จะหารายได้จากการไลฟ์สดขายของแทนรายได้จากการ PK ยิ่งช่วงหลังๆหลายเดือนมานี้ จะ PK เฉพาะช่วงที่มีอีเว้นท์ใหญ่ๆเท่านั้น ก็เป็นหลักฐานที่ดีที่แสดงให้เห็นว่าตัวกามินเอง ก็จริงใจและพยายามปรับตัวเพื่อรักษาความรักครั้งนี้ไว้เหมือนกัน ส่วนอีกครึ่งนึงก็ปฎิเสธไม่ได้หรอกว่าเพื่อกอบโกยชื่อเสียงและเงินทองด้วย
สุดท้าย ถึงแม้ตัวกามินเองจะมีข้อเสียที่ไม่น่าให้อภัยเท่าไรที่เอาเรื่องความรักของชาลีไปหาผลประโยชน์ใส่ตัว
(ดูจะเห็นแก่ตัวมากไปหน่อย) และกำลังรับผลกระทบเชิงลบอย่างรุนแรงในเรื่องนี้
แต่ชาลีเอง ก็น่าถูกตำหนิไม่น้อยเหมือนกัน ปากคุณบอกว่ารักเค้า ให้เกียรติเค้า แต่คุณไม่พยายามที่จะเรียนรู้ ทำความเข้าใจและยอมรับตัวตนจริงๆของกามินเลย กับพยายามที่จะครอบงำความคิดของเค้า ปรับเปลี่ยนกามินให้เป็นอย่างใจที่ตัวเองต้องการฝ่ายเดียว การจะอยู่กับคนที่เรารักได้อย่างยาวนาน
มันไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ว่าทั้งคู่ปรับตัวกันได้มากแค่ไหน แต่มันขึ้นอยู่กับว่า
คุณทั้งคู่ยอมรับข้อเสียของกันและกันและมองข้ามมันไปได้มั้ยต่างหาก
เรื่องนี้จะไม่มีปัญหาเลย ถ้าชาลียอมปล่อยเรื่องงานให้กามินเป็นคนตัดสินใจเอง ว่าเค้าจะทำอะไรหรือไม่ทำอะไร
ชาลีีมีหน้าที่แนะนำสิ่งที่ดีๆเท่าที่จะทำได้ให้กับกามิน หรือติงได้ว่าเรื่องไหนเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม
แล้วไม่ว่ากามินจะตัดสินใจยังไง ก็ต้องยอมรับผลที่ตามมาแล้วช่วยกันจับมือกันเดินไปข้างหน้า
ส่วนตัวกามินเอง ก็ต้องลดเรื่องความเห็นแก่ตัวลงมาเหมือนกันและรู้ว่าเรื่องไหนสมควรทำหรือไม่สมควรทำ
ต้องยอมรับและเข้าใจในสิ่งที่ชาลีพยายามสื่อสารให้ได้ เพราะผมเชื่อว่าทุกสิ่งที่ชาลีทำ ก็เพราะมีเจตนาที่ดีกับกามินทั้งนั้น
ส่วนเรื่องหยิบย่อยอื่นๆมู้ล่างลงไปแล้วนะครับ เกี่ยวกับข้อเท็จจริงต่างๆ เรื่องจ่ายเงินจ่ายทองก่อนกับอะไรกันก็น่าจะเข้าใจกันหมดแล้ว
ขอบคุณที่สรุปมาให้ครับ
ความเห็นส่วนตัว
ชาลี เติบโตมาในโลกคนละใบกัน กามิน
ชาลี รักคือการดูแล ใส่ใจ ทำสิ่งดีๆให้อย่างเต็มที่
กามิน รักคือจับมือกันไว้ ห้ามปล่อยมือ
ชาลี รักถนอมดูแลกามินแบบเพื่อนคนพิเศษ บัดดี้
(ชาลีรักคนทุกคนเท่ากัน แต่กามินคือคนพิเศษ)
แต่ยังไม่ใช่รักแบบคู่ชีวิตที่พร้อมอดทน รอคอย จนกระทั่งสุกงอม
กามิน รักชาลีแบบขุมทรัพย์อันประเมินค่าไม่ได้
ยกขึ้นหิ้งส่วนตัว ของๆฉัน ฉันชมได้คนเดียว
ผสมกับผจญภัย กล้าลุย กล้าเสี่ยง
.
.
แต่อย่างว่าเพิ่งคบหากัน ถ้าคบกันไประดับ 10 ปี++
ปัญหาพวกนี้จะเล็กน้อยมากๆๆๆๆ