เวลารถไฟฟ้าลดราคา หรือตัวท็อปลดราคาคนซื้อทุกคนปวดใจหมดแหละค่ะ
แต่ก็ไม่มีใครรู้ราคาต้นทุนล่วงหน้าได้ ถ้ารู้คงไม่มีใครติดดอยในการลงทุน
*จขกท.ใช้รถไฟฟ้าอยู่


แม้ว่าจะมีการส่งเสริมจากภาครัฐช่วยอุดหนุนราคา ทำให้ลดลงราคาถูกลง
แต่ก็จะมีความคิดที่ว่าเมื่อรัฐบาลเลิกอุดหนุนแล้ว รถต้องราคาขึ้นแน่ๆเลย



ก่อนจะเข้าประเด็นว่า "อย่ากลัวคำขู่ว่าจะขึ้นราคา" หรือถ้าบอกว่าถ้ารถขึ้นราคาลูกค้ายอมจ่ายแพงขึ้นไหม ขออนุญาตมาทำความเข้าใจกับราคารถก่อน


ขอยกตัวอย่าง BYD ขึ้นมาเพราะมีข้อมูลเปิดเผยมากที่สุด


ตอนเปิดตัว
50.1 kWh ราคา 528,730 ราคาต่อหน่วย 10,553
60.4 kWh ราคา 656,030 ราคาต่อหน่วย 10,861

ในขณะที่รถเปิดตัวที่ 1.2m บาท
ค่าแบตเตอรี่ มากกว่า 50% ของราคารถไฟฟ้า







เอาแค่ 1 ปี ราคาลงมา 3 เท่า ถ้าเอา 2 ปี
ถ้า ตั้งแต่รถเข้ามาขายก็ลดไป 6 เท่า
แม้ว่าต้นทุนการทำแบตเตอรี่ไม่ได้มาจากสินแร่ทั้งหมด แต่วัสถุดิบหลักราคาลดลง ย่อมทำให้ต้นทุนลดลง
https://tradingeconomics.com/commodity/lithium





ส่วนสาเหตุที่ราคาสินแร่ลดลง
1 การขยาย EV 100% ของทางยุโรปออกไป เพราะโครงสร้างพื้นฐานไม่พร้อม ลิ้ง

2 ลดการพึ่งพาสินค้าจีน ถ้าต้องใช้แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ยังไงก็ต้องซื้อแร่ หรือไม่ก็ซื้อแบตจากจีน(ลดไม่ได้แล้วเพราัจีนคุมเหมือน Lithium ทั่วโลกไปหมดแล้ว)

3 เมื่อก่อนมีความต้องการสูง มีเป้าที่ชัดเจนว่าจะ EV 100% 2030 จึงมีการเดินเครื่องจักรขุดเยอะ และผลิตจำนวนมาก พอความต้องการลดลง และการเลื่อนแผนการทำให้การผลิตแร่แร่มีมากกว่าความต้องการจริงๆ ส่งผลให้ราคาลดลง



ส่งผลให้แบตสำเร็จรูปราคาลดลงไป

BYD จาก 656,030 ลดลงไป 277,927.20 เหลือ 378,102.80



____________________________________________________________

กลับมาที่คำถาม "ซื้อลดไฟฟ้า อย่ากลัวมันขึ้นราคา"

1. รถไฟฟ้าเจ้าที่เป็นผู้นำราคาสวิงคือ Tesla เพราะต้องซื้อแบตจากคนอื่น ถ้าขึ้นราคาไปก็รอมันลดลง เพราะเทรนของราคาแร่มันลดลง

2. โรงงานผลิตสินค้าต่างๆ สั่งซื้อวัสถุดิบเป็นสัญญา ล่วงหน้าหลายปี และให้ส่งต่อเนื่องด้วยราคาเดียว
- ถ้าเกิดมีการขึ้นราคาของแร่ขึ้นมา กว่าราคาจะขึ้นจริงๆก็เป็นปี เพราะของเก่ายังส่งมาผลิตไม่หมดเลย
- ถ้าราคาลง ยี่ห้ออื่นลงกดดันยี่ห้อที่ไม่ลดราคาลง

3. การประกอบในไทย ต่อให้จีนจะมีโรงงานผลิตรถที่ดีที่สุดในโลกก็ตาม ต้นทุนจะไม่ถูกกว่า ตั้งโรงงานผลิตในไทยอยู่ดี
- เพราะสินค้าวัสถุดิบการผลิต จะไม่ผ่านนายหน้าหลายต่อ ก่อนมาถึงมือลูกค้า
- ไม่มีภาษีหลายตัวก่อนถึงมือลูกค้า
- สินค้าปลิตใกล้มือลูกค้า ต้นทุนการขนส่งจะต่ำมากๆ (ผลิตประกอบตรงนี้ ลูกค้ารับตรงนี้เลย ไม่มีค่าขนส่งข้ามประเทศ)
- ต้นทุนการผลิตในประเทศอาจจะถูกกว่า นำเข้าได้ 30-40% ซึ่งจะถูกกว่าที่มีรัฐบาลมาช่วยอุดหนุน

4 ประเทศไทยลดภาษีนำเข้ารถยนต์ แต่ไม่ได้ลดภาษีนำเข้าเฉพาะแบตเตอรี่ ดังนั้นแล้วแบตจึงราคาแพงมากๆ แต่ถ้าหากแบตประกอบหรือปลิตในไทยด้วยแล้ว นอกจากลดต้นทุนได้เยอะ ยังไม่มีภาษีเรื่องของแบตเตอรี่อีก

____________________________________________________________

ดังนั้นถ้ามีใครบอกว่า "ซื้อก่อนประหยัดก่อน ซื้อทีหลัง คุ้มกว่า" นั้นคือความจริง
ไม่มีใครไม่เสียใจที่ต้องซื้อของแพงกว่าคนอื่น ในขณะที่คุณภาพเท่ากัน ถึงแม้ว่าคนที่ซื้อก่อนจะเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการให้มันราคาลง เพราะหลักของ Economy of Scale


และอย่าไปกลัวว่าถ้าใครบอกว่า "ถ้ามันขึ้นราคา ยอมจ่ายเพิ่มให้เขาไหม"
เพราะมันไม่มีทางขึ้นราคา ของผลิตเสร็จด้วยต้นทุนนั้นมาแล้ว จะไปขึ้นราคาตามต้นทุนอนาคตได้อย่างไร

ขอบคุณค่ะ

คนดูเดือดร้อนแชร์กันเยอะส่วนใหญ่ก็ใช้รถน้ำมันนั้นแหละ

จะขึ้นราคาก็ต่อเมื่อรถไฟฟ้าตีตลาดแตก แบบยอดขายรดต้นคอรถน้ำมันนั่นแหละ

คนดูเดือดร้อนแชร์กันเยอะส่วนใหญ่ก็ใช้รถน้ำมันนั้นแหละ

เอาตามจริง 2 ปีที่ผ่านมาที่รัฐช่วยสนับสนุนให้ลดไฟฟ้าเข้ามาขายในบ้านเรา

ราคาแบตเตอรี่ลดลงไป 6 เท่า

จาก 600,000 หยวนต่อตัน
เหลือ 91,500 หยวนต่อตัน

มีผู้ขายเจ้าไหนที่จริงใจกล้าลดราคาช่วยลูกค้าบ้างไหมนะ
คุณเประหยัดต้นทุนได้เยอะจากวัสถุดิบลดลงได้มหาศาล แต่ไม่มีใครกล้าปรอปากลดราคา
เพราะกลัวโดนลูกค้าเก่าด่า

ผมไม่กล้าซื้อรถไฟฟ้าด้วยหลายๆเหตุผล อีกอย่างผมคิดแค่ว่ารถคือรถ ไว้ขับไปทำงาน กลับบ้าน พาครอบครัวไปกินข้าว นิดๆหน่อยๆไม่ลำบาก แค่ปลอดภัยแอร์เย็นผมก็โอเคละ

แต่ที่อึ้งนิดนึงคือ หลายคนยอมลงเงินเป็นหลักล้านเพื่อรถคันเดียว
อย่างที่เห็นล่าสุด ในเฟส ที่สาวซื้อรถละ ราคาลง มาบ่นตัดพ้อว่ากินไม่ได้นอนไม่หลับ
ผมว่ารถไฟฟ้าตอนนี้มันคือของเล่นของคนมีตังค์มีเวลาอะ
มีตังค์พอที่จะทำที่ชาร์จเองที่บ้านหรือมีเวลาพอไปนั่งรอชาร์จข้างนอก
ยอมใจคนที่ไม่ได้มีเงินมีเวลา แต่กล้าสู้เพื่อรถพวกนี้เหมือนกัน
ทั้งๆที่รออีก2-3ปี อาจจะมีรถที่ดีกว่าออกมาอีก

มองมุมมกลับมันก็ดีในมิติที่ว่า ของ ราคา รถ ค่ายรถมันก็ลดราคาให้ผู้บริโภคนั้นละ

https://www.facebook.com/100064734036221/posts/pfbid02ucAfTedV7kxfZfEvrWihVoN88EsbPCJJyF6bKfUTf5SN4Y52NEvnNFKbJBxaAkM6l/




ใช่ครับ เดือดร้อนกันมาก
กดขำกันใหญ่เลยครับ

ในมุมผมคิดว่าคือ การล้างสต๊อคหรือเคลียของๆBYD
เพื่อเปิดทางให้ตัวที่จะผลิตในไทยมากกว่า

ด้วยความเป็นจริงรถที่จัดจำหน่ายไม่ว่าจะอยู่ที่โชว์รูมหรืออยู่ที่เรเว่
ก็ต้องถูกผลิตมาตั้งวางไว้ก่อนที่ต้นทุนแบตจะลดราคาอีก
ไหนจะขนส่งมาประเทศไทยทางเรืออีก
การที่บอกว่าต้นทุนแบตลดลงเราเลยลดราคาให้ผมว่าตรงนี้
ได้พื้นที่สร้างภาพลักษณ์ให้แบรนด์ดูมีความซื่อสัตย์กับลูกค้าไปเต็มๆ

ไอ้ที่น่ากลัวคือคนที่ซื้อตอนแรก แต่ตอนขายต่อจะถูกราคาที่ลดถูกที่สุดเป็นเกณฑ์นี่สิ
คนที่ซื้อก่อนลดราคาซัก 1-2เดือน โดนหลายเด้งเลยงี้

ไว้เก็บเงินพร้อมเมื่อไหร่แล้วศึกษาตอนนั้นเวลานั้นค่อยถอย

ถ้าผลิตเยอะขึ้น ความต้องการสูงขึ้น แบตเตอรี่จะมีแต่ดีขึ้น และถูกลง รอ เซเว่นเปิดตู้ชาร์ทไฟแล้วค่อยซื้อจะดีกว่า เพราะ ตอนนี้อาจจะไม่เหมาะกับการเดินทางไกล

รอ ชม ราคา ตอนขายต่อ เลยครับบ อยากรู้จะเป็นอย่างไร

เบนซืรุ่นที่ผมขับ ผ่านมา 3ปี กว่า ประกาศลด 7 แสนผมไปเรียกร้องใครได้บ้างครับ

เราซื้อรถมาใช้กันกี่ปีแล้วขาย กันหรอ

บ้านผม เฉลี่ย 10 ปี ต่อคันนะ ถึงแม้ จะมีอยู่ 3 คัน

ต้องมีคำรุ่น limited เพราะอะไรผลิตได้เยอะเพรียงพอกับความต้องการ มันไม่น่าจะปรับราคาขึ้นได้ เว้นออกของใหม่ที่ดีกว่า

สงสัยจะจริงอย่างที่ CK มันว่า จะซื้ออะไร ให้มีเงินมากกว่านั้น10เท่า

ลูกอมขึ้นจาก1บาทเป็น2บาท คนคงไม่รู้สึกอะไร ถ้ามีเงินได้มากกว่านั้นเยอะ