มาถามในนี้ได้อะไร 555 อ่านได้สะใจอย่างเดียว ความคิดคนละอย่าง แล้วคนในนี้มันเจนไหน

คือคนรุ่นใหม่มันมีเทรนด์ประมาณว่าใช้ชีวิตให้คุ้ม ชอบก็จัดจะประหยัดทำไม พวกนี้จริง ๆ ครับ

แต่จะให้บอกว่าถ้าประหยัดน้อง ๆ รุ่นใหม่พวกนี้จะมีบ้าน ก็ดูจะเกินจริงไปค่อนข้างเยอะ

ราคาบ้านเทียบค่าแรงสมัยก่อนกับสมัยนี้มันต่างกันจริง ๆ และก็ต่างกันมาก ๆ ด้วย

คนที่ได้บ้านจากพ่อแม่ต้องบอกว่าโชคดีมาก ขณะที่คนที่จะซื้อใหม่เขาต้องเตรียมเป็นหนี้แทบจะทั้งช่วงอายุการทำงาน จึงไม่แปลกที่คนจะเลือกเช่าบ้านอยู่กันมากขึ้นและการเป็นเจ้าของบ้านน้อยลง

เพ้อเจ้อครับ

และคนพูดประโยคนี้ คือพวกคิดว่าทุกอย่างจะต้องเหมือนสมัยตัวเองวัยรุ่น

พวกนี้ผมจัดให้เทียร์เดียวกันกับ

พวกที่บอกเงินเดือน 10,000 อยู่กรุงเทพได้ด้วยการกินข้าว 3 มื้อ มื้อละ 30 บาทเลย

ดูค่าครองชีพตอนนี้กับตอนนั้นดิต่างกันลิบลับแต่เงินเดือนเท่าเดิมนะ

เห็นด้วย 50% เอาจากตัวผมเอง จบมา 9 ปีละ ใช้ดงินกับ การออกไป ตปท เกิน 500k ละ

ส่วนอีก 50% ไม่เห็นด้วย เพราะ การออกไป ตปท ทำให้รู้ว่าค่าครองชีพ บ้านเราเทียบค่าแรงโคตรสูง

จ้าา เดี๋ยวรวยให้ดูไอ้พวก gen x

มันหลายๆอย่างประกอบกันอะ การบริหารผิดพลาดก็มีส่วน วัฒนธรรมของมันต้องมีก็มีส่วน

พวกgen x นี่แหละ แน่จริงก็ให้ค่าแรงเท่ากับเงินค่าที่ตอนนี้ดิ ที่คนเอาเงินมาใช้ซื้อของแพงๆฟุ่มเฟือยเพราะเก็บให้ตายยังไงก็ไม่มีวันซื้อได้ตะหาก โทสับ5หมื่น ถ้าไม่ซื้อผ่อนบ้านได้กี่เดือน หรือไม่กินบุฟเฟ่เดือนนึง ผ่อนบ้านได้ถึงเดือนรึเปล่า

กราฟก็มีให้ดูว่าค่าแรงกับค่าบ้านมันต่างกันขนาดไหน ถ้าทำธุรกิจแล้วเจ๊งก็ติดลบอีก สู้ใช้ซื้อของได้ความสบายใจยังดีกว่า

สมัยก่อนบุพเฟ่หมูกระทะราคา 69 บาท

เห็นด้วย 50%

จริงนะ ตอนเด็กๆ จำได้ พ่อแม่เป็นพ่อค้าแม่ค้าขายปลาอยู่ในตลาด อยู่บ้านเช่าในสลัม เก่าๆ ติดคลองน้ำเน่า

ส่วนมาก แกกินแต่น้ำพริก ไข่ต้ม ทำกับข้าวกินที 3 มื้อ ที่บ้านมีทีวีเก่าๆ ตู้เย็นเก่าๆ ของใช้ ไม่เยอะ นอกจากส่งลูกเรียนก็ไม่เห็นแกต้องการอะไร อะไรไม่จำเป็นแกไม่ซื้อเลย

จนซัก ม.1หรือ ม.2 นิละ แกพาไปดูบ้านก็ แล้วบอกนิบ้านเรานะ ไม่ต้องไปอยู่ในสลัมแล้ว ซื้อสดซะด้วย

ตอนนั้น โครตดีใจเลย จะได้มีห้องส่วนตัวซักที ไม่ต้องนอนมุ้ง รวมกันกับพี่

แถมแกยังไปซื้อที่ดินแถวนนท์ ทำหอให้เช่าอีก

แต่แกก็กินเหมือนเดิมนะ น้ำพริกผัก แกงทั้วไป พาไปห้างไปกินของดีๆ ก็ไม่ไป บอกแพง ให้เราเก็บเงินไว้ใช้ตอนแก่ดีกว่า

สภาพ ดูปัจจุบันมีกินมีใช้ก็หรูแล้ว

ผมไม่รู้จะตอบยังไงเลยครับ...

มันมีความ "เหมารวม" อยู่ในคำถาม..ก็เลยพยายามตอบแบบไม่เหมารวมและอิงความจริงจากประสบการณ์ของผมดีกว่า

ขอตอบตามสิ่งที่ผมพบเจอมาจริงๆ ก็แล้วกัน.. ผม Gen Y นะครับ

Baby Boomer (ผมคิดว่ามีไม่ถึง 5 คนรอบตัวผมนะ) ที่มีความคิดแบบที่เจ้าของกระทู้พูดถึง

แต่นอกเหนือจากนั้น ยกย่องเด็กรุ่นนี้นะครับ ว่าฉลาด หัวไว โดยเฉพาะเรื่องเทคโนโลยี
ทั้งหัวหน้าผม เจ้าของบริษัทที่ผมคุย ทุกคนจะบอกว่า คนรุ่น Boomer อย่างพวกเค้าตามโลกไม่ทัน
กระแสมันไปไวมากๆ เค้าอาจจะสอนหัวใจการทำธุรกิจได้ แต่เทคนิคการทำธุรกิจ ทุกคนพูดเหมือนกันหมดว่า เด็กยุคนี้เข้าถึงข้อมูลได้ง่าย เทคนิคทุกอย่างอยู่ในอินเตอร์เน็ตหมดแล้ว สามารถลองผิดลองถูกได้ โดยที่ไม่ต้องเจ็บตัวหนักแบบคนยุคก่อน และเค้ายังชื่นชมว่า เด็กยุคนี้เก่งมากที่ต้องสู้กับการแข่งขันที่สูงขนาดนี้ มีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาในสนามตลอดเวลา ทั้งในประเทศ ต่างประเทศ สรุปว่า Boomer ที่ผมรู้จักพูดถึงเด็กยุคใหม่ในเชิงบวกทั้งหมดนะครับ

ทีนี้มุมของ Gen Y แบบผมที่มองน้องๆ บ้าง

ในมุมผมนะครับ "พวกคุณโคตรเก่งเลยครับ"

การมีบ้าน มีรถ มันเป็นไม้บรรทัดของคนรุ่นผม รุ่นพี่ผม รุ่นพ่อผมอย่าง Boomer Gen X และ Gen Y

ผมเอาไม้บรรทัดแบบเก่า มาใช้วัดพวกคุณไม่ได้ครับ

โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว ผมเองก็ตามไม่ทันกระแสเหมือนกัน

มีน้องๆ หลายคนที่ผมรู้จัก เลือกที่จะไม่มีบ้าน เพราะงานเค้าทำ Remote Work ได้ ต้องย้ายไปเรื่อยๆ หรือทำงานที่ไหนก็ได้ การมีบ้านเป็นการมีพันธะหนี้ผูกพันระยะยาว

เค้ามองว่าสินทรัพย์สร้างได้หลายรูปแบบ ไม่ใช่รูปแบบอสังหาอย่างเดียว

เด็กยุคนี้รู้จัก Bitcoin เทรดหุ้นได้ เริ่มลงทุนตั้งแต่มัธยมเลย ..ย้อนกลับไปสมัยมัธยม ตัวผมเองยังไม่ทำมาหากินอะไรเลย เตะบอลเล่นไปวันๆ

เด็กยุคนี้ Live ขายของได้แล้ว เป็น Influencer หาเงินจากค่ารีวิว หรือ Affiliate ได้แล้ว ในขณะที่ตอนผมอายุเท่ากันยังต้องทำงาน เข้างานเป็นเวลาอยู่เลย

เด็ก Gen Z สร้างผลลัพธ์ได้ โดยไม่ต้องจำกัดวิธีการ เค้าเข้าถึง Tools ได้ทุกอย่างเลย อยู่ที่ว่าจะใช้ Tools แบบไหน

ผมกลับห่วงน้องๆ ด้วยซ้ำครับ
เพราะพวกเค้าอยู่ในโลกที่ Disrupt เต็มไปหมด
ไม่ใช่แค่ในไทย แต่ทั้งโลกเลย
สมัยก่อน เราแข่งกับคนในประเทศ
แต่ตอนนี้ น้องๆ ต้องแข่งกับทั้งในประเทศ และต่างประเทศ

น้องๆ บางคนไม่ผิดเลยที่จะรู้สึกถอดใจ แล้วใช้ชีวิตให้มีความสุขแบบวันต่อวัน ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ครับ
ผมเข้าใจความยากลำบากเลยครับ ว่าเด็กในยุคนี้ต้องเหนื่อยแค่ไหนถึงจะตั้งตัวได้
นี่ยังไม่นับรวมน้องๆ ที่ต้องแบกครอบครัวอีกนะครับ

พวกคุณ "สุดยอดว่ะ"



ฺไม่ใช่คนรุ่นพ่อ/แม่ ทุกคนที่คิด Negative กับเด็กยุคใหม่นะครับ
หลายคนชื่นชมในความพยายามของพวกคุณนะครับ

ก็แค่ความคิดของ Boomer ส่วนนึง ซึ่งก็อาจจะถูกหรือผิดก็ได้

คนที่เป็นแบบที่คุณฟังมา ก็มีอยู่จริง และ คนที่ไม่เป็นแบบนั้นก็มีอยู่จริง เพราะงั้นผมไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย

พ่อแม่ผมก็คนรุ่นนั้นแหละ ก็ไม่ลงทุนอะไรก็เห็นมีบ้านจริง เพราะ ชีวิตเค้าทำงานทั้งชีวิต แล้วผลลัพธ์มันออกมาดี เค้าก็เชื่อว่าสิ่งที่เค้าทำนั้นมันดี (ซึ่งผมก็ไม่คิดว่ามันแปลกอะไร) แต่ในขณะเดียวกันมันก็มี Boomer ที่ไม่รอด

แล้วก็เช่นเดียวกับคนยุค X Y Z นั้นแหละ


จะไปบอกคน Boomer ไม่ทันโลก ไม่ต้อง Boomer หรอก ตอนนี้ผม 36 ผมก็ไม่ทันโลกหลายอย่างแล้ว

ทุกวันนี้ ผมซึ่งอ่านคลิปโต ผมก็ยังไม่เข้าใจมัน ทั้งๆที่เงินจากหลายๆที่ทั่วโลก ก็ถือว่ามันเป็น wealth ส่วนนึงไปแล้ว

ผมไม่ได้บอกว่ามันดีหรือไม่ดี แค่ผมไม่เข้าใจ ผมก็แค่ไม่ยุ่ง ซึ่งผมก็ตกยุคละเห็นมะ ฮ่าๆๆๆๆ

ถูกแค่บางส่วน

ไม่มีบ้าน = เพราะบ้านกับค่าครองชีพมันแพงระยับ แต่ตอนรุ่นท่าน ราคาถูกแค่ไหนก็รู้อยุ่

ไม่ขยัน = ตอบยาก มันมีทั้งคนขยันและคนขี้เกียจอยุ่แล้วทุกรุ่น แต่คนรุ่นใหม่เค้าอยากใช้ชีวิตให้คุ้มด้วย ไม่ใช่แค่ทำงานจนถวายชีวิต

ฟุ่มเฟือย = ก็คงใช่ โลกโซเชียลมีแต่คนอวดคนมี มนุษย์เห็นก็อยากมีอยากอวดตามๆกันไปหมด ตามนั้นแหละกิเลสเยอะกว่ายุคก่อนแน่นอน

สุดท้ายคือยุคใครยุคมัน ตามกาลเวลา ยุคสมัย
พวก Baby Boomer มาเกิดยุคนี้ก็คงทำตัวไม่ต่าง
ส่วนเด็กยุคนี้ถ้าเกิดตอน Baby Boomer ก็คงไม่ต่าง