อ่านคอมเม้น ไม่แปลกใจแฟนแมนยูคนเค้าชอบล้อกัน ขนาดผมเชียร์ทีมเดียวกันยังเกลียด5555

ตอนดีอวยไส้แตก พอไม่ดีทำไรก็ผิด ไม่รู้ชีวิตจริงเป็นแบบนี้ด้วยปล่าว

ก็มันคาราคาซังยังครับ จะไม่ให้ไปต่อหรือไปต่อก็ประกาศให้มันจบๆไปครับ

อย่างถ้าจะหาโค้ชใหม่ แผนเสริมทัพที่วางไว้เปลี่ยนแน่ๆ เพราะโค้ชใหม่มันต้องใช้เวลา

สแกนทีมเสร็จแล้วต้องมาวางแผนเสริมทัพอีก มันเสี่ยงที่จะวางแผนไม่ทัน เช่นฤดูกาลที่แล้ว

เทนฮากอยากได้เคน แต่ทำไรอยู่ไม่รู้ไปเอาเมาท์มาก่อน สุดท้ายไม่ได้เคน ไปเอาฮอยลุนด์ที่เจ็บอยู่

แถมได้มาหลังปรีซีซั่นนักเตะกว่าจะเริ่มปรับตัวได้ก็ปาเข้าไปตอนปีใหม่มันช้าไปครับ

หรือถ้าให้อยู่ต่อ แผนที่วางไว้ก่อนจบฤดูกาล มันจะได้เริ่มเดินสักที เสริมทัพมันไม่ได้มีแค่ในยุโรปนะครับ

เพราะแมนยูมันต้องเสริมเยอะเหมือนและพวกนักเตะที่ไม่ได้เล่นยูโรและอยู่ในแผนเสริมทีม มันก็ควรจะปิด**ดีลก่อน

มันน่าจะเป็นเหตุการณ์ปกติหรือเปล่า

เทนฮาก ก็พักร้อนตามปกติ แมวมองก็ซุ่มดูฟอร์มนักเตะต่อไป

ผอ.กีฬาต่างๆ ทีมผู้บริหารที่แต่งตั้งมาใหม่ ที่เริ่มงานได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ก็ทำงานในทางลับกันต่อไป

คือ ปัญหาเรื่อง ผจก.ทีม ไม่ใช่ปัญหาแรกที่แมนฯยู จะทำหรอก

แค่เอาตัวผู้บริหารเริ่มทำงานให้ครบหมดก่อนดีกว่า สิ่งนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ เซอร์จิม โฟกัสมากกว่า

--ความเห็นส่วนตัว--
1. สถานการณ์ เทนฮาก ปกติ นักข่าวคาดการณ์ไปเอง
2. สถานการณ์ นักเตะ คงรอดูฟอร์มนักเตะหลังยูโร ที่ต้องรอดูคือต้องโฟกัสแต่ละดีล ใช้เงินให้คุ้มที่สุด เดาว่าไม่มี บิ๊กเนม
3. สถานการณ์ ผู้บริหารทีม ชุดใหม่ น่าจะหาทางทำให้ทุกคนสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่อยู่

ในขณะที่ ทีมบริหารชุดใหม่ ยังคาราคาซัง ทุกคนยังทำงานกันได้ไม่เต็มที่
การจะเปลี่ยนผู้จัดการทีม พร้อมทั้งเสียเงินกินเปล่าโดยใช่เหตุ จะเป็นการเพิ่มเงื่อนไขภาระ เปล่าๆ
อีกทั้งยังต้องรักษากฎการเงินเพื่อการเสริมทัพ
คิดว่าจะเป็นการดีกว่า หากจะรันแผนระยะยาว ในสภาพที่พร้อมกว่านี้

ซัมเมอร์นี้ น่าจะจัดการเซ็ต โครงสร้างทีมบริหาร วางแนวทาง
โดยใช้ เทนฮาก ซึ่งมีสัญญาปีสุดท้าย เป็นหนูลองยา
ส่วนนักเตะ คงจะเสริมเท่าที่จำเป็น

สรุป
ผมมองว่า เทนฮาก สถานการณ์ปกติมากครับ แมนฯยู คงยังไม่เปลี่ยน ผจก. ทีม
ยังมีอีกหลายเรื่องที่ แมนฯยู ยังต้องทำอยู่ครับ

ปล.ฤดูกาลที่แล้ว ไอ้เรื่องซื้อตัวผิดเป้า ซื้อตัวดูมั่วๆ
น่าจะเป็นผลพวงจากเป้าหมายอันดับแรกๆ ที่เล็งไว้ พลาดไปหมดแล้ว
จึงต้องมีการซื้อพวกที่ไม่ใช่เป้าหมาย เพื่อแสดงอีโก้ตามแนวทางที่เคยทำมาทุกปี
ซึ่งที่มันเกิดขึ้น ไม่ได้เกิดจากไม่ได้วางแผน แต่มันผิดแผน และต้องทุ่มเพื่อปิดแผล มากกว่า

เข้าใจในมุมท่านนะครับ

ที่ผมร้อนใจเพราะการเสริมทัพที่ท่านว่าในปล.เนี่ยแหละครับ แมนยูเวลาดีลแข้งเป้าหมายหลัก โดนเขากดราคา

มันก็ยื้ออยู่แบบนั้นจนเวลาเหลือน้อย เป้าหมายรองของแมนยู แต่ละตัวค่าตัวแพงๆทั้งนั้นแถมซื้อผิดสเป็กด้วย

ผมยกตัวอย่างดีลคาเซละกันเป้าหมายหลักคือ เดอ ยอง แต่เอา คาเซ ที่วิธีการเล่นมันทั้ง2คนไม่เหมือนกัน

ผมว่าเนี่ยแหละแสดงถึงการไม่วางแผน ถ้าวางแผนจริงมันต้องไปเอาเป้าหมายรองที่พิมพ์เดียวกันวิธีการเล่นคล้ายๆกัน

ส่วนเรื่องปัญหาโค้ชจะอยู่จะไปผมก็คิดเห็นส่วนตัวตามข่าวที่อ่านมาครับ คือไม่มีใครรู้หรอกครับว่าทีมงานแมนยูมันทำอะไรกันก่อน จะเดินงานกันยังไง ผมก็ทำได้แค่คาดเดาจากข่าวช่วงก่อนนัดชิง FA และหลังนัดชิงซึ่งตอนนั้นกระแสปลดโค้ชแมนยูหนักมาก

เจ้าของทีมเค้าจงใจทำให้ช้าเพื่อให้ ETH หงุดหงิดใจแล้วลาออกเองหรือเปล่าครับ