โลธาร์ มัทเธอุสบอกว่ามาร์เซล ซาบิตเซอร์ เป็นนักเตะที่ทำผลงานโดดเด่นสุดในฟุตบอลยูโร 2024

"ผมได้ดูเขาในเกมที่เบอร์ลินเมื่อ ออสเตรีย เอาชนะ ฮอลแลนด์ 3-2"

"ความเร็ว, ความยืดหยุ่น, ความเฉลียวฉลาดของเขา, วิธีที่เขาประสานงานกับเพื่อนร่วมทีม, วิธีที่เขาเล่นเกมรับ, สปีดของเขาเวลาเล่นเกมรุก - ผมแทบจะไม่เคยเห็นเขาแบบนี้ที่ ดอร์ทมุนด์ เลย"




ซาบิตเซอร์เป็นแค่เคสตัวอย่างเล็กๆของการอยู่2ทีมแล้วผลงานต่างกัน

แต่กระทู้อยากให้นึกถึงนักเตะฝีเท้าดีหลายเคสที่ผ่านมาครับ เวลาทีมใหญ่ซื้อไปแล้วทีมเล่นอีกสไตล์ ไลน์วิ่งแตกต่างจากทีมเดิม รวมทั้งตำแหน่งการยืน จังหวะการเล่น โซนที่ให้เล่น เพื่อนที่วิ่งมาซัพพอร์ต (มี/ไม่มี)  และอาจรวมไปถึงบทบาทที่ให้นักเตะเล่น ฯลฯ

ส่งผลกับฟอร์มแค่ไหนครับถ้าโค้ชไม่วางแผนก่อนซื้อ อย่างเช่นซื้อตัวรุกไปจากทีมที่เล่นบอลระบบ แต่ทีมใหม่ให้นักเตะเล่นแบบชงเองกินเอง

ทีมชาติแล้วเล่นดี ผมคิดถึงดิยุฟเลย

มีผลแน่นอน มีผลมากด้วย
นักเตะบางคนเล่นในสโมสรต้องปรับตัวแท็คติคตามโค้ช
ยิ่งถ้าอยู่ทีมใหญ่มันยิ่งต้องยืดหยุ่นมากๆเพื่อให้ทุกคนในทีมสามารถเล่นได้
แต่ทีมชาติ ถ้าเป็นนักเตะมีชื่อเสียงในประเทศที่ไม่ใช่ทีมผู้นำ โค้ชส่วนใหญ่จะให้นักเตะแบบนี้เป็นศูนย์กลางทีม แล้วกรับแท็คติคให้เอื้อมากที่สุด

หลักๆผมว่าเป็นเรื่องทรัพายกรมนุษย์

นักเตะมีสองแบบ พวกที่ครบเครื่อง เล่นที่ไหนก็ปรับตัวได้ กับนักเตะที่เทพสุดๆกับระบบ

เหมือนอินซากี้ เทพมากกับยูเวนตุสยุคนั้น แต่ถ้าไปเล่นกับทีมที่ระบบเคาะไปมา ครองบอลเอาชัวร์ สไตล์แบบอินซากี้ ก็จะไม่ปังกับทีมนั้น

เทียบกับโด้(ตอนพีก) ครบเครื่องมาก ไปเล่นทีมไหนก็เด่นได้หมด เพราะเจ้าตัว เน้นที่ตัวเองเข้าใจเกมสูง

พี่รี่ตอนมาผีระยะสั้นๆก็ไม่ได้แย่นะ แต่สภาพร่างกายมันไม่ดีเท่าที่ควร เป็นประเภทนักเตะที่มีความเข้าใจเกมฟุตบอลได้ดี

ถ้าแนวทางการไม่ได้แตกต่างกันมากจนสุดขั้ว พวกเข้าใจเกมนี่เล่นสบาย ช่วยทีมได้มาก เพราะยืดหยุ่นในการเล่น รู้ว่าตัวเองควรทำอะไรในตอนไหน Tempo ,Timing แบบนี้ควรทำอะไร

หนูน ไง แค่เปลี่ยนสีเสื้อก็ยิงยับเลย

ผีอย่างควายไปเอาเมาส์มาเฉย ซาบิเซอร์ดีกว่าหมด