[RE: ใครที่กำลังมีลูกครับหรือมีแล้ว]
lotte พิมพ์ว่า:
Spoil
PLATOON พิมพ์ว่า:
ตอนจะมีลูก แฟนผมบอกจะมีลูกคนเดียวแล้วเป็นลูกสาว
ผมก็จัดให้ตามนั้น ตามใจแฟนอ่ะ เผลอแป๊บเดียวลูกสาวเรียนมหาลัยปีสุดท้ายแระ เวลามันไวจริงๆ
คำแนะนำ ก็เลี้ยงเค้า แบบที่เค้าอยากเป็น ไม่ใช่ในแบบที่เราอยากให้เป็น
เรามีหน้าที่ดูแลเป็นที่ปรึกษา อย่าบังคับ และอย่าตามใจมากไป เอาแบบกลางๆ
อย่าเอาความฝันของพ่อแม่มายัดเยียดใส่ให้ลูก เค้ามีชีวิตของเค้าเป็นแบบของเค้าเอง
ผมถือว่าโชคดีลูกสาวขยันเรียน เรียนเก่ง พูดได้ 3 ภาษา (ไทย-จีน-อังกฤษ) แล้วไม่ชอบเที่ยวแบบวัยรุ่นทั่วไป
อายุ 22 แล้วยังไม่เคยเข้าไปเที่ยวผับ เพื่อนชวนก็ไม่ไป 5555+
(ไม่เหมือนผมที่เป้นพ่อเที่ยวเทคเที่ยวผับตั้งแต่อายุ 15-16 ดื่มเหล้าเมาตั้งแต่นั้น[สมัยก่อนไม่มีจำกัดอายุ]
สงสัยได้ด้านดีของแม่เค้ามา ดีแล้วที่ไม่ได้ด้านชั่วๆจากพ่อไป 5555+ )
อ่อ อีกเรื่อง ผมไม่เคยตีหรือแม้กระทั่งด่าลูกเลย คือใจเย็นค่อยๆสอนด้วยเหตุผลไม่ใช้อารมณ์ นี่สำคัญมาก
(ตอนเด็กๆผมโดนตีทั้งจากพ่อและแม่ ตั้งเป้าว่ามีลูกจะไม่ตีลูกเลย จะค่อยๆสอนเอา แล้วทำได้ ภูมิใจๆ)
ขอสอบถามหน่อยครับ เรื่องภาษาท่านวางแผนให้เค้ายังไงบ้างครับ ตั้งแต่เล็กจนปัจจุบัน
ผมอยากให้เค้าได้อย่างน้อย 2 ภาษา ตอนนี้เพิ่ง 4 เดือนในท้อง ได้ผู้หญิงเหมือนกันครับ
บอกตรงๆ ไม่ได้วางแผนอะไรเลยครับ
เรื่องเรียนผมไม่ได้ซีเรียสแต่แรก เค้าจะเรียนเก่งไม่เก่งไม่ได้คาดหวังอะไร
แต่! ผมจะให้เข้าโรงเรียนที่ดีที่สุด ผมอยู่ตจว. เข้ามาทำงานที่ กทม บ้างเป็นบางครั้ง
แต่แฟนกับลูกอยู่ตจว.ตลอด แฟนผมจะให้ลูกเรียน โรงเรียนเอกชนที่ดีที่สุดของจังหวัด ตั้งแต่อนุบาล ประถม ม.ต้น ม.ปลาย
ผมมีหน้าที่จ่ายค่าเทอม 55555+ แพงอยู่แต่ยินดีจ่าย ทุ่มให้ลูกไม่ตระหนี่อยู่แล้ว
เกรดเฉลี่ยตอนมัธยมไม่เคยต่ำกว่า 3.85 เลยซักเทอม ลูกผมไม่ชอบคณิตศาสตร์อย่างแรง
ก็มีวิชาเลขนี่ล่ะที่ดึงเกรดลง ไม่งั้น 4.00 ไปแล้ว แต่เก่งเรื่องภาษา พูดอังกฤษได้คล่องตั้งแต่ ม.1 เลย
(สมองซีกด้านคำนวณลูกผมไม่เก่ง แต่สมองซีกศิลป์ภาษาลูกผมเด่นเลย)
พอเค้าขึ้น ม.ปลาย มาปรึกษาผมว่าจะเรียนภาษาที่ 3 อะไรดี ตอนแรกเค้าจะเรียนฝรั่งเศส
แต่ผมบอกว่า ฝรั่งเศสมัน out ไปแล้วอย่าเรียนเลย ถ้าจะเรียนภาษาฝรั่งเพิ่ม แนะเป็นเยอรมันดีกว่า
เพราะใน EU คนพูดภาษาเยอรมันมากที่สุด แต่! อยากให้เรียนภาษาจีนมากกว่า เพราะคนพูดกันเยอะสุด
สรุปพอผมแนะนำไปลูกผมตัดสินใจเรียนภาษาจีน แล้วเค้าเป้นตัวแทนโรงเรียนไปแข่งทักษะภาษาจีนระดับภาคแล้วชนะ นำชื่อเสียงมาสู่โรงเรียนอีก(ภูมิใจๆ)
พอจะเข้ามหาลัย ยื่นไปทางเมืองจีน แล้วเค้ารับได้ทุน เรียนฟรี พักฟรี มีเงินให้อีกเดือนละ 1,500 หยวน (ราวๆ 7-8 พันบาท)
แต่ มันโควิดพอดี เลยเรียนออนไลน์ไปก่อน แต่สถานะการณ์มันข้ามปี ปีต่อมาเลยลาออกมาเข้ามหาลัยในไทย
เรื่องภาษาจีนเค้าพูดอ่านเขียนได้ สำเนียงแบบจีนกลางปักกิ่งเลย ดูซีรีส์จีนก็ไม่ต้องอ่านซับ
ส่วนภาษาอังกฤษเค้าก็ยังได้อยู่ เค้าชอบอ่านหนังสือของนักเขียนดังๆ เล่มไหนไม่มีแปลไทยก็ซื้อแบบอังกฤษมาอ่าน
นี่จะเรียนจบแล้ว จะยังไงต่อก็แล้วแต่เค้า จะทำงานเลยก็ไม่น่ายากเพราะเกรดเฉลี่ยดีกว่าตอนเรียน ม.ปลายอีก
หรือถ้าจะเรียนโทต่อ จะในไทยหรือต่างประเทศก็แล้วแต่เค้า ผมมีหน้าที่ส่งเสริมและผลักดันเค้าเต็มที่แค่นั้น
ไม่คาดหวังไม่ผิดหวังครับ ผมไม่ได้คาดหวังอะไรกับเค้ามากแต่แรก แค่ทำหน้าที่ที่ดีของคนเป็นพ่อ
คุณเชื่อมั้ย ผมนี่แทบจะเป็นเพื่อนของลูกเลย ตอนม.ต้นเค้าสนใจอะไรเช่นมังงะ ผมก็ต้องหามาอ่านเพื่อคุยกับเค้าได้
เค้าชอบ Kpop ผมก็ต้องดูต้องฟัง เค้าชอบซีรีส์เกาหลี ผมก็ต้องดู เพื่อคุยกับเค้าได้ (ไม่เคยชอบเล๊ยเกาหลีเนี่ยแต่ต้องทำ) 5555+
ตอนนี้เค้าชอบอ่านหนังสือของต่างประเทศ พวกนิยายของนักเขียนดังๆ ผมก็ต้องหาข้อมูลเพื่อจะคุยกับเค้ารู้เรื่อง
เรื่องช่องว่างของเจนมันเลยแคบ มันทำให้เค้าสนิทใจกับเรา เราแนะนำอะไรเค้าก็ไม่ต่อต้าน
อ่อ แต่ที่เป็นห่วงเรื่องนึงคือ ลูกผมไม่สนใจเรื่องความรักเลย เค้าไม่มีแฟน ไม่เคยมีแฟน ไม่สนใจจะมีแฟนเลย ทั้งที่ผมไม่ได้หวงไม่ได้ว่าอะไร
ลองดูครับอวยพรคุณพ่อมือใหม่ครับ คนเจนใหม่ๆเลี้ยงลูกได้ดีกว่าพวกเจนเก่าๆอยู่แล้ว