'วัตกินส์' คมกริบ!!! สิงโตยิงน.90+1 แซงเฉือนกังหัน 2-1 ทะลุชิงอีกครั้ง
ทีมชาติ อังกฤษ ทำสำเร็จแม้โดนนำอย่างรวดเร็วจากการยิงไกลอันยอดเยี่ยมของ ซาวี่ ซิมอนส์ แต่มาได้จุดโทษ แฮร์รี่ เคน ช่วยให้ทีมตีเสมอได้ก่อนที่ โอลลี่ วัตกินส์ ตัวสำรองจะกลายเป็นฮีโร่ซัดสุดคมนาที 90+1 สิงโตคำราม เลยแซงกลับมาเฉือน เนเธอร์แลนด์ 2-1 เข้าชิงชนะเลิศยูโรอีกครั้ง
เนเธอร์แลนด์
Starting Formation: 4-3-3
22.
เดนเซล ดุมฟรีส์
90+3'
6.5
14.
ไทจ์ยานี่ เรจ์นเดอร์ส
6.0
7.
ซาวี่ ซิมอนส์
90+3'
6.5
18.
ดอนเยลล์ มาเลน
45'
5.5
10.
เมมฟิส เดปาย
35'
5.5
ตัวสำรอง
9.
เวาท์ เวกฮอร์สต์
45'
6.0
16.
โยอี้ เฟียร์มัน
35'
7.0
19.
ไบรอัน บร็อบบีย์
90+3'
-
21.
โยชัว เซิร์กซี
90+3'
-
ฟุตบอลยูโร 2024 รอบรองชนะเลิศ
สนาม สตาดิโอน ดอร์ทมุนด์
วันท่ 10 กรกฎาคม 2567
กรรมการ เฟลิกซ์ ซวาเยอร์
เนเธอร์แลนด์
1
2
อังกฤษ
1-1 เคน 18' (Pen.)
1-2 วัตกินส์ 90+1'
เนเธอร์แลนด์ ชุดเดิมเหมือนก่อนหน้านี้ยกเว้นการปรับแนวรุกตำแหน่งเดียวด้วยการดร็อป เบิร์กไวจ์น แล้วส่ง มาเลน ออกสตาร์ทแทน
ส่วนทางด้าน อังกฤษ ก็ได้ เกฮี พ้นโทษกลับมาคุมหลังอีกครั้งและพวกเขายังเลือกใช้แผนเดิมกับนักเตะชุดเดิม โฟเดน คู่ จู๊ด ยืนด้านหลัง เคน
กังหันขอก่อน!! ซิมอนส์ ตะบันไกลตุงตาข่ายออกนำ
เริ่มเกมไม่นาน เนเธอร์แลนด์ เอาประตูออกนำเรียบร้อยแล้ว เป็นจังหวะตักบอลขึ้นหน้าแล้วโดนโหม่งดักไว้แต่ ซิมอนส์ ตามแย่งกลับมาจาก ไรซ์ ก่อนลากมาเองถึงหน้าเขตโทษก่อนตะบันตุงตาข่าย เนเธอร์แลนด์ นำแล้ว 1-0
สิงโตตอบโต้ เคน ยิงไกลโดนปัด
อังกฤษ ตอบโต้ด้วยจังหวะดักบอลกลับมาได้แล้ว เบลลิงแฮม จ่ายให้กับ เคน ระยะไกลหน่อย 30 หลาได้ตัดสินใจส่องเองเลยบอลพุ่งมายังโดน แฟร์บรุคเค่น ปัดไปก่อน
สิงโตมาอีกที เคน วอลเล่ย์ข้ามคาน
หนนี้ อังกฤษ ลุ้นใกล้เคียงขึ้นอีกเมื่อ ซาก้า ทางขวาได้บอลแล้วเลี้ยงตัดเข้าในเขตโทษโดนปิดมิดไปหมดพยายามหลบไปหาช่องยิงติดบล็อกยังจิ้มต่อให้ เคน จับบอลลอยขึ้นก่อนหวดส่งบอลพุ่งข้ามคาน
เปาย้อนแจกโทษ! เคน ไม่พลาดสิงโตตามเจ๊า
แต่แล้วกรรมการย้อนกลับมาเช็คภาพช้าจากจังหวะ เคน ยิงเพราะตอนยิงโดน ดุมฟรีส์ เข้ามายกขาขวางทำให้สตั๊ดโดนเท้า เคน เข้าไปและพอกรรมการเช็คก็แจกเป็นจุดโทษ
เคน ลุกขึ้นมารับหน้าที่จัดการให้เลือกยิงเสียบโคนเสาซ้าย อังกฤษ ตามเจ๊า 1-1
หวิดสอง!! โฟเดน ยิงผ่านนายด่านเจอดักบนเส้น
หวิดจะมีประตูนำให้กับ สิงโตคำราม เข้าแล้วในจังหวะที่ ไมนู รับบอลมาแล้วเลี้ยงลุยมาหน้าเขตโทษก่อนแทงคืน โฟเดน สอดเข้าเขตโทษทะลุไปจับบอลทีแรกเกือบไม่อยู่ยังเกี่ยวไปต่อได้มุมแคบหน แฟร์บรุคเค่น จนมีช่องยิงแต่ ดุมฟรีส์ ตามหยุดบอลบนเส้นทัน
นี่ก็เกือบ!! เตะมุมกังหัน ดุมฟรีส์ โหม่งชนคาน
เนเธอร์แลนด์ ตอบโต้บ้างแล้วก็เกือบออกนำอีกครั้งกับเตะมุมทางขวา ซิมอนส์ เปิดมาแถวเสาแรกแล้วเป็น ดุมฟรีส์ ขึ้นโหม่งได้แต่ส่งบอลชนคานอย่างจัง
หวิดสองอีก!! โฟเดน ยิงโค้งๆชนสามเหลี่ยม
อังกฤษ กลับมาบุกแล้วหวิดจะได้ประตูนำเหมือนกันเมื่อ ซาก้า จ่ายให้กับ โฟเดน หน้าเขตโทษจับเข้าซ้ายแล้วยิงโค้งๆส่งบอลชนสามเหลี่ยมเสาไกลออกหลังไปอีก
เดปาย เจ็บเสียแล้วกังหันส่ง เฟียร์มัน ลงแทน
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง เนเธอร์แลนด์ จำเป็นต้องเปลี่ยนตัวเพราะ เดปาย พบกับอาการบาดเจ็บและ คูมัน เลือกที่จะส่ง เฟียร์มัน ที่เล่นกองกลางลงมาแทน
โฟเดน ลองยิงไกลอีกแต่โดนเซฟไว้
ท้ายครึ่งแรก อังกฤษ มาได้โอกาสจบอีกครั้งในจังหวะ โฟเดน หน้าเขตโทษตัดสินใจยิงไกลอีกแล้วแต่หนนี้โดนเซฟเอาไว้ได้ แล้วก็จบครึ่งแรกไปโดยที่เสมอกันอยู่
เกมเงียบเลยไม่มีทีมไหนได้โอกาสลุ้น
กลับมาครึ่งหลังเกมต่างจากเดิมกลายเป็นทั้งสองฝ่ายทำได้เพียงแค่ครองบอลแต่ไม่มีโอกาสเพิ่มเติม อังกฤษ เคาะบอลไปมาหาช่องเจาะไม่ได้ส่วน เนเธอร์แลนด์ ต่อบอลขึ้นเกมบุกก็ยังไม่ดี
กังหันทำเสียว! ฟรีคิกเปิดถึง VvD ชาร์จเจอปัด
โอกาสลุ้นมาแล้วกับฟรีคิกทางขวา เฟียร์มัน เลือกครอสยาวเข้าเขตโทษไปเลยแล้วทางเสาไกล ฟาน ไดจ์ค วิ่งเบียดกับตัวประกบมาชาร์จได้แต่ พิคฟอร์ด ปัดไปก่อน
ซิมอนส์ ได้ยิงบอลกระดอนตรงตัว
เกมล่วงเลยมาจนถึงช่วงท้าย เนเธอร์แลนด์ กลายเป็นฝ่ายครองบอลแทนแล้วก็หาโอกาสได้เมื่อ กัคโป ทางซ้ายตัดสินใจครอสเข้ามา เวกฮอร์ตส์ สะกิดไม่ได้บอลยังเข้าทาง ซิมอนส์ ยิงสวนไม่ต้องจับแต่บอลกระดอนพื้นไปโดนรับง่ายๆ
ยังไม่นำ!! วอล์คเกอร์ ปาดถึง ซาก้า ยิงหายแต่ล้ำ
แล้วอยู่ๆ อังกฤษ ก็มาส่งบอลเข้าประตูไปได้แต่ยังไม่นำหลังจาก วอล์คเกอร์ ทางขวาเติมมารับบอลแล้วถึงเขตโทษก่อนปาดมาเสาแรก ซาก้า ยิงไม่เหลือถึงอย่างนั้นย้อนจับล้ำหน้า วอค์เกอร์
สิงโตขอยิงอีกที พัลเมอร์ ซัดออกหลัง
โอกาสของ อังกฤษ มาอีกหลังเปิดข้ามให้ ชอว์ เติมไปสุดเส้นหลังแล้วเปิดเข้าใน วัตกินส์ ชาร์จไม่ได้บอลหลุดมาถึง พัลเมอร์ ซัดแต่ก็ส่งบอลพุ่งหลุดกรอบ
สิงโตทำได้!! วัตกินส์ คมกริบพลิกยิงเสียบเสาไกล
แต่แล้วทดเจ็บ อังกฤษ ก็มาเอาประตูนำเข้าจนได้ กับจังหวะที่ พัลเมอร์ เลือกจ่ายบอลให้กับ วัตกินส์ ในเขตโทษโฉบมารับบอลจับเข้าขวามุมแคบก็จริงแต่จัดการซัดส่งบอลพุ่งเสียบโคนเสาไกลหมดจด อังกฤษ ออกนำ 2-1
จบเกม อังกฤษ กลับมาเอาชนะ เนเธอร์แลนด์ 2-1 ผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศเป็นหนที่สองติดต่อกัน ต้องรอดูว่าหนนี้จะทำได้สำเร็จหรือไม่หลังเจอกับ สเปน ที่ฟอร์มร้อนแรง
อังกฤษ
Starting Formation: 3-4-2-1
12.
คีแรน ทริปเปียร์
45'
6.0
7.
บูคาโย่ ซาก้า
90+3'
6.0
26.
ค็อบบี้ ไมนู
90+3'
7.0
11.
ฟิล โฟเดน
81'
7.0
9.
แฮร์รี่ เคน
81'
6.5
ตัวสำรอง
3.
ลุค ชอว์
45'
6.0
8.
เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
14.
เอซรี คอนซ่า
90+3'
-
16.
คอนเนอร์ กัลลาเกอร์
90+3'
-
19.
โอลลี่ วัตกินส์
81'
7.5
24.
โคล พัลเมอร์
81'
7.0
แก้ไขล่าสุดโดย redenzo เมื่อ Thu Jul 11, 2024 04:12, ทั้งหมด 6 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ