รับสายช้าจนถึงไม่รับสายในบางเวลา ปฎิเสธคนมาใช้บริการแบบห้วนๆไม่ถึงหยาบคายแต่ก็ไม่ได้พูดดีมาก
ห้ามคนมาใช้บริการแบบไม่ถนอมน้ำใจ(ไม่ถึงขั้นด่าพูดปกติแต่รู้สึกได้ถึงความเด็ดขาด) และอื่นๆอีกมากมาย

คิดว่าสาเหตุมาจากอะไร
1.คนมาใช้บริการเยอะ งานล้นมือ เลยบริการไม่ทั่วถึง
2.ขี้เกียจกันเอง จะบริการดีก็ทำได้
3.ไม่มีนโยบายบริการดีๆอยู่แล้ว หัวหน้าสั่งมาแค่ไหนก็ทำแค่นั้น
4.อื่นๆ


คิดว่าสาเหตุเกิดจากอะไรครับ

คนมาใช้บริการเยอะ งานล้นมือ เลยบริการไม่ทั่วถึง

เจอแต่แก่ๆ ที่บริการห่วยๆอะ เหมือนเราเป็นทาสเขาอะ เหมือนต้องไปอ้อนวอนมันอะ
แต่ถ้าเจอวัยรุ่นนี่บริการดีมาก

ส่วนมากผมว่าเจอคนเยอะ อากาศร้อน นั่นแหละ เลยระเบิดซะ

แต่ที่เจอนะ ไปขนส่งแต่เช้าคนไม่ถึง 3 คน ทำใบขับขี่แอร์เย็นๆ แม่งยังโดนเหวี่ยง

ความดีความชอบ ความรับผิดรับชอบขึ้นอยู่กับนาย

ไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน

แย่แค่ไหน ถ้าไม่ผิดวินัยร้ายแรงจริงๆ ก้ไม่ตกงาน เลยชิลๆ ไง

เพราะทำแย่แค่ไหนก็ไม่มีทางโดนไล่ออก มันไม่ได้มีการวัด KPI เข้มเหมือนบริษัทเอกชน พอคนทำดีเสมอตัว ทำชุ่ย ๆ ก็ไม่โดนอะไร ก็ไม่รู้จะตั้งใจทำงานไปทำไมครับ

ผมก็ทำบริการนะ วันนึงเจอ ผู้โดยสารหลายพันคน
ควงกะ โหด นอนน้อย ทำให้บางทีหมดแพสชั่นทำงานเลย หน้าบูดบึ้ง หน้าเพลียเหนื่อย หน้ามันหัวมัน
แต่ก็ดึงสติให้กลับมาได้ว่ายังอยู่ในหน้าที่ เดี๋ยวกลัวผดส มองก็จะรู้สึกว่าเราบริการไม่ดี
กลับบ้านคือสลบ ยืนวันละ 10ชม. เดินวันละ 11กม.++
ตอนนี่อายุ 29 ก็คิดว่าถ้าแก่ไปมากกว่านี้อีก10ปี คงไม่ไหว คงเป็นเหมือนข้าราชการอย่างที่ท่านว่าเลย

หน้าที่หลักข้าราชการมีบทบาท 2 ประการ ได้แก่

1. Regulator หรือผู้กำกับดูแล กำหนดกฎระเบียบ ออกนโยบาย และควบคุมกำกับให้การดำเนินงานของหน่วยงานต่างๆ เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่กำหนดไว้ เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยและเป็นธรรมในสังคม

2. Provider หรือผู้ให้บริการ มีหน้าที่จัดหาและให้บริการสาธารณะแก่ประชาชน

ข้าราชการรุ่นเก่าหลายคนมักมองว่าตัวเองเป็น Regulator ไม่ใช่ Provider ครับ

ไม่ต้องกับคนทั่วไป เจ้าหน้าที่ด้วยกันยังโดน เวลาไปส่งจดหมายต้องผ่านกลุ่มงานนั้น ๆ ไปส่งทีไรปากหมาตลอดกับเจ้าหน้าที่ด้วยกันเอง

ยังพูด ๆ กับพี่ที่กลุ่มด้วยกันว่าสักวันคงโดนเจ้าหน้าที่ด้วยกันเองร้องเรียนเข้ามาแน่ ๆ

และสุดท้ายโดนจริง ๆ เรื่องเข้ากลุ่มวินัยเรียบร้อย

จากที่เคยทำงาน รชก.เป็นหน่วยงานที่ต้องให้บริการประชาชน

เป็นทั้งข้อ 1,2 ข้อ 3 จะไม่ค่อยมีเพราะหัวหน้า ทำแบบนี้ก็โดนข้างบนที่ใหญ่กว่าเล่นงานเหมือนกัน

เอาง่ายๆบางหน่วยงาน องค์กรเดียวกัน งานคนละหน้า บางคนหนัก บางคนสบาย เช่นตอนที่ทำอยู่ บางกลุ่มงาน 16.00 เก็บของ 16.30 รอสแกนนิ้วกลับบ้าน ของผมเวลากลับบ้านไม่ต่ำกว่า 17.30 โอก็ไม่ได้ นอกจากวันไหน เหนื่อยและเครียดจริงๆ 16.30 เก็บของกลับบ้านเหมือนกัน

1.ผู้นำ > สร้าง Core Values, Teams และมี Visions
ผู้นำ/Head > Motivate

2.องค์การ (Oragazation) - วัฒนธรรมองค์การที่เหมาะสม /ระบบการคัดสรรทรัพยากรบุคคลที่ได้คุณภาพ < ต้องสร้างโดย Excusive Team
พนักงานผู้ปฏิบัติงาน เป็นผลที่ปรากกฏร่วมออกมา

3. ละเลยต่อการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้ในองค์การ ซึ่งต้องมีผู้นำเป็นผู้เปลี่ยนแปลง

ทำดีไปทำไม ได้เงินเท่าเดิม แถมเงินกินก็จะไม่พอกิน อยากได้ไรต้องกู้เอา มันก็เช้าชามเย็นชามไปงั้นแหละครับ

หลักๆเลยของสาธารณสุข คือนโยบายขายฝันของผู้ใหญ่ในกระทรวงที่นั่งบนหอคอยงาช้าง+นักการเมืองที่เข้ามาบริหารต้องการผลงาน ทำให้เกิดอัตรากำลังไม่เพียงพอ เพราะต้องไปทำงานนโยบายใหม่ ๆ ที่เพิ่มขึ้นมา เพื่อเร่งตัวชี้วัดให้ สสจ. เอาไปพูดกับพวกบิ๊ก ๆ ในกระทรวงได้ ว่ามีการทำงานสนองNEED พวกทั่น ๆ แล้วนะ ปูนบำเน็จพวกเราผู้บริหารด้วย

ในขณะที่คนหน้างานที่ปฏิบัติหน้าที่ มีงานเพิ่ม เอาคนไปทำงานพัฒนาเพื่อเร่งตัวชี้วัด จนคนที่เหลือทำงานกับคนไข้จริง ๆ วิ่งกันหัวหมุน แล้วยังโดนคนไข้ด่าอีกว่าทำงานช้าเป็นเต่าไม่ทันใจ

นี่คือสภาพโรงพยาบาลระดับอำเภอยุคนี้ครับ ที่อื่นอาจจะแตกต่างไปบ้างตามบริบทของแต่ละที่

ถ้าทำดีแล้วไม่ได้ผลตอบแทนอะไรมากขึ้น มันก็จะยังงี้แหละ