ถ้าไม่เก่งจริงหรือมีความสามารถโดดเด่นเลือกได้ก็อย่าออกจนกว่าจะได้งานใหม่ครับ

งานมันหายากจริงๆนะช่วงนี้ มันยากกว่าก่อนโควิทหลายเท่านะ

ถ้าเอาตามหลักคือ เก็บสำรองให้รวม 6 เดือนแล้วก็ออกก็ได้ครับ

แต่ทั้งนี้ท่านลองยื่นสมัครงานบริษัทดูไปก่อน

ส่วนถ้ามัน Toxic ไม่ไหวแล้วก็ออกได้ครับ

แค่ท่านอาจจะต้องรีบหางานให้ก่อนเงินสำรองหมดนั่นแหละ

ส่วนเงินสำรองฉุกเฉินมันก็มีไว้กรณีนี้แหละครับ

บางทีมันต้องออก "ฉุกเฉิน"

ถ้าประเมินแล้วเราหางานได้ภายใน 3-6 เดือนก็ดีไปครับ

ไม่งั้นก็เอาวันลามาใช้กรณีแบบเครียดจัดแล้วลาไปบ้างครับ

ถ้ามีธุรกิจหรืองานที่รองรับแล้วก็ออกเลยครับ แต่ถ้าแบบออกมาตายเอาดาบหน้า(แบบผม) อย่าเลยครับ ผมดิ่งและเครียดมากจนแทบอยากตายหลายรอบเลย ถึงที่บ้านจะพอมีคนสนับสนุน แต่รู้สึกว่าตัวเองโคตรเป็นภาระอยากตายให้จบๆไป

ผมออกมาตายดาบหน้าครับ, แต่ถ้าย้อนกลับไป คงไม่ครับ ... แต่ผมแค่โชคดีได้งานช่วงเดือน 3 พอดี

งานในตำแหน่งผมมีการแข่งขันที่สูงมากและจำนวนเปิดรับน้อย พอออกมา ถึงจะรู้ว่าเรามีเงินเก็บพอ 5-6 เดือน แต่แค่เดือนที่ 3 เราก็มองภาพออกละครับถ้าหางานไม่ได้ คือ มันรู้สึกแย่และกดดันเสมอ ยิ่งถ้าญาติพี่น้องรู้นี่ กดดันเราเพิ่มแน่ๆ

ช่วงนี้ต้องบอกว่าหางานยากนะ ผมรู้สึกอย่างนั้น

ดังนั้นใช้เวลานี้ อดทนและเร่งหางานดีกว่าครับ ให้มองว่าได้เร็วเท่าไรก็ปลดความทุกข์จากหัวหน้างานเร็วขึ้นเท่านั้น
ขอให้เจองานที่ถูกใจไวๆนะครับ

ส่วนตัวเคยลาออกเพราะสถาณการณ์คล้ายๆกันเลย ตอนนั้นที่ลาออกมามีเงินสำรองอยู่ประมาณ 5-6 เดือน
ตอนนั้นคิดว่า 5-6 เดือนยังไงก็หางานได้ทัน สบายๆ แล้วดันออก ตอนช่วงโควิดรอบ 2 พอดี
ช่วงแรกที่ออกมาอ่ะ โคตรแฮปปี้เลย หลุดจากวงจรการทำงานแบบ TOXIC นอนตื่นกี่โมงก็ได้
นั่งเล่นคอมทั้งวัน ออกไปเที่ยวไปใช้ชีวิต ใช้ชีวิตแบบนั้นช่วงเดียวเท่านั้นแหละ
ซักพักเบื่อ พอเงินเริ่มหมดก็ต้องเริ่มกลับมาเริ่มหางานทำแบบจริงๆจังๆแล้ว

ช่วงนั้นโคตรเครียดเลย ในขณะที่รายจ่ายมีมาตลอด แต่รายรับแทบไม่มีเลย
แต่ละวันมันผ่านไป ยิ่งกดดัน ยิ่งเครียดขึ้นเรื่อยๆ ตอนได้งาน ตอนนั้นเหลือเงินติดบัญชีไม่ถึงหมื่น

ผ่านมาถึงทุกวันนี้ คิดเสมอว่า จะไม่ทำแบบนั้นอีก เพราะมันมีความสุขแค่ช่วงแรกๆที่ว่างงานแค่นั้นจริงๆ

ผมเคยมีเงินเก็บที่ใช้แบบประหยัดๆได้ 7-8 เดือน ตอนนั้นออกมาเพราะเบื่อจัด

สรุปออกมาชิวช่วงแรกๆ ไปเรื่อยๆเบื่อครับ เลยกลับไปทำงานใหม่ ได้งานตอนออกมาว่างๆได้ 3 เดือน

สรุปคือแนะนำว่าให้หางานใหม่ให้ได้ก่อนออกครับ แล้วใช้วันลาช่วง 1 เดือนก่อนเริ่มงานใหม่ครับ

หาที่อื่นก่อนครับ ได้แล้วค่อยลาออกครับ

เงินสำรอง ค้องอยู่ได้อย่างน้อย 2 ปี ทนต่อไป ครับ

เศรษฐกิจ แบบนี้ อย่าเด็ดขาดครับ

จากที่เคยเจอ ไม่ควรอย่างยิ่ง

ผมเคยโดนจ้างออก เคว้งเลย

เครียดงาน ยัวดีกว่าเครียดเพราะตกงาน เขื่อผม

ไม่ควรอย่างยิ่ง ทนไว้ก่อนครับ

ไม่ควรเลยครับ
แล้วมีสำรองแค่ 3-4 เดือนเอง มันไม่ได้เยอะเลยนะ
กว่าจะหางานได้ก็ประมาณ 3 เดือนนั่นแหละ
และยิ่งเจอเศรษฐกิจแบบนี้อีก อะไรๆก็ไม่แน่นอน

ควรจะหางานใหม่ให้ได้ก่อน จะได้ไม่ต้องไปลุ้นทีหลัง
ไม่งั้นถ้าออกแล้วยังหางานไม่ได้แล้วเงินสำรองหมด คราวนี้น่าจะหนักกว่าที่เจอในออฟฟิศนะครับ

ระหว่างนี้ก็หางานรอเลย
ส่วนที่ออฟฟิศก็ทนๆเอาอีกนิดนึง ยังไงก็จะไปอยู่แล้ว ไม่นานหรอก
ยึดหลัก "ช่างแม่ม" แค่ทำตามหน้าที่ในส่วนที่ต้องรับผิดชอบพอ นอกเหนือจากนั้นช่างมัน
หัวหน้าก็ไม่ต้องไปสนใจอะไรมาก อย่าเอามาใส่ใจ ปล่อยผ่าน ปล่อยวาง

ให้ได้งานใหม่ก่อนดีกว่า

มันจะเครียดตอนเข้าเดือน 3 ที่ยังนั่งว่าง แล้วหางานไม่ได้

ผมผ่านมาละ

ว่างงาน 4 เดือน พร้อมต้องผ่อนบ้านไปด้วย...เครียดจัด

toxic เรื่องขี้หมาเลย ถ้าไม่มีงานแม่งเครียดกว่าเยอะ หางานใหม่ก่อนเถอะ