ถ้าศาลตัดสินว่า Byd ต้องชดใช้มันจะเป็นยังไงอะ น่าจะโคตรโกลาหลเลย

ทนายลูบปากหวาน ๆ เลย

วงการ BYD นี่ไปไกลจัดๆ ค่ายญี่ปุ่นปีนี้ทั้ง Honda, Toyota ลดราคากันเป็นแสนฐานลูกค้าก็ยังไม่บ่นพร่ำเพ้อขนาดนี้ ส่วนหนึ่งมองว่าคนใช้รถ EV มีปมแพนิคในใจตั้งแต่ จำนวนศูนย์บริการ ความเชี่ยวชาญของช่างฯ, อะไหล่, สถานีชาร์จ, ราคาแบตเตอร์รี่กรณีเสียหาย, ราคาเบี้ยประกันซ่อมอีก ปกติก็แซะค่ายยุ่นมุกกั๊กของที่ให้ กั๊ก Technology เพื่อเอามาเป็น Requirmennt ในการซื้อ EV อยู่แล้ว มาเจอจุดพีคเรื่องการทำการตลาดแบบลดราคาวัวตายควายล้มแบบนี้ คือฟางเส้นสุดท้ายเลย ธาตุไฟแตกกันเป็นแถว เพราะตอนซื้อดันบอกแค่ Option ก็คุ้มแล้ว เอาจริงๆพวก YTB สายยานยนต์จริงๆรู้แต่แรกอยู่แล้วว่าการตลาดจีนเป็นแบบนี้ กระตุ้นยอดขายในระยะสั้น แบบบูมๆไปเลย แต่สิ่งที่ค่ายจีนยังไม่ด้อยกว่าพี่ยุ่น และค่ายยุโรปคือเรื่อง การบริการหลังการขายที่เป็นหัวใจสำคัญในการกลับมาซื้อซ้ำนี่แหละ การสร้างความประทับใจในระยาวต่างหากคือกลยุทธหลัก แน่นอนละพี่ยุ่นมาแต่ละรุ่น MNC เปลี่ยนแค่สีเพิ่มนั่นนี่บ้างก็ยังสามารถขายได้เพราะ ยังมีกลุ่มคนใช้รถส่วนมากคำนึงถึงสิ่งที่มันมากกว่า Option นี่แหละ ผมชอบที่ค่ายจีนลงการตลาดรถยนต์มาทุก Secment เพราะจะได้กระตุ้นให้เจ้าใหญ่ๆตื่นตัวเลิกกั๊กในหลายๆอย่าง เพราะผมคิดว่ายังไงก็มีผู้บริโภคแบบใช้อารมณ์เหนือเหตุผลค่อนข้างมีเยอะพอสมควร เอามาเป็นกลไกกระตุ้นการขยับเนื้อขยับตัวสมเป็นพี่ใหญ่ทางยานยนต์บ้าง เพื่อที่จะได้เป็นประโยชน์แก่ผู้บริโภคแบบเราๆ

ปลายทางการเล่นคดีนี้ ยังไม่ทันเริ่มก็รู้ชตากรรมแล้ว คปภ ก็ไม่ช่วยอะไรไม่ได้หรอก เพราะมันคือกลไกทางการตลาดที่ค่ายรถทุกค่ายต้องทำอยู่แล้ว ไม่งั้นพวกที่ซื้อทองไปตั้งแต่ราคาบาทละ 3-4พันนี่ ร้านทองฟ้องตายห่าตอนเอามาขายตอนนี้แล้วสิ..

ทีแรกก็เฉยๆนะ พอเห็นพวกออกมาโวยวายแล้ว บอกได้คำเดียว สมน้ำหน้า

เห็นด้วยทุกประการ แต่อย่างนึง ที่เวลา รถไฟฟ้า ลดราคา แล้วมันดิ้นกันมากกว่าปกติ เพราะ สาเหตุ ในการซื้อรถไฟฟ้า คือ ต้องการ ลด รายจ่ายเมื่อเปรียบเทียบ กับ รถน้ำมัน
พอ รถไฟฟ้า ลดราคา ก็รู้สึกว่า สิ่งที่พยายามทำ มัน เสียเปล่า ก็เลยหัวร้อน
เพราะในการซื้อรถไฟฟ้า มันมีความเสี่ยง ตามนิสัยคนไทย ค่อนข้างเยอะอยู่แล้ว
บริการหลังการขาย อะไหล่ ราคาในการขาย บลาๆๆๆ

จริงเลย ตอนค่ายรถไฟฟ้าขายของพยายามจะชูว่าประหยัดค่าใช้จ่ายได้นู่นนั่นนี่ ระยะยาวคุ้มกว่า ผ่านมาปีกว่ากลายเป็นมูลค่าเงินหายไปสามแสนกว่า พวกความคิดที่ว่าซื้อก่อนประหยัดก่อนมันเลยไม่จริง

ของที่ไม่ได้ชูประเด็นว่าซื้อแล้วคุ้ม ประหยัด เวลาลดราคามันเลยไม่ได้มีปัญหาเพราะเค้าไม่ได้ชูประเด็นนี้แต่แรก ไม่ว่าจะเป็นรถ บ้าน มือถือ

หลังจากนี้รถไฟฟ้าจะมาชูประเด็นเรื่องความคุ้มค่า ความประหยัดไม่ได้แล้ว ความน่าเชื่อถือหายไปพอสมควร

ยูส little_rainnie หายไปไหนละครับ

โดนลบเหมือนยูซ Sir นั่นละ