แคสเปอร์ ฮุลมันด์ ผู้จัดการ เดนมาร์ค วิจารณ์ VAR และกฎแฮนด์บอลอันไร้เหตุผลจนน่าขำ ทำให้โดนริบประตู แถมเสียจุดโทษก่อนพ่าย เยอรมนี ประเทศเจ้าภาพ 2-0 ตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูโร 2024

โยอาคิม แอนเดอร์เซ่น ฝั่ง "โคนม" ส่งลูกเข้าประตูไปก่อนในนาทีที่ 48 แต่ VAR ภายใต้ ดาวิด คูต กับ สจ๊วต แอตเวลล์ เช็คล้ำหน้า โธมัส เดลานี่ย์ เพียงนิ้วเท้าแล้ว ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ เปาในสนามสั่งริบคืน

ถัดจากนั้นหนึ่งนาที โอลิเวอร์ ดูจอข้างสนามจับแฮนด์บอล แอนเดอร์เซ่น จังหวะเข้าบล็อคลูกเปิดของ ดาวิด เราม์ แล้วเป็น ไค ฮาเวิร์ตซ์ ยิงจุดโทษกุมความได้เปรียบ ก่อนที่ จามาล มูเซียล่า ผลิตสกอร์ปิดกล่อง

"อย่างแรกขอแสดงความยินดีกับชัยชนะของ เยอรมนี พวกเขากดดันใส่ตลอด 15 นาทีแรก และเราต้องเอาชีวิตรอดอย่างแท้จริง" ฮุลมันด์ สัมภาษณ์หลังปราชัยที่ เวสต์ฟาเล่น สตาดิโอน

"หลังจากนั้นมันเป็นเกมสูสี และถูกตัดสินด้วยการใช้ VAR สองจังหวะ ผมมีภาพถ่ายอยู่ในมือ เราล้ำหน้าแค่ 1 เซ็นติเมตร ในแง่ของข้อมูลแล้วมันไม่มีเหตุผล มันไม่ใช่วิธีที่เราสมควรใช้ VAR"

"ถัดมาไม่กี่นาทีเราเสียจุดโทษ ผมเบื่อหน่ายเหลือเกินกับกฎแฮนด์บอลอันน่าขำเหล่านี้ เราไม่สามารถเรียกร้องให้ผู้เล่นแนวรับวิ่งด้วยท่าทางที่ผิดธรรมชาติ แอนเดอร์เซ่น กระโดดขึ้นและห่างจากลูกไปแค่ 1 เมตร"

แม้ตัดสินไม่เป็นใจแต่ ฮุลมานด์ ยังยืนยันเป็นผู้สนับสนุนเทคโนโลยี VAR "ผมชื่นชอบ VAR มาเสมอ มันคือเทคโนโลยีที่สามารถสร้างเรื่องดีให้วงการ"

"แต่ผมคิดว่าการใช้งาน VAR ที่ดีต้องสามารถเห็นได้ชัดเจนจากดวงจันทร์ ไม่ใช่แค่ตัดสินจากความแตกต่างเพียงไม่กี่เซ็นติเมตร มันต้องเป็นจังหวะที่แน่นอนชัดเจน การพิจารณาควรใช้เวลาเร็วขึ้นเช่นกัน มันต้องมีวิธีพัฒนาขึ้น"

ยูเลียน นาเกิลส์มันน์ เฮดโค้ชคู่แข่ง ร่วมเห็นใจ "เราได้จุดโทษ และผมเข้าใจความหงุดหงิดของ เดนมาร์ก มันเป็นจังหวะที่ค่อนข้างโหดร้าย"

"ผู้เล่น เดนมาร์ก ไม่ได้เจตนาใช้มือ แต่มันคือสิ่งที่กฎเขียนไว้ หากสถานการณ์กลับกัน ผมก็คงรู้สึกหงุดหงิดเช่นกัน"

อย่างไรก็ตาม โอลิเวอร์ ผู้ตัดสินคนดังจาก พรีเมียร์ ลีก ยังได้รับคำชม จากการเป่าหยุดเกมช่วงนาทีที่ 35 เพราะสภาพอากาศพายุฝนตกหนัก

"มันเป็นเรื่องถูกต้องที่ผู้ตัดสินสั่งหยุดเกม หนึ่งในลูกทีมผมเคยโดนฟ้าผ่า และที่สนามวันนี้ก็มีสายฟ้าอีกครั้ง" ฮุลมันด์ กล่าวย้อนถึงเหตุการณ์ปี 2009 ระหว่างเป็นผู้ช่วยโค้ช นอร์ดสเยลแลนด์ แล้ว โยนาธาน ริชเตอร์ ผู้เล่นของทีมโดนฟ้าผ่า จนสูญเสียขาไปหนึ่งข้าง

ใช่ ถ้าเป็นลีคอื่น

แต่ยูโรนี่มีการฝังชิพในบอล วัดกันตามกราฟเลย เสี้ยววิก้วัดได้ มันเลยเป๊ะแบบจัดๆ55555

จะ 1 เมตร 1 เซน หรือ 1 มิล ล้ำก็คือล้ำไหมอ่ะ

VAR เกิดมาเพื่อสิ่งแบบนี้อยู่แล้ว

ก็ต้องแยกเป็นเรื่องๆ เรื่อง var ก็ว่าด้วยการทำงานของ var ซึ่งมันก็ทำหน้าที่ของมัน เยอรมันก็โดนริบไป 2 ประตูจากความถูกต้องของ var ส่วนเรื่องแฮนด์บอลก็ไปว่าในเรื่องกฏ จะให้แบบไหนผิดแบบไหนไม่ผิดก็ไปว่ากันในส่วนนั้น

จะมี var ไว้ทำไมอะ ถ้ามันสรุปออกมาแล้วก็ไม่ยอมรับ

VAR ควรตัดสินให้ถูกใจ ไม่ใช่ถูกต้องเหรอ

ปัจจุบันนักเตะและแทกติกแต่ละทีมไม่ต่างกันมาก เกมใหญ่มักตัดสินด้วยรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ

ก็ถูกในแง่ความจริงล้ำหน้าแค่ระดับนิ้วหรือเซนมันก็ไม่มีผลกับการเล่นเท่าไหร่ แต่ปัจจุบันนี้กฏยึดตามนี้อยู่ก็ต้องยอมรับมัน ส่วนแฮนด์บอลอันนี้บอลมันมีเทคให้จับได้อยู่แล้ว เพื่อให้ลองเช็คดูอีกที ซึ่งมือก็ไม่ได้แนบลำตัวจริงๆ ก็มีผลกับลูกเปิดของฝั่งตรงข้ามนะ

ก็ถ้ามันทำหน้าที่ถูกแล้ว จะบ่นทำไม

สิ่งที่ทำให้คนกังขา VAR ว่าถูกต้องชัดเจนหรือเปล่า มันไม่ใช่การวัดจังหวะสุดท้าย แต่ปัญหามันอยู่ที่การวัดจังหวะบอล เริ่มออกจากเท้าคนส่งต่างหากครับ

อย่างกรณีการล้ำครั้งนี้ ที่แทบจะเป็น 1 เซ็นติเมตร ถ้าเราจับภาพเริ่มต้นการออกบอล ถอยไปอีกเสี้ยววิล่ะ การล้ำ 1 เซ็นติเมตร อาจไม่เกิด. หรือความจริงไม่ล้ำแต่ใช้การเดินหน้าภาพไปอีกเสี้ยววิ ก็กลายเป็นล้ำหน้าแทน นี่แหละคือปัญหาสำคัญของ VAR ที่ทีมเสียผลประโยชน์ ยังยอมรับไม่ได้ในบางกรณี

เพราะ VAR ก็ยังควบคุมโดยทีมงานมนุษย์บางกลุ่ม ความถูกต้องจึงยังใช้ไม่ได้ 100%

ปล. แต่ดีกว่าไม่มีเยอะเลย อันนี้ต้องยอมรับ

ปล2. ผมว่าหลายท่านยังจับประเด็นที่ผมจะสื่อผิดไปนะครับ ผมไม่ได้หมายถึงจังหวะสุดท้าย ที่ทำเป็นภาพกราฟฟิก ผมหมายถึงตอนจังหวะบอลออกจากเท้าคนแอสซิส นี่แหละปัญหาสำคัญในการจับภาพ

ไม่ได้ชอบ VAR

แต่ก็ต้องรับตามนี้ กฏมันมาแล้ว

ล้ำแค่มากแค่น้อย ก็คือล้ำ

ใช่ ถ้าเป็นลีคอื่น

แต่ยูโรนี่มีการฝังชิพในบอล วัดกันตามกราฟเลย เสี้ยววิก้วัดได้ มันเลยเป๊ะแบบจัดๆ55555

เห็นใจนะเฮีย
แต่มันก็ล้ำจริง

เห็นใจเลย ล้ำเสี้ยววิ จังหวะแฮนด์บอลก็ไวมากๆแบบนักเตะคงไม่ได้ตั้งใจแน่ๆ สรุปซวย

ก็ล้ำจริงนิ ส่วนแฮนด์บอลเอาจริงก็เห็นด้วย แต่ทีมที่เชียร์โดนลูก ปญอ กว่านี้ก็เคยมาละ

เขาใช้กล้องควบคุมด้วยซอฟแวร์ให้เอไอเจเนเรตภาพสามมิติออกมาเลยไม่ใช่เหรอ